เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ยื่นหนังสือถึง กกต. ให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณี นายทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร นายก อบจ. อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เมื่อ 11 ธ.ค. 67 โดยมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผู้แทนหรือตัวแทนของสถาบันฯ ความดังนี้ “เอานายกฯ อบจ.อุบลฯ คืนให้เพื่อไทย แล้วเอา สส.คืนมาอีกรอบหนึ่ง แล้วเราจะคืนความสุขความมั่งคั่งให้คนไทยทั้งประเทศ”
“ระหว่างผมไม่อยู่ 17 ปี พี่น้องถูกขโมยความสุขไปหมด พร้อมกับผมโดนถีบไปอยู่ต่างประเทศ”
“วันนี้ผมกลับมาแล้ว กลับมาอยู่กับพี่น้อง กลับมาถวายงาน รับใช้เบื้องพระยุคลบาท วันนี้เราก็ต้องทำงานให้บ้านเมือง ให้ทุกคนมีความสุข” การปราศรัยของนายทักษิณที่อ้างว่า “กลับมาถวายงาน รับใช้เบื้องพระยุคลบาท วันนี้เราก็ต้องทำงานให้บ้านเมือง ให้ทุกคนมีความสุข” นั้น สอดคล้องต่อเนื่องกับที่ปราศรัยก่อนหน้านี้ว่า “เอานายกฯ อบจ.อุบลฯ คืนให้เพื่อไทย แล้วเอา ส.ส.คืนมาอีกรอบหนึ่ง แล้วเราจะคืนความสุข ความมั่งคั่งให้กับประเทศ” และ “ระหว่างผมไม่อยู่ 17 ปี พี่น้องถูกขโมยความสุขไปหมดพร้อมกับผม” เป็นการปราศรัยที่อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่านายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้แทนหรือตัวแทนของสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเป็นผู้ถวายงานใกล้ชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยการถวายงาน การทำงานเพื่อบ้านเมืองให้ทุกคนมีความสุข จึงต้องเลือกผู้สมัคร นายกฯ อบจ. และ สส.พรรคเพื่อไทย แล้วพรรคเพื่อไทยจะคืนความสุขให้ ซึ่งนอกจากนี้ นายทักษิณ ชินวัตร ยังมีพฤติกรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ มาหลายครั้ง ซึ่งปัจจุบันนายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยในคดีของศาลอาญา ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยาน
คปท. ชี้ว่า พฤติกรรมการปราศรัยของนายทักษิณ เข้าข่ายฝ่าฝืนระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงฯ พ.ศ. 2563 ข้อ 22 และ พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 66 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอให้ กกต. เร่งดำเนินการไต่สวนโดยด่วน
19/12/2024