ไม่รู้ศึก 2 หัวกะทิของประเทศอย่างแพทยสภา กับสภาเภสัชกรรม จะจบแบบไหน หลังแพทยสภายื่นฟ้อง สปสช. และสภาเภสัชกรรม ที่ขยายสิทธิดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการให้ร้านยาชุมชนอบอุ่น ที่มีเภสัชกรประจำอยู่สามารถตรวจโรคและจ่ายยาได้ เพราะเห็นว่าขัดต่อ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม นำมาซึ่งการตอบโต้กันระหว่างสององค์กรมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
The Publisher ซึ่งเกาะติดเรื่องนี้เพราะมีประชาชนจำนวนมาก ที่ใช้สิทธิ 30 บาทจะได้รับผลไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่ง วันนี้จึงมาเปิด 2 มุมต่างของ 2 องค์กร โดยจะขอเริ่มจากแถลงการณ์ของแพทยสภากันก่อน
เหตุผลสำคัญของแพทยสภาคือ ถึงแนวทางนี้ประชาชนได้รับยารวดเร็ว และลดความแออัดในโรงพยาบาล แต่คนไข้จะไม่ได้รับการตรวจ รักษา บำบัด เยียวยาอย่างถูกต้อง เสี่ยงไม่ได้ยาตรงตามอาการ เพิ่มโอกาสดื้อยา และอาจนำอันตรายร้ายแรงมาสู่คนไข้โดยไม่คาดคิด เช่นปวดหัว นึกว่าอาการเล็กน้อย แต่อาจเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ปวดท้องอาจเป็นการนำของโรคไส้ติ่งแตก หรือเส้นเลือดแดงใหญ่ปริแตก จึงควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ เพื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเร่งด่วน หรือหลายโรคแม้อาการแรกเริ่มจะดูเล็กน้อยก็ตาม
ที่ผ่านมาแพทยสภาพยายามหาทางออกร่วมกับ สปสช.และสภาเภสัชกรรม เพื่อให้มีแนวทาง ข้อตกลงร่วมในการแยกโรคที่มีภาวะรุนแรง กับโรคที่เภสัชกรจ่ายยาได้ปลอดภัย แต่ไม่สำเร็จ จึงจำเป็นต้องพึ่งศาลปกครองเพื่อหยุดและทบทวน คุ้มครองประชาชนให้เข้าถึงการรักษาที่ได้มาตรฐานเป็นสำคัญ
คราวนี้มาดูเหตุผลของฝั่งสภาเภสัชกรรมกันบ้าง ถือเป็นแถลงการณ์ตอบโต้เลยทีเดียว โดยเริ่มจากโครงการนี้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจาก บอร์ด สปสช.ที่มีผู้แทนแพทย์ เภสัชกรและวิชาชีพอื่นๆ มาเป็นอย่างดี ส่วนการซักประวัติเพื่อจ่ายยา ก็เป็นมาตรฐานที่เภสัชกรดูแลผู้ป่วยมานานกว่า 70 ปีและเป็นไปตามกฎหมาย
ระบุในสังคมที่เหลื่อมล้ำ มีประชาชนเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์อยู่มาก โดยเฉพาะในอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ซึ่งเภสัชกรสามารถซักถามประเมินอันตรายและจ่ายยาดูแลอาการตามความเหมาะสม ติดตามการใช้ยา เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนได้รับการรักษาถูกต้องได้ ส่วนอาการที่เสี่ยงอันตรายเป็นโรคร้ายแรง เภสัชกรจะรีบส่งต่อให้แพทย์ดูแลโดยด่วนอยู่แล้ว
ในแถลงการณ์ยังพาดพิงไปถึงแพทย์บางคนละเลยความปลอดภัยในการจ่ายยาให้กับคนไข้ เช่นไม่ระบุชื่อยา รายละเอียดยา และไม่สามารถตรวจสอบได้หากมีปัญหาการใช้ยาอีกด้วย
ตอนท้ายสภาเภสัชกรรม หวังแพทยสภาเปิดใจ หยุดและทบทวน รับฟังความเห็นความรู้สึกของประชาชน และทางสภาเภสัชกรรมพร้อมให้ความร่วมมือหาทางออกบนพื้นฐานให้เกียรติกันและกัน สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชน
The Publisher เห็นด้วยที่ทั้ง 2 สภาอยากทำเพื่อประโยชน์ประชาชน แต่จากท่าทีที่ตอบโต้กันไปมา ความหวังนี้คงต้องรอไปก่อน และไม่แน่ว่าหลังศาลปกครองตัดสินคดี ทั้งสองสภายังจะงัดข้อกันอีกหรือไม่ ถ้าไม่ก็เอวัง..ด้วยประการเช่นนี้
อนันต์ จารุนันทภาคย์ รวบรวม