• Urban Culture
  • Original
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Good
  • Editir pick
  • Home
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • People Voice
  • Home
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

ทบ. ยันเข้าปรับปรุงเส้นทาง “ช่องบก” ทำความเข้าใจกับกัมพูชาเรียบร้อย

15/06/2025

จบแล้วประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ก.ต่างประเทศเผยผลหารือชื่นมื่น ขณะกัมพูชาเดินหน้าฟ้องศาลโลก

15/06/2025

เปิดเล่ห์เขมรกลาง JBC บีบไทยรับคดีศาลโลก วาสนาเตือน “ไทยอย่ายอม”

15/06/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»Original»Interview»‘ชณทัตลุยครับ’: คนเล็กแต่ใจใหญ่ ภารกิจกู้วิกฤติคอนโดจตุจักรหลังแผ่นดินไหว แก้ปัญหาไม่มีลิฟต์ เดินขึ้นลง 21 ชั้น ช่วยลูกบ้าน 2,000 ชีวิตให้นอนหลับ
Interview

‘ชณทัตลุยครับ’: คนเล็กแต่ใจใหญ่ ภารกิจกู้วิกฤติคอนโดจตุจักรหลังแผ่นดินไหว แก้ปัญหาไม่มีลิฟต์ เดินขึ้นลง 21 ชั้น ช่วยลูกบ้าน 2,000 ชีวิตให้นอนหลับ

09/06/20251 Min Read
Facebook Twitter

ท่ามกลางความเจริญของย่านสุทธิสาร เขตจตุจักร คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่งที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความสะดวกสบายและความมั่งคั่ง วันนี้กลับกลายเป็นภาพสะท้อนของความเปราะบาง เมื่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ทิ้งรอยร้าวไม่เพียงบนกำแพงตึก แต่ยังฝังลึกในใจของผู้อยู่อาศัยเกือบ 2,000 ชีวิต

คุณชณทัต ปัทะมะภูวดล หรือที่รู้จักในนาม “พี่แม็ก ชณทัตลุยครับ” ผู้ก่อตั้งเพจ “ชณทัตลุยครับ” ได้ออกมาเปิดเผยถึงความรุนแรงของปัญหาที่กำลังบั่นทอนคุณภาพชีวิตของลูกบ้าน พร้อมเรียกร้องให้มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วนทั้งในระดับปฏิบัติการและนโยบาย เพื่อคืนความมั่นคงและความหวังให้กับผู้ที่เรียกที่นี่ว่า ‘บ้าน’

คอนโดมิเนียมแห่งนี้ มีห้องพักถึง 917 ห้อง รองรับผู้อยู่อาศัยเกือบ 2,000 คน และมีร้านค้าจำนวนมากบริเวณชั้นล่าง แต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวได้เปลี่ยน “บ้าน” ที่ควรเป็นที่พักพิงให้กลายเป็นสถานที่แห่งความยากลำบาก คุณชณทัตฉายภาพปัญหาหลัก 3 ประการที่กำลังกลายเป็นฝันร้ายของลูกบ้าน: ลิฟต์ที่หยุดชะงัก ระบบไฟฟ้าที่หวาดผวา และน้ำที่ขาดแคลน ซึ่งแต่ละปัญหาไม่เพียงกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังทิ่มแทงความรู้สึกของความปลอดภัยและการใช้ชีวิต

“ลองนึกภาพคอนโดสูงระฟ้า 917 ห้อง แต่ลิฟต์ใช้งานได้เพียง 2 จาก 4 ตัว และจำกัดเวลาแค่ 7 ชั่วโมงต่อวัน”

“นี่ไม่ใช่แค่ความไม่สะดวก แต่เป็นการบั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างร้ายแรง” ผู้สูงวัยต้องฝืนร่างกายที่อ่อนล้าปีนบันได ผู้ป่วยต้องรอคอยด้วยความทรมาน และคนทำงานต้องเผชิญความโกลาหลในชั่วโมงเร่งด่วนเพื่อแย่งใช้ลิฟต์เพียงสองตัว ความหวังที่จะกลับบ้านด้วยความสบายใจถูกแทนที่ด้วยความเหนื่อยล้าในทุกวันที่ชีวิตไม่ได้หยุดเหมือนระบบน้ำ-ไฟในตึกนี้

แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวทำให้ระบบไฟฟ้าพังทลาย เบรกเกอร์เสียหาย สายไฟบางจุดขาดหรือช็อต คุณชณทัตเผยว่า “ห้องควบคุมไฟต้องระวังทุกครั้งที่เปิดสวิตช์ เพราะเคยมีประวัติช็อตจนน่ากลัวว่าจะเกิดระเบิด” ลูกบ้านต้องอยู่อย่างหวาดระแวง กลัวไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ในสถานที่ที่ควรเป็นที่หลบภัย ความรู้สึกไม่ปลอดภัยนี้กลายเป็นเงามืดที่ครอบงำชีวิตประจำวันของทุกคน

ปัญหาน้ำยิ่งเพิ่มความทุกข์ทรมาน แม้บางชั้นจะเริ่มมีน้ำใช้ แต่หลายห้องยังคงไร้น้ำไหล เนื่องจากท่อแตก “ลองคิดดูว่าการไม่มีน้ำใช้ในชีวิตประจำวัน มันกระทบต่อสุขอนามัยและความรู้สึกของการกินอยู่ขนาดไหน” คุณชณทัตกล่าว การซ่อมแซมทันทีอาจกระทบหลักวิศวกรรมและทำให้ประกันไม่ครอบคลุม ลูกบ้านจึงต้องทนอยู่ในสภาพที่ขาดแคลน โดยไร้กำหนดเวลาว่าปัญหาจะคลี่คลายเมื่อใด

ความเดือดร้อนของลูกบ้านยิ่งทวีคูณเมื่อเชื่อมโยงกับประเด็นเงินกองกลาง 13 ล้านบาท ซึ่งควรเป็นกองทุนสำคัญสำหรับการฟื้นฟูตึก คุณชณทัตกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่มีใครโกรธคุณ ไม่มีใครว่าคุณ แต่เราอยากรู้ว่าเงินมันไปไหนแล้วทำอะไร” หลังเหตุแผ่นดินไหว นิติบุคคลเริ่มมีพฤติกรรมน่าสงสัย ก่อนจะย้ายออกจากคอนโดโดยไม่แจ้งลูกบ้าน ที่น่าตกใจคือมีการขนเอกสารจำนวนมากออกไปด้วยรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ 3 คัน โดยไม่มีคำอธิบาย “เงิน 13 ล้าน ถ้ายังอยู่ครบ ควรจะเปลี่ยนตึกนี้ให้กลับมาสมบูรณ์ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเงินเหลือเท่าไหน หรือไปอยู่ที่ไหน” คุณชณทัตตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

ปัจจุบัน ตำรวจกำลังสืบสวนเรื่องนี้ แต่การขาดความโปร่งใสและการสื่อสารจากนิติบุคคลได้ทิ้งลูกบ้านไว้ในความมืดมิด “การสื่อสารคือหัวใจของทุกอย่าง ถ้าเราเข้าใจตรงกัน ทุกปัญหาจะจบลงได้” คุณชณทัตย้ำถึงความสำคัญของการพูดคุยอย่างเปิดเผย ซึ่งขณะนี้นิติบุคคลกลับเลือกที่จะเงียบและจากไป ราวกับทิ้งภาระหนักอึ้งให้ผู้อยู่อาศัยแบกรับเพียงลำพัง

คุณชณทัตชี้ว่า วิกฤตนี้เผยให้เห็นช่องโหว่ของกฎหมายนิติบุคคลในประเทศไทย ซึ่งล้าสมัยและขาดความยืดหยุ่น การเลือกตั้งคณะกรรมการนิติบุคคลชุดใหม่เพื่อบริหารจัดการต้องรอถึง 15 วันหลังยื่นเอกสาร ทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้าเกินกว่าที่ลูกบ้านจะทนได้ “กฎหมายเก่าและล่าช้าเกินไป ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ ทุกวินาทีคือความเดือดร้อนของประชาชน” คุณชณทัตกล่าว พร้อมเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินที่รัฐควรเข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ การซ่อมแซมโครงสร้างทันทีอาจกระทบหลักวิศวกรรมและทำให้ประกันไม่ครอบคลุม ซึ่งยิ่งตอกย้ำความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายเพื่อปกป้องประชาชนจากสถานการณ์เช่นนี้ “เราจะต้องคุยกัน ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด แต่ถ้าไม่พูด ปัญหาจะไม่จบ” คุณชณทัตย้ำถึงความสำคัญของการสื่อสารเพื่อหาทางออกที่สมเหตุสมผล

ในฐานะผู้ก่อตั้งเพจ “ชณทัตลุยครับ” คุณชณทัตยืนหยัดเป็นกระบอกเสียงให้ผู้เดือดร้อน โดยยึดหลักการทำงานที่ชัดเจน “ผมจะไม่ยุ่งเลย ถ้าไม่มีผู้ร้องเรียนให้มาทำ” เขากล่าว พร้อมอธิบายว่าเพจจะลงมือช่วยเหลือเมื่อมีผู้ร้องเรียน โดยตรวจสอบเคสอย่างรอบด้าน รับฟังทุกมุมมอง และใช้ข้อกฎหมายเป็นแนวทางในการพูดคุย “เราไม่ทะเลาะ ไม่กล่าวหา แต่จะสร้างความสมดุล เพราะทุกอย่างในโลกนี้คือการสื่อสาร ถ้าเราเข้าใจตรงกัน ทุกอย่างจบครับ”

สำหรับผู้ที่เผชิญปัญหาคล้ายกัน สามารถติดต่อได้ทาง Facebook หรือ TikTok “ชณทัตลุยครับ” และ Instagram “c.a.n.t.a” หรือติดต่อโดยตรงที่เบอร์ 098-789-9694 คุณชณทัตแนะนำให้ส่งข้อความผ่านเพจก่อน เพื่อให้ทีมงานพิจารณาปัญหาอย่างละเอียด “คิดไม่ออก นึกถึงชณทัตลุยครับ ทุกปัญหาจะหมดไป ถ้าเราได้พูดคุย” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น

วิกฤตที่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ไม่เพียงเผยให้เห็นความเสียหายจากแผ่นดินไหว แต่ยังสะท้อนถึงรอยร้าวในระบบบริหารจัดการและกฎหมายที่ล้าสมัย คุณชณทัต ปัทะมะภูวดล ผ่านเพจ “ชณทัตลุยครับ” ได้กลายเป็นแสงสว่างที่นำทางให้ผู้เดือดร้อนมองเห็นทางออก ด้วยปรัชญาที่ว่า “ปัญหาจะไม่เกิด ถ้าเราสื่อสารกันอย่างลงตัวและเข้าใจ” เขาไม่เพียงเป็นกระบอกเสียง แต่ยังเป็นสะพานที่เชื่อมความหวังและความยุติธรรมให้กับผู้อยู่อาศัยที่กำลังต่อสู้เพื่อทวงคืนความมั่นคงในชีวิต

บทเรียนจากเหตุการณ์นี้คือเครื่องเตือนใจว่า การสื่อสาร ความโปร่งใส และระบบที่ยืดหยุ่นคือรากฐานของการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ขณะที่ลูกบ้านยังคงรอคำตอบและการเยียวยา คุณชณทัตย้ำว่า “ทุกอย่างจะจบลงได้ ถ้าเราเดินไปด้วยกัน”

#interview #ThePublisher สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
Writer Publisher

Related Posts

พูดแล้วเงียบ สองปีผ่านไป โซลาร์ฟรียังไม่มี…มอไซค์ฯ ถูกยังไม่เห็น เห็นแต่โปสเตอร์พรรคภูมิใจไทย…ที่ยังไม่ทำ

By Writer Publisher08/06/2025

ทนายเชาว์ กระทุ้ง ผู้ว่าฯ เมืองคอน ทำหน้าที่ หลังเงียบกริบ ปม สส.กร่างทำกระทืบผู้รับเหมกลางงาานบวช อย่าปล่อยอำนาจ-อิทธิพล บดขยี้ประชาชน

By Writer Publisher03/06/2025

ใต้สะพานมีเด็ก… ใต้ระบบต้องไม่มีรูรั่ว การดูแลเด็กไม่ควรเกิดแค่ตอนมีคนแชร์คลิป

By Writer Publisher28/05/2025

กำลังใจหลั่งไหลถึงแพทยสภา ยืนหยัดไม่ก้มหัวให้การเมือง แฉมีล็อบบี้เปลี่ยนมติฟันสามหมอ

By Writer Publisher28/05/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

ทบ. ยันเข้าปรับปรุงเส้นทาง “ช่องบก” ทำความเข้าใจกับกัมพูชาเรียบร้อย

15/06/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo