“จะอ้างว่าอายุ 11 ขวบตอนซื้อขายที่ดินอัลไพน์ไม่ได้ เพราะโตแล้วก็ยังถือครองที่ดินผิดกฎหมายนี้อยู่ อุ๊งอิ๊งค์ ผิดจริยธรรมร้ายแรง” —เป็นบทสรุปแบบตรงไปตรงมาของสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ที่ให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ ThePublisher ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร พร้อมวิพากษ์การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า “กล้าขึ้น” แต่ก็ยัง “ไม่ถึง” อย่างไรก็ตามประเมินให้ผ่าน ส่วนรัฐบาลสอบตก
ประเด็นที่สมชายให้น้ำหนักว่าจะมีผลทำให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ดิ้นไม่หลุด คือกรณีตั๋ว PN เลี่ยงภาษีและการถือครองที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์
“ตั๋ว PN” — จุดตายที่ดิ้นไม่หลุด
เหตุผลที่ถูกหยิบยกมาสนับสนุนประเด็นนี้ เพราะเป็นการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษี ไม่เพียงเข้าข่ายผิดในการแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ซึ่งป.ป.ช.ต้องขยายผลสอบต่อเท่านั้นยังผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วย” เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเรื่องนักการเมืองชัดเจน ขนาดผู้สมัครยังต้องส่งข้อมูลภาษีย้อนหลังสามปี มาตรา 160 (4) ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ (5) ไม่ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เรื่องนี้สุ่มเสี่ยงเข้าข่ายนิติกรรมอำพราง ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่นายทักษิณ เคยถูกยึดทรัพย์ เข้าข่ายหลีกเลี่ยงภาษีมาแล้ว”
สมชายยังยกกรณี “เบญจา หลุยเจริญ” ที่เคยใช้ดุลพินิจเอื้อประโยชน์บุตรชายบุตรสาวทักษิณไม่ต้องเสียภาษีซื้อหุ้นแอมเพิลริชจนถูกจำคุก 2ปีเป็นตัวอย่างเตือนอธิบดีกรมสรรพากรคนปัจจุบันที่ออกมายืนยันความถูกต้องของ” ตั๋ว PN “ที่เป็นข้อถกเถียงในเวลานี้ด้วย
ภาษี 200 ล้านหายไป—ประชาชนไม่จ่ายบ้างได้ไหม?
สมชาย ตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมในการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะกรณีตั๋วPN ออกมาตั้งแต่ปี 2559-2568 แต่ไม่เคยมีการชำระเงิน นายกฯ เพิ่งพูดกลางสภาฯ ว่าจะชำเงินปีหน้า ซึ่งจะมีผลทางภาษีในปี 2570” ผมชวนประชาชน 4 ล้านคนในระบบภาษี ลองบอกกรมสรรพากรว่าจะจ่ายอีกสิบปีได้ไหม ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านข้าวแกง ท่านยังไปนั่งจดภาษี…แต่นี่เงิน 4.4 พันล้าน คิดเป็นภาษีที่ควรจ่ายมากกว่า 200 ล้านบาท กลับไม่มีใครทำอะไรเลย”
ที่ธรณีสงฆ์ — มัดตราสัง” อุ๊งอิ๊งค์”
อีกประเด็นที่สมชายย้ำว่า” แพทองธารไม่น่ารอด “คือกรณีถือครองที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งศาลฯ มีคำพิพากษาว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ ถือเป็นโมฆะมาตั้งแต่ต้น” แม้ที่ดินนี้ซื้อมาในขณะแพทองธารอายุ 11 ขวบ แต่เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วยังถือครอง เป็นกรรมการบริหารบริษัท รับทราบถึงปัญหาของที่ดินนี้มาโดยตลอด จึงหนีความรับผิดชอบไม่ได้ เป็นพฤติกรรมผิดจริยธรรมร้ายแรงไม่ต่างจากที่ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส.ราชบุรี และ กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรมช.ศึกษาธิการ เคยโดนศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตมาแล้ว พร้อมยกกรณี ยงยุทธวิชัยดิษฐ ที่เคยต้องโทษจำคุก 2 ปี จากการใช้อำนาจช่วยเหลือบ.อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และ บ.กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด และผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ได้รับประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จนได้ดิบได้ดีเป็น รมว.มหาดไทยในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนขายที่ดินคือ เสนาะ เทียนทอง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยกับทักษิณ ปัจจุบันลูกชายคือ สรวงศ์ ก็เป็นเลขาฯ พรรคเพื่อไทยที่มี “แพทองธาร” เป็นนายกฯ นี่คือความเชื่อมโยงของสายสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวที่เกี่ยวพันกับ “ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์”
ศึกนี้ยังไม่จบ—ค้านจริง ต้องเดินต่อ
แม้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะจบไปแล้ว แต่สมชายเตือนว่า “ศึกใหญ่ยังไม่จบ” หากฝ่ายค้านจะพิสูจน์ว่าค้านจริง ต้องเดินหน้าสู่การยื่น ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมใช้ กมธ.ตรวจสอบทุกประเด็นปัญหาอย่างเข้มข้น
” อย่าให้คนมองว่าเป็นมวยล้มต้มคนดู หรือเป็นพรรครอเป็นรัฐบาล “เขายังตั้งข้อสังเกตถึงสิ่งที่” หายไป “จากการอภิปราย คือการตรวจสอบการตัดงบไปแจกเงินหมื่น ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งห้าม สส. สว. กรรมาธิการฯ มีส่วนร่วมได้รับประโยชน์ทางตรงและทางอ้อม และยังมีการนำเงินไปเพิ่มงบประมาณบางประการด้วยที่เอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตน
ฝ่ายค้านกล้าขึ้น แต่ยังไม่ถึงเป้า
สมชายชี้ด้วยว่า ภาพรวมการอภิปรายสะท้อนความกล้าของพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านเพิ่มขึ้น แต่ก็ยัง” ไปไม่สุด “ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะกรณี” ชั้น 14 “โรงพยาบาลตำรวจ แม้มีการจัดวางข้อมูลได้ดี แต่ยังขาดหลักฐานที่จะเอาผิด” ชั้น 14 ไม่มีห้องไอซียู เป็นห้องพักฟื้นอยู่สบาย หันไปทางถนนเห็นเซ็นทรัลเวิลด์ หันขวาเห็นสนามกอล์ฟ หากทักษิณป่วยหนักต้องส่งไปไอซียูไม่ใช่ห้องพักฟื้นวีไอพี “เขาชี้ว่า หากพรรคประชาชนตั้งแต่ตอนเป็นพรรคก้าวไกล ใช้กลไกกรรมาธิการฯ ตรวจสอบอย่างเข้มข้น อาจได้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้ เพราะมีอำนาจมากกว่าวุฒิสภา การพลาดจังหวะนี้ไปจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
พาดพิง ”ประยุทธ์—วิษณุ“ เบี่ยงประเด็นจากรัฐบาลปัจจุบัน?
แม้จะชื่นชมการอภิปรายของ รังสิมันต์ โรม ในประเด็นชั้น 14 แต่สมชายก็วิจารณ์ว่า ตอนท้ายที่โยงไปหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ วิษณุ เครืองาม อดีตนายกฯ และรองนายกฯ กลายเป็นการลดแรงกดดันให้รัฐบาลเศรษฐาและแพทองธาร เพราะการละเมิดกระบวนการยุติธรรมเกิดขึ้นหลังได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแล้ว เกิดในรัฐบาลเพื่อไทย ไม่ใช่รัฐบาลชุดก่อน
รัฐบาลสอบตก—นายกฯ ดีแต่กระแนะกระแหน
เขาสรุปการซักฟอกครั้งนี้ว่า ฝ่ายค้านสอบผ่านรัฐบาลสอบตก โดยเฉพาะนายกฯ” เก่งแต่วาทกรรม “แต่ขาดวุฒิภาวะเชิงสาระ” เก่งเถียงคำไม่ตกฟาก แต่พูดเชิงข้อมูลไม่ได้ ไม่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำประเทศ “ส่วนผลโพลที่ออกมาหลังลงมติ สมชายตอกกลับทันทีว่า” ไม่ให้ค่า “พร้อมตั้งข้อสงสัยมีความน่าเชื่อถือทางวิชาการหรือไม่ มีการจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อประชาสัมพันธ์หลังลงมติหรือเปล่า?
ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอดสองวันที่ผ่านมา สิ่งที่ดีในการอภิปรายครั้งนี้คือ ฝ่ายค้านกล้าตรวจสอบรัฐบาลมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องชั้น 14 แม้จะไม่มีข้อมูลใหม่ แต่ก็มีการเรียบเรียงได้ดี แต่ยังไม่มีน้ำหนักถึงขั้นเอาผิดได้ เช่น วงจรปิด ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย หากพรรคก้าวไกล (ประชาชน) ในขณะนั้นใช้กลไกกรรมาธิการฯ ระดมตรวจสอบสถานที่จริงคือ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจเลย อาจได้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้ “จะเห็นภาพว่าอยู่หรู อยู่สบาย เพราะชั้น 14 ไม่มีห้องไอซียูเลย เป็นห้องพักฟื้น หันริมถนนไปทางเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งขวาเห็นสนามกอล์ฟ มีห้องตั้งแต่ 28 36 65 ตารางเมตร อยู่สบาย อาการทักษิณถ้าป่วยหนักต้องไปจากแดนแรกรับส่งไอซียู ไม่ใช่ไปห้องพักฟื้น ถ้าพรรคประชาชนตรวจสอบเข้มแข็งตั้งแต่ต้นก็จะได้หลักฐานมากกว่านี้ เพราะสส.มีอำนาจเต็มมากกว่า สว. จึงผิดหวังว่าน่าจะมีข้อมูลมากกว่านี้แต่ก็ดีใจที่ได้พูดเรื่องนี้ในสภาฯ”
สมชาย ยังติง รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ที่เป็นผู้อภิปรายเรื่องนี้ว่า ในตอนท้ายไปพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ แม้จะเป็นความจริงที่พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามสนองพระบรมราชโองการอภัยลดโทษให้นายทักษิณ ชินวัตร แต่ก็เป็นช่วงที่อำลาตำแหน่งออกจากทำเนียบแล้ว แต่ถูกกลับมาเซ็น เพราะอะไรคงพูดไม่ได้ แต่ประเด็นที่มีการละเมิดกระบวนการยุติธรรม หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษเกิดขึ้นในรัฐบาลเศรษฐา อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีข้อมูลใหม่ ยังสามารถส่งต่อไปให้หน่วยงานตรวจสอบทั้ง ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญได้
” ผมเสนอว่าพรรคประชาชนต้องนำข้อมูลอภิปรายทั้งหมดมาแยกแยะประเด็นไหนเกี่ยวข้องเรื่องผิดจริยธรรมร้ายแรง เช่น ใช้ตั๋ว PN เลี่ยงภาษี และการถือครองที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ควรจะรวบรวมรายชื่อ สส. 1 ใน 10 ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัย แพทองธาร ชินวัตร พ้นตำแหน่งนายกฯ เหมือนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เคยพ้นตำแหน่งเพราะทำผิดจริยธรรมมาแล้ว จากกรณีตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และใช้กลไกกรรมาธิการมาเสริมด้วยอีกส่วนหนึ่งเรียกสอบให้หมดทั้งชั้น 14 และกรณีเลี่ยงภาษี เพื่อรวบรวมหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่?”
ส่วนคนขายที่ดินนี้ให้ทักษิณก็คือ เสนาะ เทียนทอง มีส่วนร่วมในการก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และปัจจุบันลูกชายเสนาะ สรวงศ์ เทียนทอง ก็มาเป็นเลขาฯ พรรค ในวันที่ แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรค ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะตั้งแต่วันที่ขาย ที่ดินเป็นธรณีสงฆ์ตั้งแต่วันที่คุณยายเนื่อมเสียชีวิต เพราะได้ทำพินัยกรรมไว้ชัดเจนว่า ประสงค์ให้ที่ดินดังกล่าวใช้ทำมาหาเก็บเพื่อนำไปทะนุบำรุง,ทำนุบำรุงศาสนา ไม่ได้ให้ขาย
สมชาย บอกด้วยว่า หลังจากนี้จะเป็นบทพิสูจน์ฝ่ายค้านว่าค้านจริงหรือไม่ เพราะเรื่องยังไม่จบแม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะจบแล้วก็ตาม “หากฝ่ายค้านเดินหน้าตรวจสองส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงใช้กลไกกรรมาธิการฯ ด้วย ก็จะทำให้ประชาชนเห็นว่าเอาจริงกับเรื่องนี้ ไม่ใ้ช่มวยล้มต้มคนดู หรือเป็นพรรครอเป็นรัฐบาล” เขาตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ขาดหายไปในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการทำผิดรัฐธรรมนูญของรัฐบาลที่มีการตัดงบประมาณไปกองไว้เพื่อใช้ในโครงการแจกเงินหมื่น เข้าข่ายผิดมาตรา 144 ซึ่งฝ่ายค้านควรทำการบ้านแล้วนำเอาไปมัดรวมกับความผิดอื่นก่อนหน้านี้ แยกผิดกฎหมาย ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ผิดจริยธรรมร้ายแรง มาประกอบข้อมูลกับพฤติการณ์แห่งเหตุยื่น ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ
“มีบางคนบอกอภิปรายฯ เที่ยวนี้สอบตกทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ผมให้ฝ่ายค้านสอบผ่านส่วนรัฐบาลสอบตก เพราะผิดหวังรัฐบาลมากกว่าโดยเฉพาะนายกฯ ถนัดเรื่องวาทกรรม กระแนะ กระแหน แบบนี้ไม่ต้องอ่านโพย แต่เรื่องสาระต้องอ่านโพยตลอด เก่งเถียงคำไม่ตกฟาก แต่พูดเชิงข้อมูลไม่ได้ ไม่มีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำประเทศ ส่วนประธานสภาฯ ผมให้สอบตก”
ส่วนผลโพลของนอร์ทกรุงเทพที่ให้รัฐบาลสอบผ่านนั้น “สมชาย” ไม่ให้ค่า เพราะไม่ยอมรับในทางวิชาการ เหมือนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว กลายเป็นเอกสารข่าวแจกออกมาทันทีหลังการลงมติเสร็จสิ้น