พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วยคณะ แถลงข่าวส่งมอบสำนวนคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ให้แก่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ
DSI รับสำนวนคดีนี้จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 โดยดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 119/2567 ซึ่งใช้เวลาเพียง 54 วัน ก็สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาได้ครบทั้ง 19 ราย ประกอบด้วยนิติบุคคล 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และบุคคลธรรมดาอีก 18 ราย นำโดยนายวรัตน์พล หรือบอสพอล กับพวก
พ.ต.ต. ยุทธนา กล่าวว่า คดีนี้มีพยานเอกสารมากถึง 348,209 แผ่น พยานบุคคล 8,071 ปาก ผู้เสียหาย 7,875 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,644 ล้านบาท DSI ได้อายัดทรัพย์สินไว้แล้ว 747,640,000 บาท ประกอบด้วยอาคารและที่ดิน
สำหรับข้อหาที่ DSI เสนอให้อัยการสั่งฟ้องทั้ง 19 ราย มี 5 ข้อหาหลัก ได้แก่
1. ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่) ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
2. ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงในลักษณะชักชวนเข้าร่วมเครือข่ายโดยให้ผลตอบแทนจากการหาสมาชิกใหม่ ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545
3. ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545
4. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
5. ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
อธิบดี DSI ยังกล่าวขอบคุณ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินคดี รวมถึงคณะที่ปรึกษาคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ DSI ทุกนาย ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานจนคดีนี้สำเร็จลุล่วง
พร้อมยืนยันว่า DSI จะยังคงเดินหน้าดำเนินคดีฟอกเงินกับบริษัท ดิไอคอนฯ ต่อไป