.
นายสุเวช จอมพงศ์ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีปราบปรามทุจริต 1 เปิดเผยว่า วันนี้อัยการนำเอกสารสำนวนทั้งหมด 20 แผ่น พร้อมผู้ต้องหา 8 คนมาฟ้องต่อศาลอาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีเปลี่ยนเเปลงความเร็วจนเป็นเหตุ กลับคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส” ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 โดยผู้ต้องหาเดินทางมาศาลฯ ครบทุกคน ซึ่งศาลฯ ได้ประทับรับฟ้อง พิมพ์ประวัติเรียบร้อยแล้ว ในชั้นของพนักงานอัยการ เชื่อว่าสามารถเอาผิดผู้กระทำความผิดได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลฯ โดยศาลฯ นัดสอบคำให้การในวันที่ 10 ก.ย.นี้ เวลา 9.00 น.
.
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คนนี้ จะถูกดำเนินคดีในข้อหาแตกต่างกัน โดยมีการแบ่งเป็นประเด็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ อีกส่วนคือการดำเนินคดีกับอดีตรองอัยการสูงสุด เรื่องการสั่งคดี และผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเป็นพยานของคดีนี้
.
.
ด้านพลตำรวจเออกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. จำเลยที่ 1 ในคดีนี้ เปิดเผยว่า ศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ส่วนหลังจากนี้จะให้เป็นหน้าที่ของทนายความในการต่อสู้คดีต่อไป พร้อมยอมรับว่ากังวลและไม่สบายใจที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้ แต่พร้อมต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง
.
ส่วนนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม หรือ ‘อดีตอัยการ ช.’ อดีตอัยการอาวุโส เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตนเองมาเพื่อพิสูจน์ตนเองในชั้นศาลว่าตนเองบริสุทธิ์ เพราะว่าศาลคือที่พึ่งสุดท้ายของตนในฐานะประชาชนคนหนึ่ง” เมื่อถูกถามกรณีว่าตนเองมีส่วนช่วยเหลือ ‘บอส อยู่วิทยา’ นั้น นายชัยณรงค์ ได้ยืนยันกับสื่อมวลชนทุกสำนักว่า คดีของบอส ตนทำตามด้วยความสุจริต และตามสิทธิของตนเอง พร้อมย้อนถามกับสื่อว่า ทำไมตนเองจะทำไม่ได้ เพราะ ‘บอส อยู่วิทยา’ เป็น ‘เพื่อน’ หลานสาวของตนเอง มีกฎหมายข้อไหนระบุว่าห้ามช่วยเพื่อนพ้อง ช่วยหลานตนเอง ตนเองได้ตรวจสอบกฎหมายทุกอย่างแล้วว่าทำได้ เพราะที่เกิดเหตุใน สน.ทองหล่อ เป็นเขตพื้นที่ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งตนไม่ได้เป็นอัยการอยู่ สามารถทำได้ พร้อมย้อนถามกลับสังคมกลับ ว่า ‘มีเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ จะไม่ช่วยก็ไม่ได้
.
“ผมทำตามในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีเพื่อน มีฝูง เขา(บอส อยู่วิทยา) ก็เป็นเพื่อนหลานสาวผม เพื่อนมาขอเพื่อนช่วย เราก็ต้องช่วย เงินซักบาทก็ไม่ได้ สิ่งตอบแทนที่ได้มาจากการช่วยคือน้ำใจเท่านั้น ผิดตรงไหนก็ไปอ่านกฎหมายดู”
.
นอกจากนี้นายชัยณรงค์ ยังพาดพิงไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ตั้งนายวิชา มหาคุณ มาดำเนินจัดการคดีของนายบอส อยู่วิทยา จนตนเองโดนเอี่ยวไปด้วย ทั้งที่ข้อกล่าวหาว่าร่วมกันเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของนายบอสนั้น ’ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น’ เพราะการที่มีการร่วมกันนำพยานมาโต้แย้งในชั้นสอบสวนหรือชั้นศาล ‘เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ไม่ใช่ความผิดทางอาญา’ รวมทั้งการที่ พ.ต.อ. ธนสิทธิ แตงจั่น ได้มีการถอดเทปเสียงในคลิปเสียงที่เป็นหลักฐานในการยื่นฟ้องตนเองและพรรคพวกรวม 8 คน เป็นการพยายามสร้างหลักฐานเท็จเพื่อมาเอาผิดตน หลังจากนี้ตนเองจะดำเนินคดีฟ้อง พ.ต.อ.ธนสิทธิ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐานการทำพยานหลักฐานเท็จ ปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม