“ให้ความสำคัญกับสิทธิของเหยื่อ มากกว่า สิทธิของอาชญากร” แนวคิดของพรรคชาติเสรีนิยม ซึ่งเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ที่ผ่านมา ต่อการให้ความสำคัญกับเหยื่อ มากกว่า อาชญากรรมเด็ก
รัฐควีนส์แลนด์ในออสเตรเลียได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่เพิ่มโทษให้เด็กอายุ 10 ขวบขึ้นไป ซึ่งทำผิดอาชญากรรมร้ายแรง เช่น ฆาตกรรมและทำร้ายร่างกายสาหัส โดยจะต้องรับโทษเทียบเท่าผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความกังวลในสังคมที่มีอาชญากรรมจากเยาวชนเพิ่มขึ้น แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญและองค์การสหประชาชาติที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า การเพิ่มโทษไม่ได้ช่วยลดอาชญากรรมและอาจทำให้ปัญหาลุกลามขึ้น
ทำให้เกิดข้อคิดเห็นต่าง ๆ นานา ว่า การเพิ่มโทษสำหรับเด็กไม่ได้ทำให้ อาชญากรในเด็กน้อยลงแต่กลับเพิ่มสูงขึ้น ทางด้าน UN ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า “กฎหมายนี้ไม่คำนึงถึงสนธิสัญญาเรื่องสิทธิมนุษยชนของเด็ก และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ”
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสถิติแสดงให้เห็นว่า อาชญากรรมจากเยาวชนในรัฐควีนส์แลนด์ลดลงในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา
กฎหมายใหม่กำหนดให้เด็กที่กระทำผิดร้ายแรงจะต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่สามารถขอทัณฑ์บนเพื่อปล่อยตัวก่อนกำหนดอย่างน้อย 20 ปี จากเดิมติดคุกสูงสุด 10 ปี ถึงตลอดชีวิต สำหรับคดีที่โหดร้ายพิเศษเท่านั้น และยกเลิกข้อกำหนดที่ว่า “โทษคุมขังเป็นวิธีสุดท้าย” ซึ่งหมายความว่า ศาลสามารถตัดสินโทษได้ตามความรุนแรงของอาชญากรรม และบังคับใช้การลงโทษอย่างเต็มที่
ขณะที่ประเทศไทยเกิดเหตุเศร้าที่เยาวชนเป็นผู้กระทำผิด ก็ถูกพูดถึงเรื่องการแก้กฎหมายเอาผิดเยาวชนเท่ากับผู้ใหญ่ในช่วงแรกเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้ถูกพูดถึงอีก จนถึงตอนนี้ยังไม่ปรากฎข้อมูลว่าทางรัฐดำเนินการอย่างไรต่อไป