ไตรมาส 1 ปี 2568 — ธนาคารพาณิชย์ไทย 11 แห่ง โชว์กำไรรวม 68,392 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 5.62% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เมื่อแบงก์ได้กำไรจาก “ความระวัง” ไม่ใช่ “การขับเคลื่อน” แล้วใครจะพาประเทศเดินหน้า?
ผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ไทย ไตรมาส 1 ปี 2568
• กำไรสุทธิรวม: 68,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
• ธนาคารที่มีกำไรสุทธิสูงสุด:
• ธนาคารกสิกรไทย (KBANK): 13,791 ล้านบาท (+1.08%)
• ธนาคารกรุงเทพ (BBL): 12,618 ล้านบาท (+19.90%)
• เอสซีบี เอกซ์ (SCBX): 12,502 ล้านบาท (+10.82%)
• ธนาคารที่มีกำไรสุทธิลดลง:
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY): 7,533 ล้านบาท (-0.12%)
• ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB): 5,096 ล้านบาท (-5.17%)
• ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (TISCO): 1,643 ล้านบาท (-5.19%)
• กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP): 1,061 ล้านบาท (-29.55%)
————
ข่าวดีของ “นายแบงก์”
ในวันที่ประชาชนยังจมอยู่กับหนี้
SMEs ยังเข้าไม่ถึงแหล่งทุน
และเศรษฐกิจยัง “ง่อย”
กำไรของธนาคาร…กำลังสะท้อน “ความแปลกประหลาดของระบบ”
⸻
แบงก์กำไรจากอะไร…และใครเสีย?
ธนาคารไม่ได้กำไรจาก “การปล่อยสินเชื่อเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”
แต่กำไรจากการ ถือเงินไว้กับตัวเองและเลือกเสี่ยงน้อยลง
เช่น
• กินส่วนต่างดอกเบี้ยจากเงินฝาก–เงินกู้
• ลงทุนพันธบัตร
• เก็บค่าธรรมเนียม
• ลดความเสี่ยงผ่านการคุมหนี้เสีย (NPL)
เรียกว่า “แบงก์” เพลย์เซฟ เลือก “ระวังไว้ก่อน”
เพราะเศรษฐกิจยังเปราะเกินกว่าจะเสี่ยงปล่อยสินเชื่อใหม่
เปราะบางเกินกว่าจะเอา “กำไร” ไปเสี่ยงจนอาจ “ขาดทุน”
เริ่มมีคำถาม คิดแบบนี้ “เห็นแก่ตัว“ ไปไหม?
⸻
ในขณะที่ธุรกิจรายย่อย…หายใจไม่ทั่วท้อง
• SMEs หลายแห่งประสบปัญหา “สินเชื่อไม่ผ่าน” แข้าถึงแหล่งทุนยากเย็น
• ประชาชนยังติดอยู่ในหนี้ดอกเบี้ยสูง เช่น บัตรเครดิต–สินเชื่อส่วนบุคคล
• ดอกเบี้ยนโยบายเริ่มลดลงแล้ว…แต่ดอกเบี้ยที่คนธรรมดาจ่ายยังไม่ลดลงตาม
ระบบธนาคารที่ทำกำไรจาก “การไม่ลงไปเสี่ยง” คือระบบที่ทิ้งคนส่วนใหญ่ไว้ข้างหลังหรือไม่?
⸻
แบงก์ชาติต้องไม่เพียงกำกับ…แต่ต้อง “ขับเคลื่อน”
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะผู้กำกับดูแล ควรมีบทบาทมากกว่านั่งดูแบงก์โกยกำไร โดยที่เศรษฐกิจไม่ฟื้น
อาจถึงเวลาที่ ธปท.ต้องพิจารณาปรับบทบาทใหม่ หรือทบทวนว่าได้ทำสิ่งเหล่านี้เพียงพอหรือยัง?
- ปรับบทบาทเป็น “นักออกแบบการเงินเพื่อการฟื้นฟู”
ไม่ใช่แค่ดูแลเสถียรภาพ แต่ต้องชี้นำการปล่อยสินเชื่อไปยังภาคเศรษฐกิจจริง - ตรวจสอบเชิงโครงสร้างว่า “กำไรแบงก์มาจากไหน และคืนอะไรกลับสู่ระบบ”
เปิดเผยสัดส่วนรายได้แบงก์อย่างโปร่งใส และชี้เป้าให้เห็นว่าแบงก์ใดช่วยระบบจริง - สร้างแรงจูงใจให้แบงก์ปล่อยกู้เพื่อเป้าหมายสาธารณะ
เช่น ลดการตั้งสำรองหนี้ หากปล่อยกู้ให้ธุรกิจเป้าหมาย ฟื้นฟูแรงงาน หรือกลุ่มเปราะบาง - กล้าสร้างเวทีเจรจา “รัฐ–แบงก์–ประชาชน”
เพื่อให้เกิดทิศทางสินเชื่อที่รับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่แค่กำไรของผู้ถือหุ้น
⸻
ถ้าแบงก์เดินหน้า แต่เศรษฐกิจถอยหลัง…ใครจะมีเงินไปฝาก ”แบงก์“
“เงินที่ธนาคารนำไปทำกำไรต่อ คือของประชาชน
แต่ประชาชนได้แค่เศษดอกเบี้ย
กลายเป็นเพียงแค่เบี้ยบนกระดานการเงินและการทำกำไรของธนาคาร”
หากแบงก์ชาติยังนิ่งเฉย
หากรัฐยังไม่มีทิศทาง
หากสังคมยังปล่อยให้กำไรของธนาคารลอยตัวโดยไม่มีคำถาม
กำไรนั้นจะกลายเป็นกำไรที่มีแต่ ‘นายแบงก์’ เท่านั้นที่ ‘ยิ้มออก’
⸻