• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»News»ตกตึกตายที่ “ปอยเปต” ไม่ใช่ศพแรกและศพสุดท้าย คอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก เหตุจนท.ไทยเอี่ยวทุจริต
News

ตกตึกตายที่ “ปอยเปต” ไม่ใช่ศพแรกและศพสุดท้าย คอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก เหตุจนท.ไทยเอี่ยวทุจริต

10/01/20251 Min Read
Facebook Twitter

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้ข้อมูลกับ The Publisher ถึงตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีศูนย์บัญชาการอยู่ในประเทษเพื่อนบ้าน ปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมดมีสาเหตุมาจากเจ้าหน้าที่รัฐของไทยเข้าไปอำนวยความสะดวก มีขบวนการทุจริตปล่อยบัญชีม้าข้ามแดนไปยังปอยเปต ซึ่งจากข้อมูลของสายลับที่ส่งลงพื้นที่พบว่า มีการใช้เส้นทางธรรมชาติเก็บค่าหัวคิวนำขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่ทำบัญชีม้า เปิดซิมการ์ด เปิดธนาคาร บัญชีนิติบุคคล รวมถึงแสกนหน้าที่อาคาร 18 ชั้น และ 25 ชั้น จึงต้องการให้คณะกรรมมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาฯ ตรวจสอบ โดยได้ยื่นหนังสือถึงนายรังสิมันต์ โรม ปธ.กมธ.ฯ ไปแล้วเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.68)

“หากไม่มีการทุจริตบริเวณชายแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็คงไม่ระบาดหนักเท่านี้ เราเสนอให้มีการแก้ปัญหาจุดช่องทางธรรมชาติเหล่านี้ แม้จะเป็นที่เอกชนแต่เป็นเขตพื้นที่ทหารพรานติดกล้องวงจรปิดได้หรือไม่ เพราะจะสามารถตรวจสอบได้ว่าใครออกทางช่องทางธรรมชาติบ้าง ต้องสกัดไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้บัญชีม้าได้ ถ้าไม่มีบัญชีท้าการหลอกลวงคนจะลดลงไปเองโดยธรรมชาติ ส่วนอีกจุดคือช่องจอมจังหวัดสุรินทร์ ก็มีการกินหัวคิวผ่านช่องทางธรรมชาติด้วยเช่นเดียวกัน เป็นจุดที่เราสำรวจมาแล้วจึงให้ กมธ.ตรวจสอบ ที่ไม่ยื่นให้ตำรวจหรือรัฐบาลเพราะคิดว่าไม่เกิดประโยชน์ เพราะอาจไม่สนใจข้อมูลของเรา จึงหวัดงว่ากมธ.ฯ จะตรวจสอบเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง”

นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในแต่ละวันมีการใช้ช่องทางธรรมชาติผ่านไปยังปอยเปตวันละเป็นพันคน หากเก็บหัวละสามพันไปกลับก็จะเท่ากับ 3 ล้านบาทต่อวัน 90 ล้านต่อเดือน และมากกว่าพันล้านต่อปี เป็นเม็ดเงินที่มหาศาลมาก โดยพื้นที่บริเวณปอยเปตทั้งอาคาร 18 ชั้นและ 25 ชั้น เป็นศูนย์คอลเซ็นเตอร์ที่มีคนต่างชาติคอยบัญชาการ ส่วนบัญชีท้ามีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ส่วนใหญ่ไปโดยสมัครใจไม่ใช่ถูกหลอกไปทำงานอย่างที่มีการกล่าวอ้าง แต่รู้อยู่แล้วว่าเขาให้ไปทำอะไร

“กรณีหนุ่มเมืองกาญจน์ที่ตกตึกตายเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าเป็นความพยายามหลบหนีไม่ใช่ศพแรกและไม่ใช่ศพสุดท้าย มีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งแต่ปกปิดข่าว เพียงแต่ตอนนี้มันปิดยาก เพราะโซเชียลมีเดียไปไว ลักษณะตึกที่นั่นจะติดเหล็กดัดหมด ถ้าจะหนีก็ต้องโดดตึกอย่างเดียว เนื่องจากจะถูกควบคุมพื้นที่กินนอนอยู่ในนั้น มีเป้าต้องหลอกให้ได้วันละกี่ราย จึงจะได้เปอร์เซ็นต์และเงินเดือน แต่พอถูกจับหรืออายัดบัญชีก็จะส่งกลับเพราะหมดประโยชน์แล้ว”

นอกจากนี้ยังขอให้กมธ.ฯ ตรวจสอบคดีปี 2565 ที่พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ยศในขณะนั้น) และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ในขณะนั้น ได้มีการจับกุมกระบวนการคอลเซ็นเตอร์และการฟอกเงินของกลุ่มชาวจีน โดยได้มีการยึดอายัดทรัพย์ โดยตำรวจไซเบอร์จำนวน 700 ล้านบาท ทั้งสองกรณีนั้นมีความเกี่ยวข้องกับผับแห่งหนึ่ง และทราบภายหลังว่า เป็นชาวจีนที่สวมบัตรประชาชนไทย แต่กลับมีการปล่อยตัวไปโดยไม่มีความผิด รวมทั้งทรัพย์สินเงินสดมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท และรถของกลางทั้งหมดก็ได้คืน ไม่ได้มีการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาอย่างใดแม้แต่รายเดียว เกิดคำถามว่าเรื่องนี้ส่อทุจริตหรือไม่ จึงนำมายื่นต่อคณะกรรมาธิการให้ตรวจสอบ เพราะการที่แถลงใหญ่โตว่ามีการจับกุมกว่า 700 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีแม้แต่รายเดียว

“ถามว่าข่าวที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมกันแถลงใหญ่โตในช่วงเวลานั้น แต่กลายเป็นว่าไม่มีผู้ต้องหาทำผิดแม้แต่คนเดียวแถมยังคืนทรัพย์สิน 500-700 ล้านบาทไปด้วย มีกี่เคสที่จับแถลงแล้วปล่อยอายัด ไม่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา แบบนี้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากส่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นเจ้าของพื้นที่ ใช้อำนาจอะไรในการคืน แล้วไซเบอร์ทำไมจึงอนุมัติตามที่มีการร้องขอ จะให้เชื่อได้อย่างไรว่าไม่มีผลประโยชน์ ผมหวังว่า กมธ.ฯ จะสอบให้ได้ข้อมูลว่าการถอนอายัดเกิดได้อย่างไร คืนทรัพย์สินกันแบบไหน ทำไมจึงไม่มีการดำเนินคดี ตรวจสอบอย่างไรถึงไม่ผิด ถ้าไม่เคลียร์ต้องดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง จะได้รู้ว่าที่แถลงกันไปใหญ่โตเป็นแค่ปาหี่ระดับประเทศ”

#Social #ThePublisher ค้ามนุษย์ ทักษิณ ปอยเปต รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ รัฐบาลแพทองธาร สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม แก๊งคอลเซ็นเตอร์
Writer Publisher

Related Posts

พรรคประชาชนออกแถลงการณ์ ผ่าทางตันวิกฤตการเมือง เปิดเงื่อนไขหนุนนายกฯ คนใหม่

By Writer Publisher29/08/2025

เริ่มแล้ว ! ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียง “อุ๊งอิ๊งค์” ลุ้นอยู่ที่ทำเนียบฯ

By Writer Publisher29/08/2025

อันตรายความมั่นคง? ดิเรกฤทธิ์ชี้ “คลิปอังเคิล” มีเรื่องลับทางทหาร

By Writer Publisher25/08/2025

สิงคโปร์ “เอาจริง” ปรับ 5 หมื่นบาท สูบบุหรี่ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ

By Writer Publisher19/08/2025

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo