“เราต้องเลิกยืนงง…ในสงครามการค้า”
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร เตือนรัฐบาลไทยเร่งสร้างสมดุลใหม่ ก่อนเดินเกมใหญ่กับสหรัฐฯ และจีน
“ยังไม่รู้ว่าใครเลื่อน ใครไม่พร้อม
และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า…จะได้คุยกันเมื่อไหร่”
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ
ให้สัมภาษณ์รายการ เที่ยงเปรี้ยงปร้าง ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร
ถึงสถานการณ์ล่าสุดที่รัฐบาลไทยยังไม่สามารถกำหนดวันเจรจากับสหรัฐฯ ได้
หลังเคยระบุว่าจะมีขึ้นวันที่ 23 เมษายน
“สถานการณ์ตอนนี้กระทบความเชื่อมั่นแน่นอน”
เขาเตือนว่า การไม่สามารถกำหนดท่าทีที่ชัดเจนในการเจรจา
สะท้อนปัญหาทั้งด้านการวางกลยุทธ์ และการจัดลำดับความสำคัญของรัฐบาลไทยเอง
⸻
เกมใหญ่…ต้องไม่เดินด้วยมือเปล่า
“ถ้าจะเจรจากับสหรัฐฯ ต้องถามก่อนว่า เรามีไพ่อะไรในมือ”
ปณิธานเสนอว่า ไม่ควรคิดแค่เรื่องการค้า–การลงทุน เท่านั้น
แต่ต้องหยิบเรื่อง “ความมั่นคง–ความร่วมมือทางทหาร” ขึ้นมาร่วมโต๊ะด้วย
เพราะประเทศอื่นเขาเดินหน้าแล้ว โดยเฉพาะในประเด็นการซื้ออาวุธหรือยุทธศาสตร์ด้านอินโด–แปซิฟิก
“การจะขออะไรจากสหรัฐฯ ต้องมีของแลก และตอนนี้สิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการอาจไม่ใช่แค่การค้า”
เขาเสนอให้ ตั้งทีมเจรจาใหม่ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ-ความมั่นคง
ประสานเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในไทยก่อน
ยังไม่จำเป็นต้องบินไปเจอหน้า
แต่ “ต้องกางตัวเลขจริง วางท่าทีให้ชัดเจน”
⸻
ทรัมป์: ศิลปินการต่อรอง หรือระเบิดเวลาโลก?
เมื่อพูดถึงอีกฝั่งโต๊ะ ปณิธานวิเคราะห์ สองทฤษฎีที่โลกมองทรัมป์:
• ทรัมป์ = ชายวิปลาศ ที่ปั่นป่วนโลก สุดท้ายระเบิดตัวเอง
• ทรัมป์ = อัจฉริยะนักต่อรองระดับศตวรรษ ที่ทำให้ทุกประเทศต้องยอมคุย
“วันนี้ทรัมป์ยังไม่ล้ม…แต่ก็เริ่มเป๋ เพราะคะแนนนิยมกำลังลด คนอเมริกาเริ่มกักตุนของ เจอค่าครองชีพพุ่ง”
เขาชี้ว่า ทรัมป์มีเวลา อีกเพียง 6 เดือน
ที่จะพิสูจน์ว่านโยบายภาษีให้ผลจริง
ไม่เช่นนั้นจะเผชิญแรงต้านหนัก เพราะกระเป๋าประชาชนเริ่มฉีก
⸻
ไทยต้องเลิกงุนงง ถ้าไม่อยากถูกกลืนทั้งสองฝั่ง
“ความงุนงงของผู้นำ = ความอ่อนแอของการเจรจา”
อาจารย์ปณิธานเตือนว่า หากไทยยังไม่มีจุดยืนชัด
จะไม่สามารถตั้งโต๊ะคุยได้อย่างมีอำนาจ
และสิ่งที่แย่กว่านั้นคือ “ยืนงงในสงครามของคนอื่น”
ไทยต้องเจรจากับทั้งสองฝั่ง: สหรัฐฯ–จีน
และต้องหาสมดุลใหม่ให้เจอ ก่อนจะเสียทุกอย่าง
⸻
โต๊ะเจรจา “ทักษิณ–มินอ่องหล่าย” = ล่มตั้งแต่ยังไม่ทันลุกจากเก้าอี้
ในช่วงท้าย เขาวิเคราะห์กรณีโต๊ะเจรจาที่มีทักษิณ อันวาร์ และ มิน อ่อง หล่าย ร่วมวงในประเด็นเมียนมา
ที่กลายเป็นข่าวดัง แต่จบลงด้วยความรุนแรง
“เพิ่งคุยไม่กี่วัน ฝ่ายทหารก็ทิ้งระเบิดพื้นที่ใหม่ทันที
ความช่วยเหลือเข้าไม่ถึง คนที่เจ็บที่สุดคือประชาชน”
เขาตั้งข้อสังเกตว่า
เหตุการณ์แบบนี้มักเกิดเมื่อผู้นำทหารเจรจาแล้ว “ไม่ได้ตามคาด”
และนั่นอาจสะท้อนว่า การเจรจานั้น…ไม่จริงตั้งแต่ต้น
⸻
อ่านแล้วคิดว่า:
เราจะรอให้ “ทรัมป์ระเบิดตัวเอง” จริง ๆ หรือ
หรือเราจะระเบิดโอกาสของตัวเองก่อน…ด้วยความไม่พร้อมของรัฐบาลไทย?