ชื่อสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ถูกพูดถึงอย่างมากจากบทบาททางการเมือง ที่พยายามสร้างราคาให้ตัวเอง แสดงตนว่าสามารถดีลสส.ให้มาอยู่กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้จำนวนมาก รวมถึงการประกาศตัวชัดอยู่คนละขั้วกับผู้กองธรรมนัส พรอ้มการแสดงบทบาทเป็น “องครักษ์พิทักษ์บิ๊กป้อม” เสมือนคนใกล้ชิด คอยช่วยปิดช่องโหว่แก้ต่างให้ กระทั่งถูกวิจารณ์หนักกรณีออกมาแก้ตัวเรื่องคลิปเสียงลุงว่าเป็นเสียงเอไอ
ล่าสุดเข้าไปอยู่ในวังวน “ดิไอคอนกรุ๊ป” ปรากฏคลิปเสียงหลายคลิป ที่แสดงให้เห็นว่ามีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษากับบอสพอล รวมถึงมีการเปิดข้อมูลจากทนายตั้มว่า ได้พบกับ “บอสปีเตอร์” ก่อนฝี “ดิไอคอน” จะแตก ลามไปถึงเจ้าตัวเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่นำคลิปสนทนามาเปิดเผย เท็จจริงอย่างไร “สามารถ” ต้องไปพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม
ย้อนดูเส้นทางการเมืองของ “สามารถ” จะพบว่าไม่ธรรมดา จากประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ที่แต่งตั้งตัวเอง ไต่เต้าจนได้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในปี 2562 ซึ่งในขณะนั้นมี สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.ยุติธรรม และได้รับมอบหมายจากพลังประชารัฐให้เป็น ผอ.ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่วิบากกรรมไล่ตาม ถูกขุดปมส่งลูกน้องไปเรียนสอบหลักสูตรภาษาอังกฤษระดับปริญญาเอกแทน เป็นผลให้ถูกตัดสิทธิ์จากวิชาเรียนดังกล่าว สุดท้ายเขาถูกปลดจากทุกตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ และลาออกจากทุกตำแหน่งในกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 2 พ.ค.64

แต่เขากลับมาโลดแล่นมีบทบาทในพรรคพลังประชารัฐได้อีกครั้ง แถมกลายเป็นคนที่แสดงตนเป็นเสมือนคนใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร อีกด้วย ก่อนที่จะกลายเป็น “ดาวอับแสง” จากกรณี “ดิไอคอนกรุ๊ป”
นับเป็นบทชีวิต พลิกหลายตลบของ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” ที่อาจสร้างความพลิกผันส่งผลสะเทือนจากเมืองถึงป่าได้ไม่มากก็น้อย