จากนโยบายหาเสียงสุดอลังการ แจก 10,000 บาท ให้ทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปแบบไร้เงื่อนไข สู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า…รอบแรก เปลี่ยนเป็นแจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง รอบสอง หดเหลือแจกเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และรอบล่าสุด เดิมประกาศ “แจก 16-59 ปี” แต่สุดท้ายหดลงเหลือ 16-20 ปี จนถูกตั้งคำถามว่า นี่คือการ “ซอยโครงการยิก” ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลถังแตกแล้วใช่หรือไม่?
“เป็นโครงการที่สยองจนขนหัวลุก!” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ของ The Publisher ที่ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร โดยอธิบายถึงความ “ขนพองสยองเกล้า” ของโครงการนี้ไว้ว่า “นี่เป็นเรื่องสยองที่สุดเท่าที่เคยพบเจอในชีวิต” ศิริกัญญากล่าว “เราเห็นอยู่กับตาว่าโครงการนี้ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังเดินหน้ากู้เงินมาแจกต่อ”
สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึก “สยอง” ได้แก่
- เปลี่ยนนโยบายไปเรื่อย ๆ จนแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก
- ยังเดินหน้าทั้งที่รู้ว่าไม่คุ้มค่า
- ระบบหลังบ้านยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ใช้ประชาชนเป็น “หนูทดลอง”
- เงินไม่พอ แต่ยังพยายามแจกแบบแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ
16-20 ปี = หนูทดลองระบบ?
อีกประเด็นที่ทำให้ศิริกัญญาติดใจคือ รัฐบาลให้กลุ่มอายุ 16-20 ปีเป็นกลุ่มแรก ซึ่งถูกอ้างว่าเป็น “การนำร่องเพื่อทดสอบระบบ ถ้าต้องทดสอบระบบก่อนแสดงว่าระบบยังไม่พร้อม แล้วทำไมถึงรีบเร่งแจกเงิน ทั้งที่ยังจัดการระบบไม่ได้? นี่เป็นการทำงานที่ไม่เป็นมืออาชีพของรัฐบาล” ศิริกัญญากล่าว “ฝ่ายรัฐบาลยังทำระบบไม่สำเร็จ ซึ่งสะท้อนระบบราชการเกี่ยงงานกัน จนไร้เจ้าภาพที่แท้จริง แต่คนที่รับสิทธิต้องเป็นฝ่ายรับกรรม ถูกบังคับให้ใช้ระบบที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์”
“งบประมาณมีไม่พอใช่ไหม?”
“พูดง่าย ๆ คืองบไม่พอแน่นอน” ศิริกัญญา ฟันธง พร้อมให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า งบที่กันไว้ปี 2568 มีเพียง 1.8 แสนล้านบาท รวมกับที่ใช้ไปแล้วก่อนหน้า ทะลุ 3 แสนล้านบาทไปแล้ว และตอนนี้เหลืออยู่ราว 1.5 แสนล้านบาท เท่านั้น “ถ้าเงินพอ ทำไมต้อง ‘ซอยโครงการ’ ถี่ขนาดนี้? ตอนแรกคิดว่าอาจจะลดกลุ่มผู้ได้รับจาก 16-59 ปี ลงมาเหลือ 16-35 ปี แต่พอเห็นว่าซอยเหลือแค่ 16-20 ปี ก็เริ่มสงสัยว่ารัฐบาลจะมีเฟสถัดไปแบบ ‘แจกทีละ 5 ปี’ จนกว่าจะครบทุกคนที่ลงทะเบียนหรือเปล่า? ถ้าทำแบบนี้อาจมีเป็น 10 เฟส“
ไม่คุ้มทางเศรษฐกิจแต่ทำไมรัฐบาลยังเดินหน้า?
“เพราะรัฐบาลสร้างความหวังไว้แล้ว ถ้าถอยตอนนี้ คะแนนนิยมทางการเมืองหายหมด คนที่รอเงินก็พร้อมจะด่า ดังนั้นรัฐบาลเลยเลือกที่จะ ‘แจกยังไงก็ได้’ แม้จะรู้ว่าโครงการไม่คุ้มค่า นี่คือการเอาคะแนนนิยมเป็นหลัก ไม่ใช่ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และนี่คือความน่าสยองชวนขนหัวลุกของโครงการนี้”
“ใช้ภาษีประชาชนกับโครงการที่ไม่คุ้มค่า แฟร์กับประชาชนหรือไม่?”
“ไม่แฟร์เลย!” ศิริกัญญา ตอบทันทีเมื่อถูกถามเรื่องนี้ เธอขยายความว่า
นโยบายใด ๆ ก็ตามที่ใช้งบประมาณ ต้องมีเป้าหมายที่คุ้มค่า แต่นี่คือโครงการที่เดินหน้า ทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ประชาชนบางคนอาจจะดีใจที่ได้เงินหมื่น แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีขึ้น สุดท้ายจะย้อนกลับมาเป็นผลร้ายทางการเมืองของเพื่อไทยเอง
“ดิจิทัลวอลเล็ตจะจบที่ตรงไหน?”
“ยังเดาไม่ออกเลย!” แต่แม้จะยังเดาไม่ออก ศิริกัญญา ก็วิเคราะห์ว่า รัฐบาลนี้ดันทุรังให้มันเกิดขึ้นแน่ ๆ เพียงแค่ ‘จะเกิดเมื่อไหร่? แจกครบทุกคนที่ลงทะเบียนไหม?’ นี่ยังเป็นเรื่องที่ไม่มีใครตอบได้ “แต่ที่แน่ ๆ คือ… โครงการนี้ถูกเปลี่ยนแปลงไปไกลมาก จากที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน และนับวันก็ยิ่งทำให้คนสับสน มันคือการถูลู่ถูกังไปเรื่อย ๆ จนต้องทำอะไรแบบไม่เป็นมืออาชีพออกมา”
“มันคือผลงานชิ้นโบว์ดำของรัฐบาลเพื่อไทย ไม่ใช่ผลงานชิ้นโบว์แดงอย่างที่คิดไว้แต่แรก” ศิริกัญญา ฟาดทิ้งท้าย