ช้างป่า… สัตว์คู่แผ่นดินไทย ที่บ่อยครั้งต้องเผชิญกับภัยอันตรายจากน้ำมือมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการล่า หรือบ่วงแร้ว ที่พรากอิสรภาพ ทำลายชีวิตจนกลายเป็นสัตว์พิการ
วันนี้ The Publisher จะพาไปติดตามเรื่องราวของช้างป่า 2 เชือก “พลายขุนเดช” และ “พังฟ้าแจ่ม” ที่ต่างมีจุดเริ่มต้นชีวิตคล้ายกัน คือได้รับบาดเจ็บจากบ่วงแร้ว แต่กลับมีเส้นทางชีวิต และการรักษาที่แตกต่างกัน
พลายขุนเดช: ลูกช้างป่าผู้โชคร้าย ถูกบ่วงแร้วรัดขาหน้าซ้ายจนพิการ ต้องต่อสู้กับความเจ็บปวด และอุปสรรคในการรักษามายาวนานกว่า 10 ปี ที่ปาง ENP แต่อาการบาดเจ็บเรื้อรังไม่หายขาดและมีบาดแผลซ้ำในที่เดิม ส่งผลให้เกิดความผิดปกติในการใช้ชีวิต กระดูกสันหลังผิดรูป ขาซ้ายหน้ายาวกว่าขาขวา แสงเดือน ชัยเลิศ เจ้าของปาง ENP เคยให้ข้อมูลว่า มีขาเทียมเสริมเกราะชั้นดีจากอเมริกา ทว่าการดูแลรักษากลับไม่ได้ผล มีการให้ข้อมูลว่า พลายขุนเดช มีพฤติกรรมดุร้าย ซึ่งอาจเกิดจากการไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนและช้าง ถูกเลี้ยงอย่างโดดเดี่ยวในคอก รวมถึงอยู่ในช่วงวัยผสมพันธุ์ อีกทั้งผู้ดูแลให้อาหารแต่ไม่สามารถสื่อสารกับ “พลายขุนเดช” ได้ดี โดยการทดสอบพบการสื่อสารได้คะแนน 5 จาก 10 ทั้งที่การดูแลเพื่อรักษาต้องสื่อสารระหว่างคนดูแลกับช้าง 7-8 จาก 10
ขณะที่พังฟ้าแจ่ม เป็นลูกช้างป่าที่ได้รับโอกาสการรักษาที่ดีกว่า แม้จะขาเจ็บจากบ่วงพราน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน เริ่มจากการดูแลโดสวนนงนุชพัทยา ก่อนจะส่งตัวไปที่สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ จ.ลำปาง มีการดูแลรักษาบาดแผล ทำกายภาพบำบัด ธาราบำบัด ใส่รองเท้าเทียม ทำให้เธอได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จนกลับมาเดินได้อีกครั้ง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี (สรุปข้อมูลจากเพจ The Echo)
เส้นทางชีวิต “พลายขุนเดช” ย้อนกลับไม่ได้ แต่ชะตากรรมต่อจากนี้เลือกได้ การเคลื่อนย้าย “พลายขุนเดช” ไปยังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง แม้ทำด้วยความยากลำบาก เนื่องจากโครงสร้างขาและกระดูกสันหลังผิดรูป แต่ผู้เกี่ยวข้องมุ่งมั่นที่จะพาน้องไปรักษา ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้จะไม่ใช่เรื่องง่าย โดยกำหนดเดินทางวันพรุ่งนี้(4 พ.ย.67)