นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย และอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ มองอีกมุมกับกรณีมติแพทยสภาปมเทวดาชั้น 14 โดยขึ้นหัวข้อโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “หรือจะกลายเป็นเตะหมูเข้าปากหมา” โดยเริ่มจากที่หลายคนกังวลใจว่า สภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา (รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข) จะยับยั้งมติของแพทยสภาที่ให้ลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจหรือไม่ แต่เรื่องนี้นายนิพิฏฐ์บอกลืมไปได้เลย ยับยั้งก็ช่าง ไม่ยับยั้งก็ช่าง จะไปสนใจทำไม
เหตุผลที่นายนิพิฏฐ์บอกก็คือ การยับยั้งหรือการแก้ไขเปลี่ยนแปลงมติของแพทยสภา พูดตามภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆ ก็เปรียบเหมือนการลงโทษทางวินัยของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม อาจยกเว้นโทษ หรือ เห็นด้วยกับการลงโทษทางวินัยตามมติของแพทยสภา ก็ได้ แต่ที่สำคัญ คือ มิได้ยกเลิก“ข้อเท็จจริง” ตามมติของแพทยสภา ที่มีมติว่า แพทย์บางคนมีความเห็นให้ส่งนายทักษิณไป โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนที่จะตรวจร่างกายคุณทักษิณ ส่วนแพทย์บางคนก็มีความเห็นโดยไม่มีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ว่าคุณทักษิณป่วยวิกฤติ ถึงขนาดต้องนอนโรงพยาบาลตำรวจ 180 วัน
“ข้อเท็จจริงว่าคุณทักษิณ “ป่วยทิพย์” ยังคงมีอยู่ตามมติของแพทยสภา แต่ที่ผมชวนให้ติดตามต่อ คือ 1.หนี หรือ ยอมติดคุก 2.ถ้ายอมติดคุก อย่าลืมว่า มีระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ปี 2566 ให้คุมขังนอกเรือนจำได้ อาจกลายเป็นว่า ให้คุมขังคุณทักษิณ ไว้ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นเวลา 180 วัน ที่ต่อสู้กันมาก็กลายเป็น เตะหมูเข้าปากหมา ไปซะอีก เฮ้อ!!!! นี่แหละประเทศไทยของคุณ” นายนิพิฏฐ์โพสต์ทิ้งท้าย