- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Author: Writer Publisher
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนียน (PUMCH) ได้พัฒนาระบบคัดกรองมะเร็งเต้านมที่ใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพความร้อนอินฟราเรด (AI-IRT) โดยการเชื่อมกล้องอินฟราเรดกับสมาร์ตโฟนเพื่อถ่ายภาพความร้อนบริเวณเต้านมและอัปโหลดภาพไปยังแอปพลิเคชันสมาร์ตโฟน หลังจากนั้นระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะประมวลผลเพื่อประเมินระดับความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม ระบบนี้ได้รับการออกแบบให้สะดวก ใช้งานง่าย และมีราคาย่อมเยา โดยมีข้อดีคือไม่รุกล้ำร่างกาย ไม่ต้องใช้รังสี และสามารถคัดกรองได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยลดปัญหาการตรวจเต้านมด้วยตนเองที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สม่ำเสมอในผู้หญิงจำนวนมาก ระบบดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น โดยสามารถใช้ได้ทั้งที่บ้านและในศูนย์สุขภาพชุมชนในอนาคต ซึ่งไม่ต้องรอการนัดหมายที่โรงพยาบาล
ผิวจะเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเมื่ออายุประมาณ 40 ปี โดยการผลิตคอลลาเจนจะลดลง ซึ่งทำให้เกิดสัญญาณริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ เช่น ริ้วรอยที่หน้าผาก ระหว่างคิ้ว และรอยตีนกา การเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน ความเครียด และวิถีชีวิต ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เริ่มดูแลผิวตั้งแต่อายุ 30 ปี เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงในอนาคต และควรปรับกิจวัตรการดูแลผิวให้เหมาะสมกับช่วงวัย รวมถึงลดการยึดติดกับวิธีการเดิมๆ เมื่อผิวเริ่มเปลี่ยนแปลง 5 วิธีในการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี ได้แก่: ให้ความชุ่มชื้น: ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีเพื่อป้องกันผิวแห้งและลดริ้วรอย เลือกผลิตภัณฑ์ที่เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเปปไทด์ วิตามินซี และเซอราไมด์ เพิ่มเรตินอล: เรตินอลช่วยต่อต้านริ้วรอยและปัญหาผิวอื่นๆ เช่น จุดด่างดำและโทนสีผิวไม่สม่ำเสมอ ทาครีมกันแดด: การปกป้องผิวจากแสงแดดทุกวันช่วยลดริ้วรอยและปัญหาผิวจากการโดนแสงแดด น้อยแต่มาก: รักษาความเรียบง่ายในการดูแลผิว ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและมีแผนการที่ชัดเจน ใช้อุปกรณ์ความงาม: เทคโนโลยีความงาม เช่น หน้ากากแสงสีแดงและไมโครเคอร์เรนต์สามารถช่วยยกกระชับผิวและให้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่อใช้ที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ การดูแลผิวให้ดูดีในระยะยาวต้องมีความสม่ำเสมอและการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของผิวในแต่ละช่วงอายุ
‘นันทิวัฒน์ สามารถ’ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “Nantiwat Samart” ตั้งคำถามไปยังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย หาเสียง แล้วประกาศว่าจะ “ลดค่าไฟ” ให้เหลือหน่วยละ 3.70 บาท จนกลายเป็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทุกภาคส่วน โดยนายนันทิวัฒน์ โพสต์ข้อความระบุว่า “ต้องถามว่า คุณพูดในฐานะอะไร เป็นนายก หัวหน้าพรรค หรือเป็นอะไร คุณสั่งรัฐบาลได้ ? หรือสั่งใครได้ สั่งกระทรวงพลังงาน หรือสั่ง กกพ.ได้ ตกลงคุณเป็นใครกันแน่” ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “วรงค์ เดชกิจวิกรม – Warong Dechgitvigrom” ถึงประเด็นนายทักษิณประกาศ แนวทางการทุบค่าไฟให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ระบุข้อความว่า “ประเด็นที่น่าสนใจ ที่นายทักษิณประกาศ แนวทางการทุบค่าไฟให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งนายทักษิณ กล่าวว่า ตนเองไปดูมาแล้ว มันสามารถรีดไขมันจากค่าไฟได้อยู่ จำนวนหนึ่ง” “ผมสนับสนุนนะ อะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์ ผมคิดว่าถ้าคุณรีดไขมันได้ ไม่เห็นจะต้องรออะไร ตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เงินหมื่นที่แจกไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าวของแพง เศรษฐกิจแย่ คุณก็น่าประกาศ 1 ก.พ. นี้ไปเลยว่า ค่าไฟฟ้าจะเหลือหน่วยละ 3.70 บาท” “ที่สำคัญคุณอย่าลด เหมือนลดราคาน้ำมันสมัยยิ่งลักษณ์นะ ประกาศลดลิตรละ 6-7 บาท แต่ลดแค่สามเดือน เอาเงินภาษีไปอุ้ม หลังจากนั้นราคาน้ำมันก็กลับมาปกติ ขอย้ำนะครับเรื่องลดไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาท ถ้าคุณไม่ได้โม้ โฆษณาชวนเชื่อ ให้คุณรีบทำ รีบลดราคาเลย แต่ต้องลดตลอดไป และห้ามเอาภาษีมาอุ้ม ให้รีดไขมันอย่างที่คุณพูด ถ้าคุณลดไม่กี่เดือน ด้วยการเอาภาษีมาอุ้มหรือให้ กฟผ.เป็นหนี้ไปก่อน แบบนี้ใครก็ทำได้”. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ค่าไฟ #ค่าไฟแพง #ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
ลูกศิษย์ร่วมอาลัย หลัง “หลวงปู่มี ฐิตสาโร” หรือ พระราชมงคลวัชรินทร์ อดีตเจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์วัดโพนทอง จังหวัดสุรินทร์ มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 02.30 น. ของคืนที่ผ่านมา หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาบเชิง ด้วยอาการป่วยหอบเหนื่อย หมดแรง อ่อนเพลีย และโรคความดัน รวมทั้งปัสสาวะไม่ออก รักษาอาการอาพาธมาร่วม 3 อาทิตย์ แม้ทีมแพทย์พยาบาลจะพยายามรักษาและยื้อชีวิตหลวงปู่มีอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม หลวงปู่มี มรณภาพลงอย่างสงบ สิริอายุ 113 ปี 37 พรรษา เป็นพระสงฆ์ที่มีอายุมากที่สุดในภาคอีสาน มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่เคยเสื่อมเสีย วัตถุมงคลของหลวงปู่มี มีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดปลอดภัย ประวัติ หลวงปู่มี เกิดวันที่ 1 เม.ย. 2455 ที่หมู่บ้านโพนทอง ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บวชสามเณรแล้วศึกษานักธรรมตรีจนจบ เดินธุดงค์ไปตามชายแดนในสถานที่ต่างๆ เพื่อเรียนวิชากับครูบาอาจารย์ใน จ.สุรินทร์ หลายรูป ลำดับศักดิ์ หลวงปู่มี ฐิตสาโร เจ้าอาวาสวัดโพนทอง ได้รับโปรดเกล้าจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระราชโองการโปลดเกล้าพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ชั้นราช ในราชทินนาม “พระราชมงคลวัชรินทร์ สุจิณธรรมวิจิตร มหาคนิสสร บวรสังฆา รามคามวาสี” เมื่อปีที่แล้ว ในช่วงที่ท่านอายุได้ 111 ปี โดยพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ จะจัดขึ้นในวันนี้ (6 ม.ค.68) เวลา 16.30 น. และพิธีพระราชทานเพลิงศพจะจัดขึ้นในวันที่ 12 ม.ค.68 ต่อไป. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #หลวงปู่มีฐิตสาโร ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
สื่อต่างประเทศรายงานว่า เจมส์ ลี วิลเลียมส์ นักแสดง แดร็กควีน ที่ใช้ชื่อในวงการว่า “ดิ วิเวียน” ผู้ชนะรายการ “RuPaul’s Drag Race UK” ซีซั่น 1 ได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 32 ปี โดยสาเหตุของการเสียชีวิตไม่ได้รับการเปิดเผย ข่าวการเสียชีวิตได้รับการยืนยันผ่านโพสต์บนอินสตาแกรมของ ไซมอน โจนส์ ผู้จัดการของ ดิ วิเวียน โดยระบุว่า “ด้วยความเศร้าใจอย่างยิ่ง เราขอแจ้งให้คุณทราบว่าเจมส์ ลี วิลเลียมส์ หรือ ดิ วิเวียน ได้เสียชีวิตในสุดสัปดาห์นี้ เจมส์เป็นบุคคลที่มีความรักจากทุกคนอย่างล้นหลาม เป็นคนที่อบอุ่นและน่าทึ่ง” ทางครอบครัวของเขารู้สึกเศร้าเสียใจอย่างยิ่งกับการสูญเสียลูกชาย พี่ชาย และอา พวกเขาภูมิใจในสิ่งที่เจมส์ได้ทำสำเร็จทั้งในชีวิตและอาชีพ ดิ วิเวียน ชนะการแข่งขันในซีซั่นแรกของ “RuPaul’s Drag Race UK” ในปี 2019 และยังได้เข้าร่วมการแข่งขันใน “RuPaul’s Drag Race All Stars” ซีซั่น 7 ในปี 2022 อีกด้วย The Publisher ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่ง
จากกรณีสื่อยักษ์ใหญ่ของประเทศอังกฤษได้รายงานถึงข่าวไวรัส “HMPV” กำลังระบาดหนักในกลุ่มเด็กทางตอนเหนือของประเทศจีน ส่งผลให้คนป่วยแน่นโรงพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนได้ออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อเฝ้าจับตาและจัดการการระบาดอย่างใกล้ชิด ซึ่งการระบาดของไวรัสชนิดนี้ลามมาถึงฮ่องกงแล้ว เป็นผลให้ไต้หวันและกัมพูชาเฝ้าจับตาการเคลื่อนไหว ส่วนองค์การอนามัยโลก WHO ยังไม่ประกาศเป็นวิกฤตฉุกเฉินระดับโลกแต่มอนิเตอร์สถานการณ์ใกล้ชิดหลัง 5 ปีเกิดวิกฤตโควิด-19ที่เริ่มต้นมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก WHO ได้เรียกร้องให้ปักกิ่งให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลเพื่อให้สามารถเข้าใจถึงจุดเริ่มต้นของโรคโควิด-19 ซึ่งทางประเทศจีนก็ออกมาโต้กลับว่าได้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่และผลการวิจัยแก่องค์การอนามัยโลกไปหมดแล้ว สำหรับ ไวรัส “HMPV” (human meta-pneumovirus) หรือ โรคติดเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส ไม่ใช่ไวรัสเกิดใหม่ เป็นไวรัสที่มีมานานแล้วแต่เพิ่งจะมาพบในปี ค.ศ. 2000 โดยทีมนักไวรัสวิทยาที่ Erasmus University เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเชื้อที่ระบาดหนักในช่วงหน้าหนาว อาการของไวรัสนี้ไม่แตกต่างกับไวรัสตัวอื่น ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจพบได้ ตั้งแต่ไม่มีอาการ อาการน้อย จนถึงอาการมากลงปอด พบได้ทุกอายุ แต่พบส่วนมากในเด็ก ผู้สูงอายุและในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ และก่อนหน้านี้ไม่มีวิธีการตรวจ นอกจากใช้ทางชีวโมเลกุล ปัจจุบันการตรวจง่ายมาก ใช้วิธีการเช่นเดียวกับ ATK ของโควิด-19 ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนรักษา ซึ่งการป้องกันตนเองเบื้องต้นที่ดีที่สุดคือการดูแลเรื่องของสุขอนามัย สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสรวมถึงป้องกันการแพร่กระจายไปสู่คนอื่น.ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : Yong Poovorawan , Around the World ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไวรัสระบาด #HMPV #โควิด19 ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา ติดตามปัญหาทางเท้า โดยนายชัชชาติมองว่าปัญหาพื้นที่บริเวณนี้ไม่ใช่ทางเท้าไม่ดี แต่เป็นเรื่องกิจกรรมบนทางเท้า ซึ่ง 95% เป็นชาวต่างชาติที่เดินสัญจร เพราะแถวนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนปัญหาที่เจอมากที่สุดของทางเท้าสุขุมวิท คือ ขอทาน โดยเฉพาะ “ขอทานเด็ก” ซึ่งถือเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ที่ยอมรับไม่ได้ ต่อมาเป็นเรื่องของ “คนไร้บ้าน” ที่นอนกระจัดกระจายตามพื้นถนน ม้านั่ง รวมไปถึงการตั้งแผงขายของผิดกฎหมาย เช่น บุหรี่ไฟฟ้า เซ็กส์ทอย ในส่วนของการค้าขายกีดขวางทางเท้า บางจุดก็ผ่อนผันอะลุ่มอล่วยให้พอขายได้บ้าง เพราะเป็นย่านการค้า แต่หากเป็นผู้ค้าชาวต่างด้าวผิดกฎหมายก็ต้องจัดการ สุดท้าย คือ ปัญหาจากการรถที่มาจอดเรียกแขกขายทริปขายทัวร์ ซึ่งโดยรวมก็ดีขึ้น เทศกิจ ตำรวจ ช่วยกวดขันคุมเข้ม โดยนายชัชชาติกล่าวต่อว่า “ในเรื่องขอทาน เทศกิจได้รายงานว่า เมื่อขอทานเห็นเจ้าหน้าที่จะรีบวิ่งหนีไปทันที แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปก็จะกลับมาอีก แต่จะให้เทศกิจไปจับกุมก็ไม่ได้ โดยเฉพาะขอทานเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและน่าสงสาร และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เด็กเหล่านี้โดนพาตัวมาจากไหน ด้านกทม. เองรับไม่ได้เรื่องขอทานเด็ก และขอร้องให้ทุกคนอย่าไปส่งเสริม เรื่องการจัดการคงต้องร่วมกับหลายหน่วยงาน ทั้ง ตำรวจ พม. ต้องมาช่วยกัน กทม. เองก็จะดำเนินการเท่าที่ขอบข่ายอำนาจจะมี และต้องทำให้ถูกทั้งตามกฎหมาย และมนุษยธรรม” นายชัชชาติ กล่าว. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ขอทาน #ขอทานเด็ก #กทม ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669’ ถึงประเด็นได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับอาสาสมัครชุดแดงตัดหน้ารับผู้ป่วยฉุกเฉินและนำส่งผิดโรงพยาบาล ทำให้เสียเวลารักษาหัวใจประมาณ 2 ชั่วโมง ระบุ “สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้รับการร้องเรียนจากญาติผู้ป่วยฉุกเฉินรายหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2567 โทรแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินผ่าน 1669 ซึ่งมีการประเมินอาการ ว่าเป็นเคสที่ต้องใช้รถพยาบาลขั้นสูงเข้าไปดูแล” “แต่กลับมีอาสาสมัครแห่งหนึ่ง ใส่ชุดสีแดง เข้าไปประเมินอาการ และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาล ในขณะที่ญาติแจ้งว่าผู้ป่วยมีสิทธิการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลย่านอนุเสารีย์ชัยฯ โดยได้แจ้งความประสงค์ขอให้ส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อใช้สิทธิรักษาตามโครงการ UCEP ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่ แต่อาสาสมัครดังกล่าวกลับนำตัวผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลย่านทองหล่อ ก่อนที่โรงพยาบาลย่านทองหล่อจะแจ้งว่าผู้ป่วยมีอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เกินขีดความสามารถในการรักษา จึงต้องส่งตัวมาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ และเข้ารับการผ่าตัดทันที” “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใช้เวลาในการส่งตัวผู้ป่วยประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสในการรักษาโรคหัวใจอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะกรณีของโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ที่ต้องการรักษาโดยเร็วที่สุด” ด้านเรืออากาศเอก นายแพทย์อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จึงสั่งให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งกลุ่มบุคคลที่เข้าไปเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน และขั้นตอนการนำส่งตัวผู้ป่วยฉุกเฉิน เนื่องจาก สพฉ. ไม่สามารถปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ และเน้นย้ำการปฏิบัติงานชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้บุคคลซึ่งไม่ใช่ผู้ปฏิบัติการและไม่ได้รับการสั่งการจากหน่วยปฏิบัติการอำนวยการ เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน เพื่อป้องกันพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายและความปลอดภัยของทั้งผู้ปฏิบัติการและผู้ป่วยฉุกเฉินในระบบการแพทย์ฉุกเฉินทั่วประเทศ. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ #สพฉ ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ หลังมีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้มาแชร์ประสบการณ์สุดประทับใจ จากการเธอนั้นได้เดินทางไปรักษามะเร็งที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งตลอดการรักษาเธอไม่เสียเงินค่าที่พักเลยแม้แต่บาทเดียว เนื่องจากได้เข้าพักฟรีที่ Ekanake Hostel ซึ่งเป็นโครงการแบ่งปันที่พักฟรีสำหรับผู้ป่วย-ญาติ ใกล้โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งนอกจากนี้ยังมีโครงการปันอิ่ม ที่มีการมอบคูปองอาหารให้ผู้ป่วยและญาติ วันละ 150 บาท และน้ำฟรีอีก 3 ขวด โดยเจ้าของโพสต์มีโอกาสได้พูดคุยกับแม่บ้านประจำโฮสเทล แม่บ้านเล่าให้เธอฟังว่า ก่อนจะเกิดเป็นโครงการนี้ มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาถามเจ้าของที่พักว่ามีห้องพักราคาถูกไหม เนื่องจากภรรยาถูกส่งตัวมารักษาที่ศิริราช เขาจำเป็นต้องหาที่พักราคาถูกที่สุด เพราะเงินไม่ค่อยมี เจ้าของที่พักเลยตัดสินใจให้พักฟรี เนื่องจากผู้ป่วยและญาติบางรายต้องเดินทางมารักษาตัวจากต่างจังหวัด โดยในการเดินทางมาจากต่างจังหวัดนอกจากต้องจ่ายค่าเดินทางแล้ว ยังมีเรื่องของค่าที่พัก ค่ากิน ซึ่งทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง จึงเกิดเป็นโครงการปันน้ำใจนี้ขึ้นมาเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและญาติในการประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัล ก็มีผู้มีจิตเมตตาร่วมสมทบทุน “โครงการปันน้ำใจ” เป็นจำนวนมาก จนทางเจ้าของโฮสเทลต้องประกาศปิดรับเงินสมทบทุนเอาไว้เพียงแค่นี้ก่อน เนื่องจากไม่อยากให้มีเงินในกองทุนมากเกินควร พร้อมกับย้ำเตือนด้วยว่า ทางเอกเขนกไม่มีลิงก์เปิดรับบริจาคอะไรทั้งสิ้น เนื่องจากกังวลเรื่องมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดี หากใครสนใจร่วมสมทบทุน สามารถติดต่อทางเจ้าของโฮสเทลได้ทางกล่องข้อความของ Ekanake Hostel หรือ ไลน์ของเอกเขนก โฮสเทล โดยตรงเท่านั้น หากไม่มั่นใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไปที่เบอร์ 063-802-2234 เท่านั้น . ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #โครงการปันน้ำใจ #เอกเขนก ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/
