• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

เอาแล้ว ! อนุ กกต.คดีฮั้ว สว. ชงฟ้อง 138 สว.-บิ๊ก ภท.กราวรูด จับตาส่อถูกยุบพรรค

17/07/2025

‘พีระพันธุ์’ แจงคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปพลังงาน  เผยตั้ง กก.ทำแผน PDP มุ่งพลังงานทดแทนแล้ว 

17/07/2025

“ไม่มีประเทศไหนเจรจาการค้าสำคัญแบบนี้ โดยไม่มีผู้นำไปคุยด้วยตัวเอง”

17/07/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»News»เปิด “มุมมองมาร์ก” รัฐบาลพ่อเลี้ยงไม่ปล่อยลูกโตเอง อุ๊งอิ๊งค์ อตร.
News

เปิด “มุมมองมาร์ก” รัฐบาลพ่อเลี้ยงไม่ปล่อยลูกโตเอง อุ๊งอิ๊งค์ อตร.

27/12/20242 Mins Read
Facebook Twitter

“มาร์ก” ชำแหละ เกือบ 2 ปี รัฐบาลเพื่อไทย ติดกับดัก “นโยบายหาเสียง-มุ่งคะแนนนิยม” เมินปรับโครงสร้าง คิดปฏิรูปภาษีผิดทาง เดินตามก้น “ทักษิณ” มอง 3 เดือน “อุ๊งอิ๊งค์” เร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลงาน แนะนำในฐานะนายกฯ รุ่นพี่ “ขยันเรียนรู้ มีความสุจริตในการบริหาร” แต่ที่ผ่านมายังมองไม่เห็นในตัว นายกฯ มองฉายา “รัฐบาลพ่อเลี้ยง” ได้มาเพราะพฤติกรรม เตือน อตร. ไม่ให้ลูกโตด้วยตัวเอง จับตา 4 กับดัก MOU 44-กาสิโน-นิรโทษกรรม-แก้ รธน.-ชั้น 14 – การกลับมาของยิ่งลักษณ์แบบไม่ปกติ ย้ำ ไม่ปิดประตูตายกลับสู่ถนนการเมือง อยู่ที่เงื่อนไข ทำประโยชน์ให้ ปชช.ได้หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ The Publisher ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจการเมืองปี 2568 ว่า ในเรื่องเศรษฐกิจต้องติดตามการเจ้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ “ทรัมป์” เป็นสมัยที่ 2 โดยที่มีนโยบายค่อนข้างชัดเจน ว่าจะมีการขึ้นกำแพงภาษี ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่ค่อนข้างเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบด้วย เพราะเราเกินดุลการค้าสหรัฐอยู่อันดับที่ 12 นอกจากนี้การที่จะตอบโต้กับจีน ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่าง 2 มหาอำนาจ ก็มีผลกระทบที่ไทยต้องเตรียมรับมือ บางคนบอกมีข้อดีเพราะ
จีนก็อาจจะย้ายฐานการผลิตมาที่นี่ ก็ต้องระมัดระวัง เพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้ ไทยก็เจอมาตรการภาษีจากสหรัฐอเมริกา เรื่องนำแผงโซล่าร์เพราะว่าเขามองว่าผู้ผลิตเป็นบริษัทของจีน เพราะฉะนั้นไม่ได้แปลว่า ถ้าย้ายฐานการผลิตมาแล้วจะเลี่ยงมาตรการนี้ได้

“การทุ่มสินค้าราคาถูกเข้ามาในภูมิภาค รวมทั้งประเทศไอด้วย เป็นโจทย์ใหญ่ ที่เห็นชัดเจนสำหรับปีหน้า แต่การบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปจากการมุ่งในแง่เรื่องเงิน 10,000 บาท รวมกับเรื่องของค่าแรง 400 บาท ซึ่งก็จนถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าทำไปได้ ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เสียทั้งเวลาและทรัพยากรไปเยอะกับการเติมกำลังซื้อชั่วคราว และทำสงครามกับธนาคารแห่งประเทศไทยแบบไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าจะเชิงนโยบายหรือการแต่งตั้งบุคลากรทั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ รวมถึงผู้ว่าฯ แบงก์ชาติในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย อีกทั้งยังมีแนวคิดจะใช้ทุนสำรองระหว่างประเทศ รวมถึงเรื่องพันธบัตรดิจิทัลด้วย ซึ่งนโยบายส่วนใหญ่ก็ถูกโยนมาจากนายทักษิณ ถ้ายังวนเวียนอยู่อย่างนี้ สภาพเศรษฐกิจ ก็คงไม่หนีจาก ปี 67 เพราะไม่มีการปรับโครงสร้างที่เป็นหัวใจของปัญหาเลย อีกทั้งการปฏิรูปภาษีก็มีความจำเป็น แต่รัฐบาลก็เดินผิดทางกับสูตร 15 15 15 เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วกับการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15 % และแนวคิดการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มควรเป็นตัวเลือกสุดท้าย หลังจากไปปรับปรุงการจัดเก็บภาษีส่วนอื่นให้มีประสิทธิภาพแล้ว”

อดีตนายกฯ แนะนำว่าอาจมีการปรับปรุงการจัดเก็บภาษี เช่น ยกเลิกหรือลดการลดหย่อนภาษีสำหรับคนที่มีฐานะอยู่แล้ว และการลดภาษีนิติบุคคลแข่งขันกับหลายประเทศ เพราะเรามีมาตรการ ส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ที่ยกเว้นภาษีอยู่แล้ว ในกรณีต้องการที่จะดึงการลงทุนเข้ามา รวมถึงควรไปดูภาษีมรดกภาษี ที่ดินทรัพย์สิน ภาษีที่จะเก็บจัดการซื้อขาย หลักทรัพย์ ภาษีจากเงินปันผลอะไรต่าง ๆ ที่ยังสามารถที่จะปรับได้ รวมไปจนถึงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาว่า ขยายฐานภาษีอย่างไร จะคงอัตราก้าวหน้าไว้อย่างไร ถ้าไปค้นหาคำตอบจากโจทย์เหล่านี้ก่อนก็ไม่จำเป็นต้องไปถึงการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม อีกประเด็นที่ควรทำคือการแก้ไขกฎหมายวินัยการเงินการคลัง เพราะทำให้การมีภาษีที่กำหนดวัตถุประสงค์เฉพาะ ทำไม่ได้หรือทำได้ยาก ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นวิธีที่จะทำให้เกิดการยอมรับ ในการมีภาษีใหม่ ๆ ให้คนรู้ว่ามีภาษีเหล่านี้แล้วจะเอาไปทำอะไร ก็จะมีเสียงต่อต้านน้อยลง ถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการคะแนนนิยม ก็ไม่จำเป็นต้องคิดถึงแต่การเติมเงินเท่านั้น เพราะต้องเข้าใจว่าวิธีการนี้ใช้มาตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เพียงแต่รูปแบบอาจต่างกัน แต่ก็ยังไม่สามารถฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นมาได้ สุดท้ายเราวนกลับมาที่เดิม แต่ว่าภาระหนี้สินของภาครัฐก็เพิ่มขึ้น ตนมองว่า 2 ปีกว่าที่เหลือมันเพียงพอที่จะทำมาตรการบางอย่างที่เราพูดเชิงโครงสร้างได้ เช่น มาตรการที่เกี่ยวข้องกับปัญหากฎหมายกฎระเบียบทั้งหมด ให้เกิดความคล่องตัวในการทำมาค้าขาย ถ้าเกิดสามารถทำให้ เกิดการลงทุนและการจ้างงานมากขึ้น ผมว่ามันก็เป็นมาตรการที่ ที่น่าจะได้คะแนน จึงอยากให้พลิกกลับมาในเชิงมุมคิดตรงนี้เกี่ยวกับเศรษฐกิจตรงนี้มีโอกาสอยู่แล้ว ในการที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วก็ความนิยมทางการเมืองดีขึ้นด้วย แต่รัฐบาลติดกับดักอยู่กับเรื่องของ นโยบายหาเสียงพูดตรงๆ ก็คือคุณทักษิณโยนนโยบายมาให้ทำอยู่เรื่อย อยากให้มองประเทศจีนแล้วหารสอง เพราะเขาเน้นเรื่องเทคโนโลยี ภาคการผลิต จนไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจ ของเราไม่ต้องไปสุดทางอย่างเขาแต่หารสองทำเรื่องโครงสร้างและภาคการผลิตเพิ่มขึ้นบ้าง

“อีกปัญหาของรัฐบาลคือความไม่ไว้วางใจของประชาชน ไม่ว่ากำหนดนโยบายอะไร คนก็จะคิดถึงในอดีต เพราะหลายเรื่องมันคล้ายเดิม กลายเป็นข้อถกเถียงเรื่องผลประโยชน์ อย่างเช่น การเจรจาผลประโยชน์ทางทะเลกับกัมพูชา คนก็ห่วงว่าจะกระทบกับผลประโยชน์ของประเทศ แทนที่รัฐบาลจะชี้แจงเหตุผล แสดงจุดยืนให้ชัด กลับใช้วิธีการตอบโต้หรือปรามาสคนเห็นต่าง ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีอะไรกับรัฐบาล คนที่เขาห่วงใยบ้านเมืองไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล เพราะเห็นปัญหามาตั้งแต่อดีต เป็นคดีความไม่รู้กี่คดี ขณะที่ฝั่งรัฐบาลมองแต่ว่าคนจ้องล้ม จ้องเล่นงาน เหมือนเรายังไม่หลุดพ้นจากสภาพในอดีต จะหลุดพ้นได้ ก็ต้องบอกว่า แต่ละฝ่ายก็ต้องทำให้มันโปร่งใสคนที่หวาดระแวง ตั้งข้อสังเกตว่ามันจะมีผลเพื่ออะไร ก็ต้องมีข้อมูล หรือมีเหตุผลที่มันชัดเจนว่า มันสมควรหวาดระแวงเพราะอะไร รัฐบาลต้องโปร่งใสไง ว่า โครงการต่าง ๆ ที่หยิบยกขึ้นมา ไม่ว่าจะมาจากคุณทักษิณไม่ใช่คุณทักษิณก็แล้วแต่เนี่ย ทำไปแล้วเนี่ยมันไม่ได้มีผลประโยชน์แอบแฝง”

นายอภิสิทธิ์ มองว่า การเมืองในขณะนี้อยู่ในระยะดูเชิงกันไป ทั้งการขับเคลื่อนจากภาคประชาชนนอกสภาฯ และในสภาฯ ที่มีตัวแปรเพิ่มขึ้นจากสมาชิกวุฒิสภา ที่ถูกมองว่าอยู่ภายใต้กำกับของบางพรรคร่วมรัฐบาล แต่เราไม่เห็นว่ารัฐบาลที่อ้างตัวเองเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย จะใช้เวทีสภาฯ ให้เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหา ทำให้เขาเวทีและพื้นที่ให้การสร้างความชัดเจนหลายเรื่อง โดยกับระเบิดที่จะสร้างปัญหาทางการเมืองปีหน้า คือ ผลงานถ้าทำได้ดีมีโอกาสเข้าสู่สนามการเลือกตั้งครั้งหน้า แล้วก็จะทวงแชมป์คืนแต่ถ้ายังเดินหน้าเหมือนกับ เกือบ 2 ปีที่ผ่านมาก็น่ากังวลพอสมควร เรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเติมเชื้อไฟทางการเมืองเพิ่มขึ้น ต้องดูว่าเมื่อถึงเวลาเสนอกฎหมายจะมีความขัดแย้งอะไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ ความจริงรัฐบาลมีโอกาสอยู่ครบเทอม เพราะไม่มีพรรคไหนในรัฐบาลอยากเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะเวลาที่มีประเด็นอ่อนไหวในทางสังคม จนคนคิดว่าทนไม่ได้แล้วจะเกิดปัญหาเหมือนที่เราเห็นในรัฐบาลยิ่งลักษณ์​กับกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ซึ่งถ้าไม่ทำเรื่องนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อาจอยู่ครบเทอมก็ได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ขาดแรงสนับสนุนจากสังคมไปมาก เพราะเรื่อง สว.พ้นบทเฉพาะกาลแล้ว และการหยิบประเด็นแก้ไขตั้งต้นก็ไปพูดถึงมาตรฐานจริยธรรม ทำให้ประชาชนสงสัย แก้รัฐธรรมนูญเพื่อนักการเมือง โดยมองว่ากับดักของรัฐบาลที่รออยู่มีทั้งปม MOU44 เรื่องกาสิโน รวมถึงชั้น 14 ว่าจะมีการเอาผิดมากกว่าแค่ระดับเจ้าหน้าที่ที่เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณหรือไม่ รวมถึงประเด็นครอบงำพรรค ถ้ารัฐบายังสาละวนอยู่กับการบริหารแบบเดิม ๆ สุดท้ายปี 68 นอกจากเราไม่เห็นการเมืองและเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ และยังไม่เลิกหยิบประเด็นที่จะก่อให้เกิดปัญหาเนี่ย ก็จะทำให้บรรยากาศการเมืองคุกรุ่นแบบนี้ การจะกลับมาของนางสาวยิ่งลักษณ์​ชินวัตร ก็เป็นอีกปัจจัยที่ผู้คนจับตาว่าจะมาในรูปแบบใด เสมอภาคกับคนอื่นหรือไม่ ถ้าไม่ก็จะเติมเชื้อไฟใส่ปมชั้น 14 อีก เพราะตอนนี้คนรู้สึกกันมากว่า อำนาจตุลาการมีความศักดิ์สิทธิ์ไหม เพราะในที่สุดฝ่ายบริหารสามารถใช้มาตรการ หลายรูปแบบสารพัด ทำให้มันไม่เป็นไปตามเจตนาในการตัดสินของฝ่ายตุลาการ โดยเฉพาะเรื่องโทษ ผมเชื่อว่าประเด็นนี้จะลุกลามขยายตัวไปเรื่อย ถ้ามันมี มาตรการหรือมีกรณี เพิ่มเติมเข้ามาอีก เราก็ไม่อยากเห็นรัฐบาลต้องตระหนักอย่าให้ซ้ำรอยเดิม จนย้อนกลับไปสู่ภาวะวิกฤต เผชิญหน้ากัน แล้วก็ขัดแย้งกันรุนแรงอีก รัฐบาลต้องเลิกปรามาสคนเห็นต่างและควรใช้วิธีการชี้แจงมากกว่าการตอบโต้

”การบริหารประเทศกว่าสามเดือนของ นายกฯ แพทองธาร อยากจะให้ ย้อนกลับไปดูว่า ก่อนหน้านี้ปัญหาเกิดจากอะไร นะครับ แล้วก็หลีกเลี่ยงอย่าไปทำให้มันเกิดซ้ำรอยขึ้นอีก เพราะไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับใคร ในฐานะนายกฯ รุ่นพี่คงไม่มีคำแนะนำอะไรให้ เพราะ
นายกฯ ปัจจุบันมีความมั่นใจในตัวเองพอสมควร แต่ที่สำคัญคือ คนเป็นนายกรัฐมนตรีเนี่ย หนีไม่พ้นการต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ขนาดคนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองประสบการณ์ในระบบ ราชการทำงานภาครัฐ หรือแม้กระทั่ง นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเข้ามาก็ต้องเรียนรู้ การแก้ปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนเกี่ยวกับคนจำนวนมาก นอกจากเรียนรู้ตลอดเวลาแล้ว ต้องมีเจตจำนงที่สุจริตด้วย ถ้าไม่เรียนรู้ หรือมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องจะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก

เมื่อถามว่า ที่ให้คำแนะนำว่าต้องเรียนรู้ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เห็นสิ่งเหล่านั้นในตัวนายกฯ บ้างหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะต้องรอดูว่ามีสัญญาณตระหนักถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์มากน้อยแค่ไหน มีการตอบสนองอย่างไร หรือไม่ อย่างไรก็ตามไม่ขอให้คะแนนการทำงานของรัฐบาลเกือบสองปีที่ผ่านมา เพราะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากถ้าให้คะแนนต้องมีการบ้านมาส่ง แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นผลงานอะไร สิ่งที่คาดหวังไว้ก็ไม่ได้ตามที่คิด ส่วนฉายาที่สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลตั้งว่า “รัฐบาลพ่อเลี้ยง” ก็มีความชัดเจนว่า มีที่มาที่ไป ไม่ใช่ว่าปั้นขึ้นมาแบบลอย ซึ่งก็ต้องดูว่า “พ่อเลี้ยงยังไง” ซึ่งเท่าที่เห็นก็ดูเหมือนไม่ปล่อยให้ลูกโตด้วยตัวเอง การเลี้ยงแบบนี้อันตรายสำหรับลูก ส่วนจะถึงขั้นพ่อแม่รังแกฉันหรือไม่ ไม่ขอวิจารณ์เรื่องครอบครัว

“ผมอยากจะย้ำว่า เมื่อมาดำรงตำแหน่งแล้ว ก็ต้องเป็นตัวของตัวเอง รายการที่จะทำงาน เพราะในที่สุดบรรทัดสุดท้ายเนี่ย ความรับผิดชอบจะอยู่ที่เรา มันก็จะไม่ต่างกับบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายซึ่งขณะนี้กำลังถูกสอบแหละ ไม่ว่าคุณไปเชื่อใคร ต้องไปยอมใคร หรือไปกลัวใคร แต่ในที่สุดคนเหล่านั้นไม่ต้องรับผิดชอบ มีแต่คุณที่ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง”

อดีตนายกฯ ยังยืนยันอีกครั้งว่า ไม่เคยปิดประตูตายสำหรับถนนการเมือง แต่ก็ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือที่จะต้องเข้าไปสู่เส้นทางการเมือง เพราะงานการเมืองของตนคืองานระบบ ตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อเงื่อนไขไม่อำนวยให้เราสามารถทำได้ เราก็ต้องยอมรับ ที่ต้องพูดอย่างนี้เพราะว่า ขนาดเมื่อคืนก็เจอ ประชาชนก็มายืนต่อว่าตนว่า เอ๊ะ คุณหนีไปไหน คุณกลัวอะไร บอกว่าไม่ใช่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องกลัว แต่ว่าเราทำงานแบบอยู่ในระบบ เราก็คิดว่าปัจจุบันเนี่ย ระบบมันไม่ได้เอื้อให้เราสามารถเข้าไปทำงานได้ เราก็ต้องถอยออกมา แต่ว่า ถ้ามันมีโอกาสมีจังหวะ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนไม่เคยปิดประตูตายแล้วก็ไม่เคยบอกว่าจะกลับเข้าไป ขึ้นอยู่กับโอกาส จังหวะ และรวมถึงว่า เวลาที่ใช่สำหรับประชาชนหรือไม่ คือ ต้องรู้สึกว่าเข้าไปแล้วทำประโยชน์ได้จริง

#Social #ThePublisher originals รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ รัฐบาลแพทองธาร สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม เพื่อไทย
Writer Publisher

Related Posts

เปิดโปงใต้พรมอุตสาหกรรมไทย: “ชุดตรวจการสุดซอย” ทลายขบวนการโกงชาติ ชี้มูลค่าความเสียหายปีละ 2.8 หมื่นล้าน! :  ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันท์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

By Writer Publisher11/07/2025

“อำนาจทั้งหมดอยู่ในมือภูมิธรรม อยู่ที่ว่าจะทำหรือเปล่า” รสนาเปิดทุกประเด็นค่าไฟ–พลังงานหมุนเวียน–Net Metering

By Writer Publisher09/07/2025

‘ชณทัตลุยครับ’: คนเล็กแต่ใจใหญ่ ภารกิจกู้วิกฤติคอนโดจตุจักรหลังแผ่นดินไหว แก้ปัญหาไม่มีลิฟต์ เดินขึ้นลง 21 ชั้น ช่วยลูกบ้าน 2,000 ชีวิตให้นอนหลับ

By Writer Publisher09/06/2025

พูดแล้วเงียบ สองปีผ่านไป โซลาร์ฟรียังไม่มี…มอไซค์ฯ ถูกยังไม่เห็น เห็นแต่โปสเตอร์พรรคภูมิใจไทย…ที่ยังไม่ทำ

By Writer Publisher08/06/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

เอาแล้ว ! อนุ กกต.คดีฮั้ว สว. ชงฟ้อง 138 สว.-บิ๊ก ภท.กราวรูด จับตาส่อถูกยุบพรรค

17/07/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo