- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Browsing: News
.กลายเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง สำหรับ “โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม” จ.อุทัยธานี ต้นสังกัดครูและนักเรียนที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาเมื่อวันที่ 1ตุลาคมที่ผ่านมา เริ่มจากการขึ้นโพสต์รับบริจาค ที่ทำให้ชาวเน็ตหัวร้อนว่า ความเสียใจยังไม่แสดงมาเปิดรับบริจาคแล้ว จากนั้นก็เกิดดรามาเรื่องบัญชีรับบริจาคเปลี่ยนใหม่ จนต้องมีการชี้แจงจากผู้ว่าฯ อุทัยธานีว่า บัญชรแรกเป็นของโรงเรียน ส่วนบัญชีหลังเป็นของจังหวัดและยุบให้เหลือบัญชีเดียวคือของจังหวัด.ล่าสุด เพจโรงเรียนฯ โพสต์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ก็ยังโดนตำหนิจากชาวเน็ตที่เข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมากว่า รู้สึกช้าเกินไปหรือไม่ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายวันแล้วแต่เพิ่งโพสต์แสดงความเสียใจ
.นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ The Publisher ถึงกรณีที่เจ้าของรถบัสมรณะที่เกิดเหตุเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 23 คนว่า สาเหตุที่มีการติดตั้งถังก๊าซมากถึง 11 ถังน่าจะมาจากการต้องการเพิ่มระยะทางโดยไม่ต้องแวะเติมกลางทาง เป็นการสะท้อนว่าผู้ประกอบการขาดจิตสำนึก สิ่งที่ภาครัฐต้องดำเนินการคือตรวจสอบอย่างเข้มงวดจะถึงเทศกาลปีใหม่แล้ว ต้องป้องกัน เพราะความจริงก๊าซ CNG ไม่ติดไฟ แต่การติดตั้งอาจไม่ถูกแบบ.ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องน้ำหนักถังแก๊สที่เพิ่มเข้ามาอาจเป็นสาเหตุให้เพลาหักนั้น นายอภิชาติไม่คิดว่าน้ำหนักถังจะเป็นประเด็น ซึ่งโดยปกติรถบรรทุกจะติดตั้งถังแก๊สราว 8-10 ถัง บริเวณใต้ท้องรถหรือหลังเก๋ง เวลาก๊าซรั่วจะระเหยไปกับอากาศเพราะไม่มีอะไรปิดกั้น แต่รถทัวร์จะซ่อนอยู่ในตัวถัง ซึ่งในต่างประเทศจะติดตั้งบนหลังคา.“โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นปัญหาใหญ่คือสำนึกของผู้ประกอบการที่ติดตั้งถังแก๊สเกินใบอนุญาต และเจ้าหน้าที่ที่ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด”
.เป็นกรณีที่นางสาวปณิตา (ขอสงวนนามสกุล) พี่สาวของพลทหารศิริวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) สังกัดกรมสารวัตรทหารเรือเสียชีวิตยื่นหนังสือกับนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ถึงสาเหตุที่พลทหารศิริวัฒน์ เสียชีวิตในระหว่างฝึก เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม.โดยอ้างว่าถูกนำฝึกหนักในสังกัดกรมสารวัตรทหาร สั่งให้วิ่งหลายรอบ พลทหารศิริวัฒน์ มีท่าทีไม่ไหวหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม และวูบลงไปตรงขาครูฝึก จากนั้นครูฝึกได้เตะเข้าที่ขาและซี่โครง ด้วยรองเท้าคอมแบทและตบหน้าอีก 1 ที เพราะมองเป็นการสำออย พร้อมให้เพื่อนพลทหารช่วยกันอุ้มไปวางตากแดดบริเวณหน้าเสาธง ไม่มีการปฐมพยาบาล กระทั่ง 18 นาฬิกา ถูกนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตระหว่างทาง ทั้งนี้ ในใบชันสูตรศพของโรงพยาบาลตำรวจ ระบุมีซี่โครงหัก พร้อมวงเล็บว่า ไม่แน่ใจว่าหักจากการทำ CPR หรือไม่.ด้าน นายจิรัฏฐ์ บอกจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาใน กมธ.การทหาร และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล หลังจากที่ผ่านมาเมื่อเหตุลักษณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มาให้ข้อมูล ทั้งที่ทหารทั้ง 3 นายรวมถึงกรณีนี้สมัครเป็นทหารเอง โดยหวังว่าจะมีการปรับปรุงโดยด่วน
.นี่คือภาพจากดาวเทียม THEOS-2 ที่บันทึกไว้เมื่อช่วงสายของวันที่ 2 ตุลาคม 2567 บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.เกาะช้าง อ.แม่สายและอ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งพบยังคงมีน้ำท่วมขังที่มาพร้อมกับตะกอนดินโคลนจำนวนมาก ในพื้นที่เกษตร พื้นที่ลุ่มต่ำ ตามแนวคลองหลงและคลองแม่มะ.โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนในการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน และการติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป.สำหรับการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง GISTDA ได้ปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยท่านสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ พร้อมรายงานสรุปพื้นที่น้ำท่วมแต่ละจังหวัด เพิ่มเติมได้ที่ https://disaster.gistda.or.th เพื่อการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมและภัยพิบัติต่าง ๆ
.หลังเกิดเหตุคุณยายวัย 68 ปีชาวนครพนมป่วยติดเตียงอยู่บ้านคนเดียว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ถูกเจ้าหน้าที่ตัดไฟฟ้า ทำให้เครื่องออกซิเจนดับจนเสียชีวิตคาบ้าน The Publisher ไปตรวจสอบหลักเกณฑ์การตัดกระแสไฟฟ้า กรณีมีผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ พบข้อมูลว่ามีการกำหนดรับสิทธิ “ยกเว้น” การตัดกระแสไฟฟ้าไว้ โดยต้องไปยื่นขอสิทธิที่การไฟฟ้าฯ ใกล้บ้าน พร้อมเตรียมเอกสาร ใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้า หรือสำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลมีอายุไม่เกินหนึ่งเดือน สำเนาบัตรประชาชนผู้ขอใช้ไฟฟ้าหรือผู้ป่วย กรณีมอบอำนาจต้องมีหลักฐานแสดงตัวของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ จากนั้นทางการไฟฟ้าฯ จะเข้าตรวจสอบสถานที่ใช้ไฟฟ้า.กรณีผู้ได้รับสิทธิแล้ว ต้องใช้ไฟฟ้าต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานให้ยื่นลงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิการได้รับการยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้าภายในวันที่ 1-31 ม.ค.ของทุกปี ซึ่งการไฟฟ้าฯ จะยกเลิกสิทธิในกรณี ค้างชำระค่าไฟฟ้าสามเดือน แจ้งข้อมูลเท็จ พบผู้ป่วยยกเลิกการใช้เครื่องมือทางการแพทย์แต่ไม่แจ้งยกเลิก และตรวจพบการกระทำโดยมิชอบหรือละเมิดการใช้ไฟฟ้า.สำหรับกรณีคุณยายที่เป็นข่าวพบว่ามีการค้างชำระสองเดือนเป็นเงินประมาณ 1,500 บาท ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะตัดไฟตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้.จากกรณีนี้ The Publisher จึงค้นข้อมูลมาฝากเพื่อเป็นความรู้สำหรับครอบครัวที่มีผู้ป่วยติดเตียงต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ จะได้ไปละทะเบียนตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเศร้า
.เป็นกรณีที่พนักงานบริษัทเอกชน ที่ประมูลงานจดมิเตอร์ และตัดกระแสไฟฟ้าจากสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาอำเภอวังยาง จังหวัดนครพนม ตัดกระแสไฟฟ้าและยกหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าบ้านของผู้ป่วยติดเตียงอายุ 68 ปี ที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์การแพทย์ เครื่องผลิตออกซิเจนช่วบหายใจ และเครื่องดูดเสมหะ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ทั้งที่ค้างค่าไฟฟ้า 2 เดือน ประมาณ 1,500 บาท ขณะเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนอ้างทำตามหน้าที่ และรู้ว่ามีผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้ไฟฟ้า.ล่าสุดทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA เปิดหลักเกณฑ์ว่าทางการไฟฟ้าไม่ตัดกระแสไฟฟ้าสถานที่หรือบ้านผู้ป่วยที่ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินเครื่องมือแพทย์ โดยบอกมีหลักเกณฑ์ยกเว้นการงดจ่ายไฟฟ้า โดยให้ผู้ใช้ไฟหรือผู้ได้รับมอบอำนาจติดต่อลงทะเบียนที่สำนักงาน PEA พร้อมหลักฐานแสดงสถานที่ใช้ไฟฟ้าได้ จนกว่าจะสิ้นสุดความจำเป็น.ทั้งนี้ ก็มีผู้เข้ามาคอมเมนต์ด้วยว่า ก่อนชี้แจงหลักเกณฑ์ควรจะแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตก่อน และการตัดไฟฟ้าถึงจะเป็นบริษัทมารับช่วงงาน ก็ต้องมีพิจารณาให้ดี เพราะมีข้อสงสัยว่าการตัดไฟหรือยกหม้อกระแสไฟฟ้าแต่ละครั้ง บริษัทได้เงินเพิ่มด้วยหรือไม่
.เป็นข้อมูลที่ได้จากการแถลงของ พ.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสภาพรถบัสคันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิต 23 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย เบื้องต้นพบว่ารถบัสคันดังกล่าวมีถังก๊าซเชื้อเพลิงจำนวน 11 ถัง จดทะเบียนถูกต้องเพียง 6 ถังที่เหลืออีก 5 ถัง ไม่อยู่ในรายการจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่.ส่วนการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลทั้ง 23 ราย ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างออกรายงานรับรองการเสียชีวิตและใบมรณบัตร โดย สตช. อำนวยความสะดวกจัดรถตำรวจทางหลวง และตำรวจท่องเที่ยวนำขบวนอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ส่งกลับภูมิลำเนาที่จังหวัดอุทัยธานี. ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไฟไหม้ #ไฟไหม้รถบัส ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com
.เกิดเหตุสุดสะอิดสะเอียนขึ้นที่โถงทางเดินชั้น 1 อาคารรัฐสภา ฝั่ง สส. เมื่อช่วงเช้าผู้สื่อข่าวพบ เเม่บ้านสภาฯ กำลังก้ม ๆ เงย ๆ เช็ดทำความสะอาด ก้อนอุจจาระซึ่งเรี่ยราดเป็นทางยาว ตั้งเเต่บริเวณประตูขึ้นลิฟต์ฝั่งขายของที่ระลึก ไปจนเกือบถึงทางเข้าห้องน้ำข้างโรงอาหาร ฝั่ง สส. สร้างความอุจาดให้กับผู้ที่พบเห็น อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ โดยที่ไม่ทราบว่า “เจ้าของอุจจาระ” คือใคร
.กรณีเหตุรถบัสนำนักเรียนทัศนศึกษา เกิดเพลิงไหม้ จนมีนักเรียนและครูเสียชีวิตจำนวนมาก กระทั่งวันนี้กระทรวงศึกษาธิการ โดยพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งงดทัศนศึกษาทั่วประเทศเริ่มตั้งแต่วันนี้.ล่าสุดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี การประชุมกับรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสรุปความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้.โดยกระทรวงคมนาคมรายงานเรื่องการเยียวยา การตรวจสอบ กฎเกณฑ์เรื่องรถ ซึ่งจะประสานรายละเอียดอีกครั้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขส่งจิตแพทย์ลงไปในพื้นที่.ส่วนเรื่องทัศนศึกษานั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่าทัศนศึกษาเป็นการเปิดโลกให้เด็กๆ ไม่อยากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่รถที่ไม่ได้ถูกดูแล หรือได้รับการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะต้องวางกฎวางกรอบ และระบบให้ชัดเจนต่อไป
.หลังแพทย์นิติเวช สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ ผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้มีพิธีนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถของมูลนิธิร่วมกตัญญู ก่อนเคลื่อนออกจากสถาบันนิติเวชวิทยา พร้อมกับขบวนรถของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มารับร่าง 23 คน นำโดยนางสาวชาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลตำรวจชั้นปีที่สอง ตั้งแถวส่งคุณครู และน้องๆ นักเรียน โดยขบวนรถทั้งหมดมีจำนวนกว่า 50 คัน ซึ่งนอกจากส่ง 23 ร่างผู้เสียชีวิตแล้ว ยังเป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิต.โดยขบวนรถดังกล่าว จะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณบริเวณที่เกิดเหตุ ถนนวิภาวดีรังสิต ช่องทางด่วนขาออก เมื่อเสร็จพิธีขบวนรถทั้งหมดจะได้นำร่างผู้เสียชีวิต ไปที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรมต่อไป