.
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ และกรณีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน รวมจำนวน 2 เรื่อง ดังนี้
.
ชี้มูลความผิดนางเรณู พลลเสน ครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลปลายนา มีเงินฝากบัญชีธนาคารกรุงไทยกว่า 20 ล้านบาท อ้างว่าเป็นเงินที่นาย พ.นำมาฝากชั่วคราว และอีกส่วนเป็นเงินที่นำมาชำระหนี้ แต่ไม่พบหลักฐานการให้กู้ยืมเงิน และนางเรณู ยังถอนใช้เงินที่ฝากไว้เสมือนเป็นของตนเอง ซึ่งผิดวิสัยการรับฝากเงินของวิญญูชนทั่วไป และยังมีกรณีเงินฝากเข้า ธกส. 7.6 แสนบาท ที่ชี้แจงว่า ห้างหุ้นส่วนฯ ซื้อรถยนต์จากตนและชำระเป็นเงินสด แต่ไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน จึงไม่อาจรับฟังได้ ป.ป.ช.มีมติร่ำรวยผิดปกติ สืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ สั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน และส่งคำวินิจฉัย ให้ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษไล่ออกภายในหกสิบวัน
.
อีกกรณีคือ นายมนัส แพทย์จะเกร็ง จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ พรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองโคน อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม พบว่าไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินของตนและคู่สมรสกว่า 25 ล้านบาท มีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ให้ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และลงโทษอาญา อีกทั้งนายมนัส มีรายได้จากการเพาะเลี้ยงหอยแครงกว่า 402 ล้านบาท แต่ไม่ได้ยื่นชำระภาษี ให้แจ้งกรมสรรพากรตรวจสอบดำเนินการทางภาษีต่อไป
.
