กลายเป็นประเด็นร้อนแรงเลยทีเดียว หลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้ขึ้นตอบกระทู้ นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยนายพิชัย กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยชาวนา ความทุกข์ของชาวนาก็คือความทุกข์ของแผ่นดิน การติดต่อขายข้าวล่วงหน้ากับตลาดรายใหญ่ อีกทั้งปลายเดือนมีนาคมจะไปเซ็นสัญญาซื้อขายข้าว 370,000 ตัน ยืนยันขายได้แน่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมแนะชาวนาว่า ในการแก้ปัญหาระยะยาว กระทรวงพาณิชย์จะหาพืชอื่นเพื่อสร้างรายได้ คือ การปลูกกล้วย เนื่องจากตนมองว่าต้องการให้ชาวนาปลูกพืชที่มีรายได้ยั่งยืน และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ Facebook ถึงปมร้อนนี้เช่นเดียวกัน ระบุว่า “#นายพิชัยต้องใช้สมองคิดเรื่องข้าวมาก ๆ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ไปตอบกระทู้ของฝ่ายค้านในสภา กรณีราคาข้าวเปลือกราคาตกต่ำ จะแนะนำให้ชาวนาไปปลูกกล้วยแทนข้าว ไม่แปลกใจเลยที่นายพิชัยตอบแบบนี้ ทำให้พี่น้องชาวนาด่า นายพิชัยกันทั้งประเทศ มีอย่างที่ไหนชาวนาเขาเรียกร้อง แก้ปัญหาข้าวเปลือกราคาตกต่ำ แทนที่นายพิชัยจะหาทางออกที่ดี กลับให้ไปปลูกกล้วย”
นพ. วรงค์ แนะ 3 ข้อให้ “พิชัย” ใช้สมองคิดตาม
1.ข้าวเปลือกราคาถูก แต่ทำไมข้าวสารที่คนไทยบริโภคในประเทศราคาแพง นายพิชัยเข้าใจความสัมพันธ์ ของราคาข้าวเปลือกกับราคาข้าวสารในประเทศไหมว่า…มีความไม่ปกติเกิดขึ้น คือฝ่ายพ่อค้าข้าวสารรวยมาก แต่ชาวนาขายข้าวเปลือกมีแต่จนกับจน
2.ข้อมูลในปี2566 ปริมาณต้องการข้าวสารที่ใช้ในประเทศประมาณ60%เศษ หรือประมาณ13.3ล้านตัน ของปริมาณข้าวสารทั้งหมด และในปี2568-ปี2569 ความต้องการข้าวสารในประเทศ คาดว่าประมาณ 14.2-14.6 ล้านตัน มีแนวโน้มสูงขึ้น
3.ไม่ว่าราคาตลาดโลกผันผวน เพราะอินเดียส่งออก แต่ราคาข้าวสารในประเทศไม่เคยถูกลง มีแต่ราคาจะขยับตัวสูงขึ้น
พร้อมทั้งตั้งคำถามถึง นายพิชัย ระบุว่า “สิ่งที่ต้องถามนายพิชัย จากข้อมูลคร่าวๆที่ให้ทราบ มองอะไรออกไหมครับ คุณเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบราคาข้าว จะปล่อยให้นักธุรกิจค้าข้าวสารร่ำรวยมากๆ แต่ปล่อยให้ชาวนาขายข้าวเปลือกราคาถูกเช่นนี้อีกหรือ นั่นคือ “ข้าวเปลือกถูกแต่ข้าวสารแพง”
นายพิชัยยังมีความคิดที่จะให้ชาวนา ไปปลูกกล้วยอีกหรือ ในเมื่อข้าวเป็นสินค้าควบคุม ทำไมคุณไม่ใช้อำนาจไปควบคุมราคาข้าวเปลือก เพื่อช่วยชาวนาบ้าง
โดยเอากำไรจำนวนมาก ของราคาข้าวสารในประเทศ มาคืนให้กับราคาข้าวเปลือกของชาวนา ผมเชื่อว่าชาวนาจะขายข้าวเปลือกได้ตันละ 10,000 บาท โดยไม่ต้องไปปลูกกล้วย และไม่ต้องใช้ภาษีมาอุ้มราคาข้าวเปลือกด้วย”
“ถ้านายพิชัยคิดเป็น ไม่ใช่พวกรัฐมนตรีปัญญาอ่อน คุณควรรีบดำเนินการเลย โดยใช้วิธิการคล้ายๆอ้อย แต่ถ้ายังคิดให้ชาวนาไปปลูกกล้วย ผมคิดว่าคุณโดนปลดออกจากรัฐมนตรีพาณิชย์แน่นอน” นพ.วรงค์ ระบุทิ้งท้าย