ความคืบหน้าการรวมตัวกลุ่มคนรักประเทศชาติให้กำลังใจ ป.ป.ช. วันที่ 18 ธ.ค. 2567 พูดคุยกับ นพ.วรงค์ เดชวิกรม ในประเด็นนักโทษชั้น 14
The Publisher: พรุ่งนี้ไป ป.ป.ช. เพื่ออะไร?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ด้วยหลักการเราไปเพื่อให้กำลังใจ และเพื่อกดดันภาษาที่สื่อสารออกไปก็คือเพื่อให้กำลังใจ แต่เราก็ยอมรับว่า ป.ป.ช. เอง กระแสข่าวออกมามีทั้งดี และมีทั้งผู้น่าสงสัย คำว่า “ดี” คือหมายถึงว่าทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต “ผู้น่าสงสัย” ก็คือมีความพยายามที่จะซื้อป.ป.ช. ดังนั้นเป้าหมายของเราพรุ่งนี้เราไปแน่นอน ไม่ว่าล่าสุดจะมีมติในการไต่สวนทั้งคณะ อย่าลืมว่าแม้จะเป็นการไต่สวนทางคณะแต่ถ้ามีการซื้อป.ป.ช. ได้ขึ้นมาจริง ๆ ก็เท่ากับว่าก็เป็นแค่เกมหลอกลวงประชาชน แต่ว่าเรายังไปเหมือนเดิม
The Publisher: อะไรที่ทำให้ยังมีความกังวลว่า ป.ป.ช. จะถูกซื้อตัวได้?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: มีข่าวออกมาจริง ๆ ว่ามีการซื้อ ป.ป.ช. ตามกระแสข่าวแล้วกัน แล้วก็จุดที่น่ากังวลใจก็คือการซื้อป.ป.ช. ให้ได้มากที่สุด ผมฟังคนวิเคราะห์ให้ฟังว่าเขาตั้งเป้าไว้อย่างน้อย 3 ขณะนี้เหลือ ป.ป.ช. ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 6 ถ้า 3 ต่อ 3 ยันกันได้ก็ลำบาก เพราะอย่าลืมว่าทางนี้เองตามที่ ป.ป.ช. ตั้งคณะชุดใหญ่ไต่สวนมันเป็นการไต่สวนพูดง่าย ๆ คือเจ้าหน้าที่รัฐแน่นอน แต่ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐมีมูลความผิดก็จะมีผลต่อคดีของคุณทักษิณด้วย
The Publisher: มีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับองค์ประกอบของ ป.ป.ช. ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยหรือไม่?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: หลัก ๆ เราทราบว่าอีก 2 ท่านครบวาระกว่าจะสรรหาก็ปีหน้าเพราะฉะนั้นตอนนี้พวกเราก็ต้องแสดงออกบางอย่างเพื่อให้กำลังใจคนทำงานในขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคมอยู่แล้ว ในเมื่อให้กำลังใจคนทำงาน เรื่องพฤติกรรมก็เป็นการปรามต่อปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น แต่ผมมีมุมอีกนิดนึงเนื่องจากว่า ป.ป.ช. ประกาศว่าจะมีการไต่สวนเรื่องนักโทษชั้น 14 อย่าลืมว่าเรื่องนักโทษชั้น 14 มันเป็นมหากาพย์ ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล วันที่ 22 ออกวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เอาเป็นว่า 6 เดือน คือที่ ป.ป.ชไต่สวนอยู่ที่กำลังจะไต่สวนชุดใหญ่ แต่อย่าลืมว่าการพักโทษ กรณีพิเศษสร้างปัญหาไว้อยู่ เพราะอย่าลืมว่าการพักโทษกรณีพิเศษของคุณทักษิณเข้าขาย 70 ปี และช่วยเหลือตัวเองได้น้อยคุณทักษิณ ไม่ได้พักโทษกรณีพิเศษเพราะป่วยหนักหรือพิการเพราะเขามีอยู่ 3 เกณฑ์ คำถามถามว่าคนแบบนี้หรอที่ได้รับการพักโทษกรณีพิเศษอายุเกิน 70 ปี เพราะช่วยเหลือตัวเอง ไม่ได้ที่คะแนนแค่ 9 จาก 20 ในการประเมินอันนี้ก็เป็นปัญหาที่สังคมอาจจะลืมไป โดยปกติแล้วคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พูดได้น้อยระยะยาว ไม่ใช่แค่ช่วงใดช่วงหนึ่ง ถ้าเป็นตามเกณฑ์จริง ๆ ควรจะต้องนอนพักอยู่ที่บ้านไม่ใช่ออกมาเร่ร่อน อันนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องกระตุกให้ ป.ป.ช. ได้เข้าใจ
The Publisher: การที่ ป.ป.ช ตั้งไต่สวนมีแต่ข้าราชการ แล้วนักการเมืองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ผมเชื่อว่าสุดท้ายต้องถึงนักการเมืองลึก ๆ ผมคิดว่าเป็นอย่างนั้นถ้า ป.ป.ช. มีสติคือ เช็คตามข่าวเบื้องต้นรัฐมนตรีคนนี้เพิ่งจะเข้ามาแล้วก็เข้ามาที่หลังเหตุการณ์ที่การส่งตัวคุณทักษิณแต่ถ้าตรวจสอบได้ว่ารัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษชั้น 14 ป.ป.ช. ก็สามารถที่จะชี้มูลเพิ่มเติม แต่เราก็หวังว่าอย่างนั้นด้วย เพราะอย่าลืมว่าเรื่องเหล่านี้ถ้าฝ่ายการเมืองไม่เตรียมตัวขับเคลื่อนไม่มีทางหรอกที่ฝ่ายประจำจะกล้าทำขนาดนี้
The Publisher: กรณีของคุณทวี จะเป็นส่วนหนึ่งในการยื่นด้วยหรือไม่?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ผมคิดว่าได้เช็คข่าวที่คปธ. สัมภาษณ์ออกมาแล้ว ยังไงเขาจะต้องจี้ไปที่คุณทวีให้ได้ ผมตรวจสอบที่คปธ. เขากำลังขับเคลื่อนของเขาอยู่ ดังนั้นพวกนี้มันน่าจะเป็นการแสดงออกที่หลากหลายมิติ ทั้งในการจี้ประเด็นต่าง ๆ การให้กำลังใจกดดัน
The Publisher: พรุ่งนี้มีการนัดกันอย่างไร?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: 11 โมงเช้า เนื่องจากว่าเราเพิ่งมาเจอกันครั้งแรก ทั้ง 30 ท่าน บางท่านก็จะติดภารกิจ เท่าที่ตรวจสอบพรุ่งนี้น่าจะไปได้ 20 ท่าน เอกสารที่จะยื่นต่อ ป.ป.ช. มีการร่างเรียบร้อยแล้ว ยื่นเอกสาร หลังจากนั้นแถลงข่าว และมีการปราศรัยเล็กน้อย มีการนัดแนะให้มีการจัดรถเครื่องเสียงไปด้วย
The Publisher: พอจะบอกเนื้อหาที่จะมีการแถลงการณ์ได้หรือไม่?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: จริง ๆ วนอยู่ในชั้น 14
The Publisher: มีการนัดหมายมวลชนด้วยหรือไม่?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ด้วยหลักการก็คือแกนนำประมาณ 20 ท่าน มวลชนไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องขนคน ก็คือประกาศบอกให้ประชาชนได้ทราบ ถ้าประชาชนมาร่วมด้วยก็โอเคมัน ก็คงไม่ต่างจากที่พันธมิตรเชิญชวนประชาชน เราไม่ได้ถึงขนาดที่ระดมมวลชนนะ เพราะเป้าหมายคือเราไปพบ ป.ป.ช. แต่ถ้าประชาชนมาก็ดี
The Publisher: มีอะไรที่กังวลต่อการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช. นอกเหนือจากเรื่องการถูกซื้อตัว?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: หลัก ๆ เราก็กังวลเรื่องนี้ เราถึงมีการขับเคลื่อนกัน เพื่อไปให้กำลังใจ ป.ป.ช. ที่ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แล้วก็ไปการปราม ป.ป.ช. ที่คิดไม่ดีเราคิดว่าหลังจากพรุ่งนี้แล้ว น่าจะมีการรวมกลุ่ม มากำหนดยุทธศาสตร์วางแผนในการขับเคลื่อน เนื่องจากว่าที่ผ่านมา มันเป็นการประชุมครั้งแรก ประชุมยาวตั้งแต่ 5 โมงถึง 4 ทุ่ม เพราะงั้นผมคิดว่าหลังจากนี้ไปแล้วน่าจะมีการพูดคุยกันต่อ แล้วก็กำหนดยุทธศาสตร์ต่อ เพราะครั้งนี้เราจะต้องประกาศต่อสู้กับระบอบทักษิณใหม่อีกครั้งหนึ่ง
The Publisher: จำเป็นที่จะต้องกำหนดทิศทางร่วมกันด้วยใช่หรือไม่?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ถูกต้องครับ วันนั้นมีหลายคำตอบที่ยังไม่เคลียร์ เอาเรื่องวันที่ 18 ก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยมาตกผลึกความคิดร่วมกัน ค่อยมาเคลียร์กัน
The Publisher: มีการตั้งชื่อเป็นกลุ่มใหม่หรือไม่?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: วันนั้นที่คุยกันเบื้องต้นไม่ต้องตั้งหรอก คือมีอาจารย์บางท่านบอกว่าไม่ต้องตั้งหรอก เพราะว่าเรารวมตัวกันแบบหลวม ๆ อยู่แล้ว แต่ท้ายที่สุดมันมีพัฒนาการ คือจะพัฒนาการเป็นแบบไหนแล้วค่อยว่ากันอีกที
The Publisher: คาดว่าจะพัฒนาการไปแบบไหน?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ผมให้เป็นสัญญาณบวกครับ เพราะทุกคนพูดตรงกันถ้าอยู่ ๆ นัดหมายคงไม่มีใครมา ทุกคนมันอึดอัด ทนไม่ได้แล้ว ก็เท่ากับว่าพฤติกรรมของรัฐบาล หรือระบอบทักษิณใหม่ที่เกิดขึ้น มันมีความรู้สึกทำให้ประชาชนไม่ไหว เพราะงั้นคนที่เซ้นส์ต่อความเคลื่อนไหว เซ้นส์ต่อปัญหา จึงมากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ผมให้เป็นสัญญาณบวก ผมเชื่อว่ามันจะเป็นทางออกของประเทศ
The Publisher: ปีหน้าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นไหม?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ทุกคนก็คาดการณ์อย่างนั้น แม้แต่หมอดู น่าจะเข้มข้นถ้าเขามีสติมันก็ดีขึ้น แต่ดูแล้วสิ่งที่เขาแสดงออกมามันแสดงออกว่าเขาเหิมเกริม เขาไม่มีสติ เขาไม่เรียนรู้บทเรียนที่เขาเคยสร้างปัญหาให้กับประเทศจนประชาชนออกมาต่อต้าน เพราะงั้นปีหน้าเข้มข้นครับ
The Publisher: มีคนออกมาวิเคราะห์ว่าคุณทักษิณจะกลับมาเป็นนายกอีกรอบหนึ่ง?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: คำพูดเขาชัดเจนหนิ เข้าใจขอพระเจ้าประเทศไทย 17 ปี ที่หายไปเขาจะขอคืน แล้วก็ดูการเร่งในการที่จะยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เขาคงหวังแก้รัฐธรรมนูญใหม่เขาจะกลับมาเป็นไม่ได้ แต่ถ้ายกร่างทั้งฉบับ ประชาชนตามไม่ทัน ก็ต้องติดตาม
The Publisher: พรบ.ล้างมลทิน หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อที่จะยกเว้นคุณสมบัติในบางเรื่องที่เปิดทางให้คุณทักษิณกลับสู่เส้นทางการเมืองได้?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ใช่ครับ สำหรับคนที่ติดตามการเมืองแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว คิดอะไรอยู่เพราะสังเกตดูทั้งฝ่ายรัฐบาล และพรรคฝ่ายค้านหลัก เขาก็คิดตรงกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันอยู่แล้วในการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
The Publisher: ถ้ามันเดินหน้าไปสู่จุดนั้นจริง ๆ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: ประวัติศาสตร์สอนไว้ว่าให้คุณเรียนรู้จักประวัติศาสตร์ แต่อย่าไปทำซ้ำรอยประวัติศาสตร์ วันนี้คุณไม่ยอมเรียนรู้แต่คุณจะทำซ้ำรอย
The Publisher: บางฝ่ายอาจจะคิดว่ามโนกันเกินไปหรือเปล่า?
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม: มันมีเหตุ ไม่ใช่เพราะว่ามานั่งมโน เพราะคุณเป็นคนกำหนดเกม ปฏิกิริยาเกิดจากการที่พวกคุณเป็นคนกระทำนอกเส้น เพราะงั้นคุณไม่ต้องมามโน พวกคุณเป็นคนสร้างปัญหาจริง ๆ