“แพทองธารคือสิ่งสมมุติ นายกฯ อุปโลกน์ที่ไม่มีอำนาจบริหารจริง” รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว
คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา
โดย The Publisher — เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง”
ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
⸻
ในทางกฎหมาย ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี
แต่ในทางการเมือง… ประเทศไทยอาจไม่มีนายกฯ ตัวจริง
นั่นคือสิ่งที่ รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว ฟันธงกลางรายการ เที่ยงเปรี้ยงปร้าง ขณะพูดถึงความขัดแย้งระเหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยที่กำลังก่อตัวจากคดีฮั้วเลือก ส.ว. พร้อมวิพากษ์ตรง คม แรง ว่า
“แพทองธารคือสิ่งอุปโลกน์ตามรัฐธรรมนูญที่ไม่มีอยู่จริง
เพราะอำนาจที่แท้จริงยังอยู่กับทักษิณ—ผู้ไม่มีตำแหน่งแต่กำหนดทุกอย่างในประเทศนี้”
เขาชี้ว่า ปัญหาสำคัญของการเมืองไทยไม่ใช่แค่การขัดแย้งระหว่างพรรค แต่คือ การที่ผู้มีอำนาจใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือ จนทำให้ประเทศติดหล่มระบอบอภิสิทธิ์ชน
⸻
คดีฮั้วเลือก ส.ว. ไม่ได้อยู่แค่ในมือกฎหมาย
อาจารย์โอฬารวิเคราะห์ว่า คดีฮั้วเลือก ส.ว. อาจนำไปสู่สองทาง
หนึ่ง—แตกหัก ล้มรัฐบาล เปลี่ยนรัฐมนตรี เปลี่ยนคนคุมเกม
สอง—เจรจาลงตัว แบ่งเก้าอี้ ส.ว. คนละครึ่ง แล้วคดีจะถูกทำให้เบาบาง
“ถ้าเจรจากันได้ ก็จะเห็นการแชร์อำนาจ ส.ว. แดงครึ่ง น้ำเงินครึ่ง
กระบวนการยุติธรรมจะกลายเป็นแค่ ‘เสมียนรับใช้’
คอยอธิบายกับประชาชน”
และหากสัญญาณการแบ่งขั้วเริ่มชัด เช่น การแต่งตั้งองค์กรอิสระที่ไม่ได้ตกอยู่แค่ในมือเครือข่ายน้ำเงิน แต่มีคนของสีแดงสอดแทรกเข้าไปได้ นั่นแปลว่า…
“เริ่มลงตัวแล้วในการแชร์อำนาจ ‘ต้มประชาชน’”
⸻
แล้วถ้าศาลตัดสินให้ทักษิณกลับไปติดคุก?
คำตอบของอาจารย์โอฬารคือ… ปิดประตูตาย ไม่มีทางเกิดขึ้น
“ไม่มีวันที่คนเลี้ยงมาม่าจะกลับไปนอน รพ. อีกครั้ง
ฝ่ายอำนาจเก่ายังต้องใช้บริการทักษิณ เพราะยังอ่อนแอเกินกว่าจะสู้กับพรรคส้ม กระบวนการยุติธรรมจึงต้องถูกแลกกับการชุบชีวิตทักษิณ”
แต่หากเกิดเหตุการณ์ตรงข้าม — คือศาลตัดสินให้ทักษิณกลับเข้าเรือนจำ
นั่นหมายความว่า อำนาจเก่าตัดสินใจแล้วว่าไม่ต้องใช้เขาอีกต่อไป
หรืออาจรู้สึกว่าเขาไม่ตอบโจทย์ ไม่ว่าจะล้มส้มหรือแก้เศรษฐกิจ
⸻
และถ้าทักษิณจบ… พรรคเพื่อไทยจะเป็นผึ้งแตกรัง
“ไม่มีใครจงรักภักดีกับคนที่อำนาจถดถอย
แพทองธารเป็นแค่สิ่งสมมติ มีตำแหน่งในทางกฎหมายแต่ไร้อำนาจในทางบริหาร ขณะที่ทักษิณไม่มีตำแหน่งแต่คือตัวจริงในการบริหารและคุมเกมเองทั้งหมด นี่คือสภาวะการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย”
⸻
สองข้างสามขั้ว: แดง–น้ำเงิน–ส้ม
อาจารย์โอฬาร สรุปสมการการเมืองขณะนี้ว่า ไม่ใช่การเมืองสองฝ่าย แต่เป็นสองข้างที่มีสามขั้ว
แดงกับส้มแยกกันชัด
แต่แดงกับน้ำเงินก็ไม่ลงรอย
น้ำเงินขี่แดงทุกวัน
และแดงกับน้ำเงินกำลังวัดกำลังจาก “คดีฮั้ว ส.ว.”
ใครแพ้ ใครชนะ ต้องรอดูท่าที DSI และกกต.ต่อจากนี้ แต่ทั้งหมดน่าจะถูกขึ้นโต๊ะเจรจา ตกลงไม่ได้ก็แตกหัก แต่ถ้าตกลงกันได้ก็แชร์อำนาจ “ต้มประชาชน” อาจารย์โอฬารย้ำทิ้งท้ายอีกครั้ง