“ผมมีคลิปเสียง…เป็นคลิปที่พูดกันชัดว่าจะทำโครงการอะไร หาเงินกันยังไง“— วิลาศ จันทร์พิทักษ์ เปิดโปงโครงการรัฐสภาไม่โปร่งใส
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร
—
ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาฯ วิลาศ เปิดเผยกลางรายการว่า ได้รับคลิปเสียงที่เชื่อมโยงกับการเสนอและผลักดันหลายโครงการรีโนเวทภายในอาคารรัฐสภา วงเงินรวมหลายพันล้านบาท — คลิปที่ไม่เพียง “พาดพิง” แต่ “ผูกโยง” นักการเมืองดังในสภาฯ
“ยังไม่ขอเปิดชื่อ…แต่แฉแน่”
—
โครงการลานจอดรถ: รีโนเวท หรือรีโนหลบ?
หนึ่งในตัวอย่างที่เขาพูดถึง คือโครงการ “ลานจอดรถ” มูลค่าเกือบ 4,600 ล้านบาท ที่เริ่มต้นด้วยงบ “ออกแบบ” 104.5 ล้านบาท ได้บริษัทออกแบบแล้ว ทั้งที่งบก่อสร้างจริงยังไม่ผ่าน ครม.
“มันสะท้อนเลยว่าคนเสนอโครงการ ‘มั่นใจมาก’ ว่างบจะผ่านแน่นอน…รัฐสภากลายเป็นองค์กรเทวดา อยากเสนออะไรก็ได้” วิลาศตั้งข้อสังเกต
ไม่เพียงเท่านั้น การจะเพิ่มที่จอดรถต้อง “ทุบกำแพง” ของโครงการเดิม — ซึ่งเป็นจุดที่น้ำรั่วซึม และควรอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับเหมารายเดิม ให้แก้ไขในระยะประกันสองปี
“พอทุบปุ๊บ เขาก็ไม่ต้องซ่อมปั๊บ…อันนี้เรียกว่าอะไร?”
เขาถามแบบไม่ต้องการคำตอบ เพราะมันชัดอยู่แล้ว
—
ศาลาแก้ว: ประธานสภาฯ ไม่รู้สร้างไว้ทำไม
“ศาลาแก้วสร้างไว้เพื่อประกอบพระราชพิธี ออกแบบให้เปิดโล่ง ไม่ติดแอร์”
วิลาศอธิบายที่มาอย่างชัดเจน
แต่ในอีกด้าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ว่า
“ไม่ทราบว่าสร้างไว้ทำไม…ไม่รู้ว่าสัมพันธ์กับอาคารรัฐสภาอย่างไร”
วิลาศไม่พูดถึงคนโดยตรง แต่คำถามของเขาคือ…
“หรือจริง ๆ สิ่งที่อยากได้…คือแค่งบประมาณ?”
และถ้า “ชุดก่อนหน้าได้ไปแล้ว” จึงอยาก “ได้บ้าง”
“ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริง…บอกมาตรง ๆ เลยว่าเพราะอะไร”
—
ทำไมไม่ซ่อม แต่กลับรีโนเวทใหม่?
“สิ่งที่ควรทำคือให้ผู้รับเหมาซ่อมตามระยะประกัน ไม่ใช่ของบใหม่มาทับปัญหาเดิม” เขาย้ำว่าระบบแบบนี้ไม่ได้แค่สิ้นเปลือง แต่คือการ “กลบปัญหาด้วยเงินภาษีประชาชน”
โดยเฉพาะเมื่อมีการอ้างว่า “ใช้มา 5 ปีแล้ว ต้องปรับปรุง”
เขากลับย้อนถามกลับแบบชัด ๆ:
“แล้วห้างใหญ่ ๆ ที่สร้างมาเป็นสิบปี ต้องรื้อทิ้งไหม? คนใช้งานเยอะกว่าด้วยซ้ำ”
—
ไทม์ไลน์…ที่ไม่ตรงกับความจริง
• ผู้รับจ้างส่งมอบงาน: 4 ก.ย. 2566
• ขณะนั้นยังมี 24 รายการ ที่ผิดแบบ
• เพิ่งมาแก้แบบเมื่อ 29 มี.ค. 2567
• คณะกรรมการตรวจรับ: 24 เม.ย. 2567
• เลขาสภาฯ เห็นชอบ: 5 ก.ค. 2567
แต่ผู้รับเหมาพยายามตีความให้ “นับประกัน” ตั้งแต่วันที่ส่งมอบงาน ทั้งที่ยังไม่ได้แก้ไข
“ถ้าให้ตีความแบบนั้น ผมเอาเรื่องแน่นอน”
เขายืนกรานว่า ต้องนับระยะประกันจากวันที่ แก้ไขเสร็จจริง คือวันที่ 29 มีนาคม 2567 และพร้อมตรวจสอบต่อทันทีที่ครบสัญญาประกัน หากไม่มีการแก้ไขอย่างถูกต้อง