Browsing: News

โซเชียลมีเดีย X ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN HRC) รายงานเมื่อ (9 ต.ค.) เวลา 22.51 น. สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ได้ประกาศผลเลือกตั้งสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน (UNHRC) จำนวน 18 ประเทศ สำหรับวาระการดำรงตำแหน่งปี 2568-2570 โดยเริ่มทำงานในฐานะสมาชิกวันแรก คือ วันที่ 1 ม.ค. 2568 โดยก่อนหน้านี้ไทยเคยนั่งเก้าอี้นี้มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2553-2554 คือนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศและอดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับยูเอ็นเอชอาร์ซีมีสมาชิกรวม 47 ประเทศ จากกลุ่มภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ กลุ่มแอฟริกา 13 ประเทศ กลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก 13 ประเทศ กลุ่มยุโรปตะวันออก 6 ประเทศ กลุ่มลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 8 ประเทศ และกลุ่มยุโรปตะวันตก 7 ประเทศ The @UN General Assembly has elected 18 members of the Human Rights Council for the 2025-2027 term:BeninBoliviaColombiaCyprusCzechiaDemocratic Rep. of CongoEthiopiaGambiaIcelandKenyaMarshall IslandsMexicoNorth MacedoniaQatarRep. of KoreaSpainSwitzerlandThailand pic.twitter.com/k8muYFUZ7w— United Nations Human Rights Council | 📍#HRC57 (@UN_HRC) October 9, 2024

Read More

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกับ The Publisher ถึงกรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเลิกกระทำการล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นประเด็นที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เคยระบุว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของพรรคเพื่อไทยว่า ไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะพรรคไม่มีพฤติกรรมตามที่กล่าวหา หัวหน้าพรรคเราเป็นนายกฯ จะไปล้มล้างการปกครองทำไม แค่นี้ก็น่าจะคิดออกแล้ว การที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยนักร้อง ร้องทุกวันองค์กรอิสระคงไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว วัน ๆ รับแต่เรื่องจากนักร้องพวกนี้เป็นพวกไมค์ทองคำ ทำมาหากินอะไรผมไม่ทราบ แต่วันนี้เราคงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้ อยากร้องก็ร้องไปพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าแก้ปัญหาอุทกภัยให้กับพี่น้องภาคเหนือ มากกว่าให้ความสำคัญกับนักร้องไมค์ทองคำ แต่ก็คงรู้กันอยู่ว่าใครร้องเพื่ออะไร เพราะเห็นหน้าก็รู้แล้ว “มีเบื้องหลังแน่ ๆ แต่เราไม่ให้ความสำคัญอยากร้องก็ร้องไป เรามีหน้าที่คิดแก้ปัญหาให้ประชาชนพวกนักร้องไมค์ทองคำน่าจะว่างงานก็ร้องมาไม่เป็นไร ที่นายไพบูลย์บอกจะทำให้พรรคเพื่อไทยล่มสลายก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นใครวันนี้เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ควรคิดเอาหัวหน้าพรรคมาเข้าประชุมสภาฯก่อน ควรไปทะเลาะสู้กับนายพร้อมพงศ์จะดีกว่า” นายวิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

Read More

ห่างหายไปนานสำหรับ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หลังเผชิญมรสุมศึกเลือดสาดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถูกกล่าวหาพัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน จนต้องพ้นจากตำแหน่งรอง ผบ.ตร. หลุดไลน์เข้าเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ทำให้ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ เข้าป้ายรั้งตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 15 แต่สำหรับ “บิ๊กโจ๊ก” ที่แม้วันนี้ต้องออกจากวงโคจรสีกากีไปแล้ว ก็ยังชิล ๆ ใช้ชีวิตแบบมีรอยยิ้มตามภาพที่เห็น เดินสายรับปริญญาบัตรถึง 2 มหาวิทยาลัย สัปดาห์ที่แล้วรับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมารับปริญญา หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาการบริหารงานยุติธรรมและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ท่ามกลางการให้กำลังใจของบรรดา FC และรุ่นน้อง แม้ในภาพที่เรานำมาประกอบ “บิ๊กโจ๊ก” จะอุ้ม “Cry Baby” แต่ชีวิตตอนนี้ยืนยัน “Don’t cry” เดินหน้านำความรู้ไปแก้ปัญหาสังคมต่อไป

Read More

วันนี้ (9 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ดรามาน้ำป่าไหลหลากท่วมศูนย์บริบาลช้าง มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จนกระทั้งมีช้างเสียชีวิต 2 เชือก ว่าต้องดูเจตนาว่าต้องการทำอะไร ทำไมถึงมีข้อมูลว่ายังขายทัวร์จนถึงนาทีที่ทราบว่าน้ำมาแน่นอน หากจะอพยพจริง ๆ ตนว่าทันเหมือนปางอื่น “ปางอื่นทำไมถึงรอดหมด แล้วทำไมปางนี้ถึงมีช้างเสียชีวิต ความสงสารภายหลังเป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้ แต่สาเหตุเหล่านี้ก็สามารถป้องกันได้ ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ต้องมีเวลาในการอพยพ ไม่ใช่ทำได้ปุบปับทันที อีกทั้งเครื่องมือที่ใช้ก็ไม่เหมือนสัตว์ทั่วไป การวางแผนรับมือจริงไม่มีควรลักษณะอย่างที่เกิดขึ้น“ นายแทนคุณกล่าว นายแทนคุณ กล่าวต่ออีกว่า “ต่อจากนี้ไปควรมีมาตราการในการขึ้นทะเบียนช้างอย่างจริงจัง มีมาตราการในการอพยพ และการบังคับอพยพในกรณีผู้ที่บริบาลช้างเกิดดื้อแพ่ง ปฏิเสธการช่วยเหลือ กลไกของรัฐควรเข้ามาจริงจังเข้มงวดกับสัตว์ต่าง ๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะช้างเท่านั้น” ส่วนรายได้ของแต่ละปางควรเปิดเผยหรือไม่นั้น นายแทนคุณ ระบุว่า แน่นอนว่าสมควร หากยังปล่อยแบบนี้ไปอาจถูกอาศัยช่องโหว่หาผลประโยชน์ เพราะมีการจดทะเบียนทั้งมูลนิธิ หรือในนามของคนรักสัตว์แต่ความจริงเป็นการหาประโยชน์จากสัตว์ ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียหลายด้าน ไม่ใช่แค่เพียงภาพลักษณ์ของประเทศเพียงอย่างเดียว เมื่อถามว่าควรมีหน่วยงานใดที่จะเข้ามาเป็นเจ้าภาพในการจัดการปัญหานี้หรือไม่ นายแทนคุณกล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น่าจะเป็นเจ้าภาพที่ดี ท่านเป็นคนที่ตื่นตัวอยู่แล้ว ก็ควรเคร่งครัด จริงจัง และไม่ปล่อยให้เรื่องดรามากลบข้อเท็จจริง ไม่ควรปล่อยให้ “เวทนามาร์เก็ตติ้ง” ดำเนินต่อไป

Read More

ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยรวม 25 ตำแหน่ง ส่งผู้ว่าฯ หลายคนขึ้นตำแหน่งใหญ่ระดับอธิบดี โดยตำแหน่งสำคัญอาทิให้นายขจร ศรีชวโนทัย พ้นจากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็นรองปลัดกระทรวง และให้นายนฤชา โฆษาศีวิโลซ์ จากผู้ว่าฯ บุรีรัมย์มารั้งตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมกับให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง โยกนายภาสกร บุญญลักษม์ จากผู้ว่าฯ ปทุมธานี เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่วนนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง จากผู้ตรวจราชการกระทรวงให้ไปเป็น อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นอกจากนี้ยังแต่งตั้งโยกย้ายสลับตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดอีกหลายจังหวัด

Read More

หลังนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักเคลื่อนไหวการเมือง ยื่นร้องให้มีการสอบจริยธรรม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในหลายประเด็น รวมถึงกรณีตั้งนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ เนื่องจากทั้งคู่เคยต้องโทษจำคุกไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ล่าสุด ยังมีคิวที่จะมีการร้องสอบจริยธรรมนายกฯ เพิ่มอีกจากทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กรณีตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร เป็นผบ.ตร. ทั้งที่ยังมีคดีค้างอยู่ที่ ป.ป.ช. เป็นคู่กรณีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าข่ายเป็นคดีทุจริต อีกทั้งมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เพราะไม่เคยผ่านงานการเป็นผู้กำกับโรงพัก หรือระดับผู้บัญชาการสายงานสืบสวนปราบปราม แต่ในกฎหมายระบุว่าคนเป็นผบ.ตร.ต้องผ่านงานด้านการสืบสวนสอบสวนและงานด้านการปราบปรามมาก่อน จึงเห็นว่านายกฯ มีความผิดเรื่องจริยธรรม คล้าย ๆ กับกรณีที่แต่งตั้งรัฐมนตรีที่มีปัญหาความไม่ซื่อสัตย์สุจริต

Read More

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดใจในเพจ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” หลังถูกถามว่าถือเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ ที่กลับมาช่วยพรรคเพื่อไทย หลังเคยประกาศ ลาออกเพราะไม่เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยจับมือกับ 3 ลุง โดยนายณัฐวุฒิ ตอบว่า ไม่ เพราะตนมีเหตุผล เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนไป สถานการณ์ขณะนั้นเป็นหมากล็อก ถึงต้องตั้งรัฐบาลแบบนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่ง พรรคก้าวไกลถูกยุบตามในสัปดาห์เดียว พอตนเห็นแบบนี้ก็เป็นห่วงนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร แล้วทางนั้นก็อยากให้เข้ามาช่วย โดยจะเข้ามาร่วมกับทีมงานในการคิดประเมินวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง ออกความเห็นทางการเมืองรายงานต่อนายกฯ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลสื่อสารกับประชาชน ซึ่งหลายคนในทีมงานก็จะมีประสบการณ์มาชวยคิดอ่าน วิเคราะห์กับดักนายกฯ และสถานการณ์ที่แวดล้อม ยืนยันไม่ใช่เป็นพี่เลี้ยงนายกฯ นายกฯไม่จำเป็นต้องมีพี่เลี้ยง เพราะมีศักยภาพ มีความชัดเจนเด็ดขาดแบบที่นางสาวแพทองธาร เมื่อถามต่อว่าการกลับมาครั้งนี้ทำให้ภาพตระบัดสัตย์ชัดเจนขึ้นอีกครั้งไหม นายณัฐวุฒิ บอกว่าไม่ แต่จะไปห้ามไม่ให้พูดไม่ได้ แต่เราต้องบอกเหตุผลกับตัวเราเองให้ได้ก่อน เมื่อบอกเหตุผลกับตัวเองได้แล้วก็จะบอกสาธารณะได้ ส่วนว่าจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องสิทธิของคนฟัง

Read More

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบว่าการแต่งตั้งนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 319/2567 ลงวันที่ 16 กันยายน 2567 และการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 348/2567 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2567 นั้น ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ โดยอ้างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกศาลวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง จากการแต่งตั้งบุคคลเป็นรัฐมนตรี ที่เคยถูกศาลมีคำสั่งลงโทษจำคุกมาแล้ว ถือว่ามีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เมื่อนำมาเทียบเคียงกับกรณีที่นางสาวแพทองธาร แต่งตั้งนายสุรพงษ์ และนายณัฐวุฒิ ซึ่งเคยต้องคำพิพากษาศาลฎีกาให้ลงโทษจำคุก จึงน่าจะเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. รีบทำการตรวจสอบต่อไปโดยด่วน ทั้งนี้ หาก กกต. ตรวจสอบแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงมีมูล ขอให้ กกต. รีบส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยโดยเร็ว พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยด้วย

Read More

ยังเหลือเวลาอีก 17 วัน ที่อายุความคดีตากใบจะสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นเหตุการณ์อัปยศและโหดร้ายที่สุด เกิดขึ้นในยุครัฐบาลทักษิณ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 และจะครบ 20 ปีในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ทำให้คดีขาดอายุความ ซึ่งไม่สามารถที่จะเอาผิด หรือพิสูจน์ความจริงอะไรได้เลย เป็นบาดแผลของสังคม เป็นแผลเป็นในหัวใจของพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นความผิดพลาดทางนโยบายของนายทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี และยืดเยื้อมาเป็นเวลายาวนาน ไม่มีความคืบหน้าทางคดีเลย นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ประชาชนเสียชีวิต 85 ศพ ที่ตากใบ จนจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นี้ ได้ผ่านรัฐบาลมาหลายชุด รวมถึงรัฐบาลในระบอบทักษิณ 6 ชุด คือรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร คำถามของสังคมที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมไทยว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปี ทำไมไม่มีความคืบหน้าของคดีเลย คดีอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 19 ปีกว่า จนถึง 6 เดือนสุดท้าย ก่อนที่จะหมดอายุความ จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง ระยะเวลา 19 ปีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้หมกเม็ด แช่แข็ง ประวิงเวลา ปล่อยเกียร์ว่าง ช่วยเหลือคดีนี้หรือไม่ ผมเชื่อว่าคดีนี้ฝ่ายอำนาจรัฐได้ประวิงเวลา หวังให้คดีหมดอายุความอย่างแน่นอน จนบัดนี้อายุความเหลือเพียง 17 วัน และเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีใครยอมเสี่ยงมามอบตัวเพื่อสู้คดี เพราะต้องใช้เวลาในการสู้คดีนับ 10 ปี และผู้ต้องหาทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้สูงวัยทั้งสิ้น คงจะไม่มีใครยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างแน่นอน ระหว่างการหนีหมายจับอีก 17 วัน กับการสู้คดีอีก 10 ปี และผลของคดีก็ไม่รู้ว่าจบลงอย่างไร ก็คงจะไม่มีใครยอมเสี่ยง แต่สิ่งที่ยืนยันได้ว่า ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย มีส่วนในการทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย ภาพที่เห็นได้ชัดก็คือ…

Read More

เป็นวาระสำคัญทีเดียว สำหรับการประชุมคณะกรรมการสรรหา ที่จะเคาะชื่อประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ (8 ต.ค.) ซึ่ง The Publisher จึงได้พูดคุยกับคุณสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กับความกังวลว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการควบคุม และแทรกแซงแบงก์ชาติ หลังจากที่รัฐบาลรอคอยมานานหรือไม่ The Publisher : ทำไมมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการตั้งประธานบอร์ดแบงค์ชาติ สมชาย แสวงการ : ก็มีข่าวมาตลอดว่าฝ่ายการเมือง โดยการนำของพรรคเพื่อไทย อยากควบคุมการความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งขัดต่อหลักความเป็นอิสระมาก แล้วชื่อที่ปรากฏมาขนาดนี้ ก็อาจจะเป็นชื่อของคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเคยมีนโยบายสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าจะเข้าไปควบคุมแบงก์ชาติ นั่นหมายความว่านโยบายที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นดิจิทัลวอลเล็ตที่ผ่านมา อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติก็ดี รวมถึงผู้ว่าแบงก์ชาติคนปัจจุบันออกมาคัดค้าน การแจกเงินดิจิตอลวอลเล็ตจึงไม่สำเร็จ แล้วก็มีข้อเสนอว่าต้องจะให้เงิน แก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจให้กับกลุ่มคนเปราะบาง 14 ล้านคน ก็ทำเป็นเงินสด ซึ่งวันนี้ก็ออกมาตามข้อเสนอของแบงก์ชาติ เมื่อปีเศษๆที่แล้ว งั้น อันนั้นคือประการที่ 1 ที่ส่อเค้าราง ส่วนอันที่ 2 คุณอุ๊งอิ๊งเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยประกาศเมื่อ 10 กว่าเดือนที่แล้ว ออกมาโจมตี ธนาคารแห่งประเทศไทย แบบเดียวกับคุณเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ว่ามีปัญหาที่ทำให้การเมืองไม่สามารถเข้าไปกำกับควบคุมได้ เหมือนจะบอกว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอิสระจากรัฐบาล เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และนโยบายการคลังถูกใช้เพียงด้านเดียว ทำให้ประเทศเรามีหนี้สูงขึ้น และมากขึ้นทุกปี ก็เห็นชัดเจนว่า มีความพยายามที่จะเข้าไปในการควบคุม กำกับดูแล นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งผมคิดว่าเราต้องจับตาการเลือกกรรมการ และประธาน มีคำถามที่เราสงสัยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วถ้ามันเกิดขึ้น มันหมายความว่าจะเสียสมดุลหรือไม่ ในอดีตประเทศไทยเคยเกิดตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง เพราะการที่เข้าไปแทรกแซงของฝ่ายการเมือง กว่าจะกอบกู้ประเทศกลับมาได้ เป็นบทเรียนก่อนแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย จนมีอิสระพอสมควร แต่เป็นความอิสระภายใต้ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ และประชาชน ยกตัวอย่างประเทศที่ทำให้เกิดปัญหาแบบเดียวกัน คือตุรกี ซึ่งเข้าไปแทรกแซงธนาคารกลาง เพราะประธานาธิบดีของเขาต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่มีปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง ผู้ว่าธนาคารกลางไม่ยอมปฏิบัติตาม จึงเข้าไปแทรกแซงแล้วเปลี่ยนผู้ว่าแบงก์ชาติในระยะเวลา 5 ปีเปลี่ยนไปเป็น 4 คน มันเกิดอะไรขึ้น ค่าเงินตุรกีลดลงไป 80% เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเป็น 65% เสถียรภาพทางการเงินของตุรกีมีปัญหาทันที…

Read More