The Publisher ได้รับข้อมูลว่า ตอนนี้ 7 นักโทษคดีโกงจีทูจี ในโครงการรับจำนำข้าว ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทั้ง 7 คนประกอบด้วย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ โทษจำคุก 48 ปี นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ โทษจำคุก 36 ปี นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ โทษจำคุก 40 ปี นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ โทษจำคุก 32 ปี น.ส.รัตนา แซ่งเฮ้ง โทษจำคุก 16 ปี นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร โทษจำคุก 48 คดี และนายนิมล หรือ โจ รักดี โทษจำคุก 32 ปี
โดยทั้งหมดได้รับการเลื่อนชั้นนักโทษแบบรัว ๆ ภายในปี 2563 ปีเดียว เลื่อนจากชั้นกลางเป็นชั้นดี ชั้นดีมาก และชั้นเยี่ยม เกิดคำถามมีกระบวนการวิ่งเต้น หรือช่องว่างในการหาประโยชน์เกิดขึ้นในกระบวนการนี้หรือไม่ จึงทำให้มีการเลื่อนชั้นได้รวดเร็วกว่านักโทษปกติ ไม่เพียงเท่านั้นกรณีของนายบุญทรง และนายภูมิ ยังถูกบันทึกไว้ว่าไม่ได้อยู่ที่เรือนจำ แต่สถานที่จำคุกกลับเป็นโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วย
นอกจากนี้นักโทษทั้ง 7 คนในคดีโกงจีทูจียังได้รับการอภัยโทษแบบรัว ๆ อีกด้วย โดยในส่วนของนายบุญทรง และนายภูมิ ได้รับการอภัยโทษ 4 ครั้ง ปี 2563 1 ครั้ง และปี 2564 รวม 3 ครั้ง
ขณะที่นายมนัส ก็ได้รับการอภัยโทษ 4 ครั้ง ปี 2563 2 ครั้ง และปี 2564 อีก 2 ครั้ง เช่นเดียวกับนายทิฆ้มพร น.ส.รัตนา เสี่ยเปี๋ยง และ นายนิมล โดยปัจจุบันทั้ง 7 คน ได้รับการพักโทษปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว
นี่คือกลไกการบังคับโทษของกรมราชทัณฑ์ในคดีทุจริตจีทูจีที่ทำให้ชาติเสียหายมากกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท การติดคุกจริงเฉลี่ยคนละประมาณ 7 ปี จากโทษ 16-48 ปี
ขณะที่หลักเกณฑ์ในการบังคับโทษก็มีกติกาใหม่ ๆ เกิดขึ้น ทั้งการพักโทษ และการคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งหลักเกณฑ์ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ เพิ่งครบกำหนดการรับฟังความเห็นประชาชนไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากร่างที่รับฟังความเห็นฯ ก็จะทำให้ ผู้ต้องคดีทุจริต , ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 รวมถึงผู้ต้องโทษคดี 112 อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับพิจารณาคุมขังนอกเรือนจำได้ด้วย