ปัญหาและผลกระทบเรื่อง PM2.5 เป็นที่ทราบกันดีว่าส่งผลเสียและอันตรายแค่ไหน
Environman เปิดตัวเลขค่าใช้จ่ายรายปอด ในปี 67 ที่ต้องจ่ายเป็นภาษี เพื่อแก้ไขปัญหา PM2.5 17,000 ล้านกว่าบาท และจ่ายเป็นลมหายใจของผู้เสียชีวิตเพราะ PM2.5 กว่า 71,184 คน
ในขณะเดียวกันนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ได้เน้นไปที่การลดปริมาณฝุ่นที่ต้นทาง อย่างเช่น การควบคุมการเผา การควบคุมมลพิษจากภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และการให้ความรู้ต่อประชาชน แต่ไม่พบว่าคุณภาพอากาศจะดีขึ้นแต่อย่างใด และไม่ได้มีมาตรการการรับผิดชอบ หรือชดเชยให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และยังเป็นภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนที่ต้องมารับผิดชอบตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน การรักษา ค่าเสียโอกาสต่างๆ โดยไม่จำเป็น รัฐฯ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ควรเข้ามาแก้ไขปัญหา
จึงได้เกิดการร่างกฎหมายฉบับประชาชน “พรบ.อากาศสะอาด” โดยสมาคมเครือข่ายอากาศสะอาด มี 3 หัวข้อสำคัญ ที่ขาดไม่ได้ และร่างอื่นไม่มี ดังนี้
- สิทธิในอากาศสะอาดของประชาชน : ปชช. มีส่วนร่วมและมีข้อมูลเกี่ยวกับอากาศสะอาด สามารถฟ้องร้องผู้ก่อมลพิษและเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเลยหน้าที่ได้
- กองทุนอากาศสะอาด : มีรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ก่อมลพิษ ผ่านกลไกที่โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อนำมาใช้เยียวยาประชาชนได้อย่างทันท่วงที
- จัดตั้งองค์การอากาศสะอาด : มีหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ มากำกับดูแล สามารถบริหารจัดการอากาศสะอาดได้แบบบูรณาการ โดยเฉพาะการจัดการร่วมระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม
ซึ่งตอนนี้ ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดได้เข้าสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะถูกโหวตจากคนในสภาว่าร่างนี้จะผ่านหรือไม่ หากฝ่านผลที่ได้จากพ.ร.บ.นี้ ก็จะเป็นการสร้างระบบการจัดการมลพิษที่ยั่งยืนและครอบคลุม โดยให้ความสำคัญการมีส่วนร่วมของประชาชน การใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญมาตรการที่เข้มงวดนี้จะทำให้ฝุ่นสามารถลดลง และนำไปสู่คุณภาพอากาศที่ดี สุขภาพที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เป็นต้นแบบให้อีกหลายๆ ประเทศ