มีความคืบหน้าต่อเนื่องสำหรับคดีดิไอคอนกรุ๊ป รวบ 18 บอสเข้าซังเตไปแล้ว รอส่งฝากขังโดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว แต่เรื่องราวยังไม่จบเท่านี้ รายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ของ The Publisher พาไปเจาะลึกข้อมูลเครือข่ายเทวดากับ คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ยืนยันว่า มีสี่หน่วยงานประกอบด้วย ปคบ. สคบ. สอท. และ ดีเอสไอ ถูกพาดพิงว่ารับเงินใต้โต๊ะ เป็นเทวดาคุ้มครอง “ดิไอคอนกรุ๊ป” มายาวนานหลายปี ทำให้รอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายมาได้
แม้จะมีเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ปี 2561 แต่กลับไม่ดำเนินการอะไรจนกระทั่งเกิดความเสียหายรุนแรงอย่างที่เห็นทุกวันนี้ จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องกระชากเครือข่ายเทวดาออกมาสะสางให้หมด พร้อมเสนอให้พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ สั่งย้ายผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่เข้าไปพัวพันกับดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งคุณเอกภพบอกเขารู้กันทั้งดีเอสไอ ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเหลือบไรที่กัดกินสังคมอยู่แบบนี้ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส คุ้มครองคนทำผิด เพราะตัวเองได้รับผลประโยชน์
“เทวดาตามหน่วยงานต่าง ๆ ยังมีบิ๊กบอสอยู่ด้วย ใหญ่กว่ารัฐมนเป็นนักการเมืองระดับสูง ที่ยังมีตำแหน่งในปัจจุบันแต่บารมีลดลง เงินใต้โต๊ะมหาศาลเชื่อว่าไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท จะสาวให้ถึงต้นตอไม่ยากให้จับลูกกรอก เจ้าของคลิปเสียงสนทนาเรียกเงินแสนจากบอสพอลมาเชือดเป็นตัวอย่าง แล้วไล่ไปให้หมด สังคายนาเลยสังคมจะปรบมือให้ “
ขณะเดียวกันก็ต้องสอบสวนแม่ทีมซึ่งมีบทบาทสำคัญในการหลอกล่อหาลูกทีม และมีข้อมูลมากกว่าที่ระบุไว้ในระบบจึงเชื่อว่ามูลค่าธุรกิจนี้น่าจะมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท และผู้เสียหายก็ยังมีอีกจำนวนมาก หากล้วงข้อมูลตรงนี้ได้ก็จะทลายเครือข่ายเอาคนผิดมาลงโทษได้
คุณเอกภพ เปิดข้อมูลด้วยว่ายังมีอีกหลายบริษัทที่มีพฤติการณ์ไม่ต่างจากดิไอคอนกรุ๊ป โดยเร็ว ๆ นี้จะเปิดชื่อบริษัทสองพยางค์ ที่มีดาราโฆษณาเช้ากลางวันเย็น ส่วนจะใช่ Bhip หรือไม่ให้รอติดตาม เพราะตอนนี้ก็มีคนร้องเรียนเข้ามาอยู่ระหว่างตรวจสอบ ที่ยืนยันว่าไม่ผิด ต้องดูพฤติการณ์พอสอบก็รู้
“ความเสียหายอาจมากกว่าดิไอคอนเพราะบริษัทนี้มุ่งเน้นนักเรียน นักศึกษาที่กำลังมีความฝัน ความหวัง ไปทำลายความฝันของเขา จะนามสกุลดังแค่ไหนก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน วันนี้กระแสสังคมต้องการกวาดล้างเรื่องนี้ นามสกุลดังไม่สำคัญ”