Author: Writer Publisher

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติปมตัดไฟฟ้าเมียนมาว่า มีการตั้งคณะทำงานร่วม ไทย-เมียนมา เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่มีปัญหาและหาทางแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจะมีการตรวจสอบปริมาณการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ต้องสงสัย เพื่อหาความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นจะมีการพูดคุยกับบริษัทคู่สัญญาที่จ่ายไฟฟ้าให้กับเมียนมา เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหา และพิจารณาตัดไฟในบางส่วนของพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) จะมีการหารือกับ นายหลิว จง อี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงความมั่นคงและสาธารณะประชาชนจีน เพื่อหาความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และจะเดินทางลงพื้นที่จ.ตาก ด้วยตัวเอง ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และสั่งการมาตรการเพิ่มเติม โดยจะมีการดำเนินการซีลพื้นที่ชายแดน 2 ชั้น ตามนโยบายของรัฐบาล “เมื่อเช้านี้ได้มีการสั่งให้ประชุม ซึ่งผลออกมาเป็นเอกภาพไม่โยนไปโยนมา สิ่งที่สำคัญคือให้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมดโดยจะให้มีการประสานงานระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ สมช. และกระทรวงมหาดไทย โดยจะให้กระทรวงการต่างประเทศติดต่อประสานงานกับทางเมียนมาร์ เพื่อให้ดำเนินการตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก คือให้ทางการเมียนมาดำเนินการพูดคุยกับบริษัทเอกชนในพื้นที่ ว่าถ้ายังมีปัญหาแล้วไม่ดำเนินการแก้ไข ทั้งนี้ฝ่ายไทย ได้แจ้งกับทางการเมียนมาในฐานะเป็นเจ้าของพื้นที่ เพื่อให้ไปดำเนินการแก้ไขต่อ ซึ่งไทยอาจจะต้องดำเนินการตัดไฟครึ่งหนึ่ง เพื่อให้กระแสไฟตกในจุดที่ยังใช้งานอยู่” นายภูมิธรรม กล่าว

Read More

ชุดปราบปรามยาเสพติด กก.ดส. นำโดย พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.ดส. เข้าจับกุม นายทศพร หรือบาส อายุ 28 ปี และนายวีระศักดิ์ หรือช็อป อายุ 32 ปี ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลาง คีตามีน บรรจุอยู่ในถุงชาสีเขียว น้ำหนักรวม 5.5 กิโลกรัม, ยาบ้า ห่อในกระดาษไข ปั๊มตรา UFO 999 รวม 48,000 เม็ด, ยาไอซ์ น้ำหนักรวมถุง 0.7 กรัม จำนวน 1 ถุง และอุปกรณ์การเสพ การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีชายต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์ส่งยาเสพติดให้กับผู้เสพรายย่อย จึงได้ทำการติดตามสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง ต่อมาสืบทราบว่าจะมีการนัดรับยาเสพติดที่บ้านพักแห่งหนึ่งในย่านพระสมุทรเจดีย์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตการณ์อยู่แล้ว จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบเห็นนายทศพร หรือบาส กำลังเดินถือถุงสีดำเข้าไปในบ้าน โดยมีนายวีระศักดิ์ หรือช็อปคอยเปิดประตูให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองเห็นเจ้าหน้าที่ก็แสดงอาการตกใจและพยายามวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ได้เสียก่อน จากการตรวจค้นพบเคตามีนซุกซ่อนอยู่ในถุงสีดำที่นายทศพรณ์ถืออยู่ และจากการตรวจค้นภายในบ้านพักยังพบยาบ้าอีก 48,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Read More

คดีแก๊งโอริโอ้ที่ก่อเหตุอุกอาจ ทำร้ายผู้อื่นอย่างเหี้ยมโหด ท้าทายอำนาจกฎหมาย กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เพียงแค่พฤติกรรมที่รุนแรงของแก๊งวัยรุ่นกลุ่มนี้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงข้อกล่าวหาที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ กระทำผิดด้วย พฤติกรรมสุดเหี้ยมของแก๊งโอริโอ้แก๊งโอริโอ้เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยมีพฤติกรรมที่ท้าทายสังคมอย่างมาก พวกเขามักจะรวมตัวกันทำร้ายผู้อื่นโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และยังมีการถ่ายคลิปวิดีโอการกระทำของตนเองไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียอย่างโจ๋งครึ่ม หนึ่งในคดีที่โด่งดังของแก๊งโอริโอ้คือการทำร้ายร่างกายเหยื่ออย่างทารุณ บังคับให้กินหญ้า และเปลือยกาย ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง ข้อกล่าวหาตำรวจเอี่ยวช่วยที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือมีคลิปเสียงที่สมาชิกแก๊งโอริโอ้พูดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามามีส่วนช่วยเหลือพวกเขา ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง นี่ถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง เพราะเป็นการใช้อำนาจในทางที่ผิด สนับสนุนให้กลุ่มอาชญากรรมลอยนวล พฤติกรรมของแก๊งโอริโอ้และข้อกล่าวหาเรื่องตำรวจที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง กำลังส่งผลกระทบต่อสังคมในหลายด้าน กล่าวคือ ความรู้สึกไม่ปลอดภัย: ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง เพราะไม่มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถปกป้องพวกเขาได้จริง ความเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม: เมื่อตำรวจซึ่งมีหน้าที่ในการรักษากฎหมายกลับกลายเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิดเสียเอง ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม การเลียนแบบพฤติกรรม: พฤติกรรมที่รุนแรงของแก๊งโอริโอ้อาจกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลัง ทำให้เกิดการเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้ความเป็นธรรมกลับคืนมา และเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อย่างละเอียด โปร่งใส และเป็นธรรม หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดจริง จะต้องลงโทษสถานหนักโดยไม่มีข้อยกเว้นนอกจากนี้ ยังต้องมีการแก้ไขปัญหาการรวมกลุ่มของวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมรุนแรงอย่างจริงจัง โดยการส่งเสริมให้เยาวชนมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคม รวมถึงการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมให้กับเยาวชน เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาก้าวพลาดไปในทางที่ผิด คดีแก๊งโอริโอ้เป็นเครื่องเตือนใจว่าสังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาอาชญากรรมที่ซับซ้อนมากขึ้น การแก้ไขปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่สำหรับทุกคน

Read More

เพจ ศรีด่านเภสัช แชร์เรื่องราวสุดประทับใจ หลังไรเดอร์แอปฯ ดัง ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจมาจอดบริเวณร้าน พร้อมกับกำเงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินที่เจ้าตัวตั้งใจเก็บจากน้ำพักน้ำแรง ก่อนที่จะเดินตรงเข้ามาหาเภสัชกร พร้อมกับบอกเล่าว่า “วันนี้วันเกิดผม ผมตั้งใจขี่รถแจกข้าวให้คนที่เขาลำบาก และอยากให้เภสัช ช่วยรับเงินไว้ ซื้อยาให้คนที่จำเป็นหน่อยครับ ผมตั้งใจ ถึงจะเป็นค่าแรงเกือบทั้งวัน แต่ผมไม่เสียดายครับ” จากนั้นไรเดอร์นิรนามท่านนี้ก็ได้เดินออกจากร้านขายยาไป ซึ่งต่อมาไม่นาน ก็ได้มีสองตายายเข้ามาในร้าน แจ้งอาการเบื้องต้น บอกว่าเป็นแผล เลือดยังไหลอยู่ เภสัชกรดูอาการและช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับประเมินอาการและแนะนำวิธีการดูแลรักษาแผลเมื่อเภสัชกรถามว่าคุณตาคุณยายทำงานอะไร คุณตาตอบกลับมาว่า “ไม่ได้ทำงานครับ ใช้เบี้ยคนชรา บางเดือนก็พบ มีน้อยก็ใช้น้อยครับ” เภสัชกรจึงบอกว่า “ผมทำให้ ไม่คิดเงิน มีคนอยากช่วยครับ” ซึ่งเงินนั้นก็ไม่ใช่จากใครที่ไหน แต่เป็นของไรเดอร์นิรนามท่านนั้นที่ได้มอบให้กับเภสัชกรเนื่องในวันเกิดของตัวเอง ล่าสุดทางเพจ ศรีด่านเภสัช ได้ออกมาแชร์คลิปของไรเดอร์นิรนามท่านนั้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นภาพของคุณลุงท่านหนึ่งเดินจูงจักรยานมาบริเวณหน้าร้านขายยา จากนั้นก็นั่งพักด้วยอาการหอบกำเริบ พอพักจนหายก็เดินเข้ามาในร้านเพื่อขอซื้อยาพ่น เภสัชเห็นก็จำได้ เลยเดินเอายาไปให้พร้อมกับแนะนำวิธีใช้ โดยไม่คิดเงินแม้แต่บาทเดียว พร้อมกับบอกคุณลุงว่า “เงินที่เตรียมมา เก็บไว้ใช้นะครับ” เพราะเรื่องค่าใช้จ่าย เภสัชกรได้นำเงินปึกนั้นของพี่ไรเดอร์นิรนามมาจัดการเรียบร้อย หนึ่งน้ำใจได้ถูกส่งต่อสู่ผู้ยากไร้อย่างที่พี่ไรเดอร์นิรนามท่านนั้น ได้หวังเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย

Read More

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. นำทีมโดย พ.ต.ท.ภัททสักก์ ธนสุกาญจน์, พ.ต.ท.เอกพล แสงอรุณ รอง ผกก.1 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอท. เข้าจับกุม นายรามิลฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4557/2567 ลงวันที่ 19 กันยายน 2567 (สน.พญาไท) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” จับกุมได้ที่บ้านพัก หมู่ 1 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และนายธนาวุฒิฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.153/2568 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้ที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” จับกุมได้ที่บ้านพัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี คดีนี้สืบเนื่องจากตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1 บก.ปอท. ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า มีคนร้ายแต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลมาข่มขู่ผู้เสียหาย โดยแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และคดียาเสพติด พร้อมส่งเอกสารปลอมต่างๆ มาให้ผู้เสียหายดูจนทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวและหลงเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ต่อมาคนร้ายจึงได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปยังบัญชีคนร้ายรวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิด ตามนโยบายเชิงรุกของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ดำเนินการกวาดล้างขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นภัยอาชญากรรมที่ก่อความเสียหายต่อประชาชนและสังคมในวงกว้าง และเน้นย้ำให้มีการเตือนภัยรูปแบบการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกับเปิดเผยโฉมหน้าของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่แต่งกายเลียนแบบตำรวจ ข่มขู่ประชาชนให้ได้รับความเสียหาย เผยแพร่เป็นเบาะแสให้กับประชาชนผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และสื่อต่างๆ…

Read More

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” ถึงกรณีรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การพนัน มีเนื้อหาเปิดทางให้ “พนันออนไลน์” ถูกกฎหมายว่า เป็นพฤติกรรมลักษณะ “มุบมิบ” ทำ ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ว่าจะแก้ประเด็นอะไร รับฟังความเห็นประชาชนนานแค่ไหน แต่ไม่มีการรชี้แจงล่วงหน้า ถึงเวลาก็เอาขึ้นเว็บไซต์แบบเงียบเชียบ และวิธีการก็ดูไม่น่าเชื่อถือ เพราะระบบที่เปิดผู้เข้าแสดงความเห็นไม่ต้องแสดงตัวว่าเป็นใคร อีกทั้งหนึ่งคนใช้สิทธิได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ทำให้เกิดความเอนเอียงได้ เช่น ฝ่ายเห็นด้วยระดมกันเข้ามา “แบบนี้เป็นการมุบมิบไม่โปร่งใส เขียนเหมือนกับห้ามไม่ให้มีพนันออนไลน์เว้นเสียแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ เป็นเนื้อหาที่เปิดช่องชนิดที่เรียกว่าสามารถเอาการพนันออนไลน์ทุกประเภทมาทำให้ถูกกฎหมายได้ ขึ้นอยู่กับจะกำหนดเข้าในบัญชีประเภทไหน ซึ่งเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ การแก้กฎหมายครั้งนี้เป็นกลยุทธของรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดได้เร็ว จึงแก้เล็กไม่แก้ใหญ่ เพื่อเร่งรัด ซึ่งก็ดูรีบร้อนผิดปกติ” นายธนากร กล่าว นายธนากร กล่าวด้วยว่า ตามกฎหมายปัจจุบันถ้าเป็นการพนันที่อยู่ในบัญชี ก. จะไม่สามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ เช่น ไฮโล บาคาร่า โป๊กเกอร์ หรือสล็อต เป็นกลุ่มที่ห้ามจัดเล่นพนันโดยเด็ดขาด เมื่อกฎหมายเปิดช่องให้อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ก็ทำให้ไม่แน่ใจว่าพนันในบัญชี ก. ที่อนุญาตไม่ได้ กฎหมายนี้จะเปิดช่องให้อนุญาตได้ใช่หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าตั้งข้อสังเกต ซึ่งตนก็เก็งล่วงหน้าไม่ได้ว่า รัฐบาลจะให้การพนันอะไรถูกกฎหมายบ้าง แต่ถ้าฟังจากรมว.มหาดไทยก็เคยพูดว่าได้ทุกอย่าง เป็นความอันตราย ซึ่งต้องดูเรื่องความถี่ของการพนันประเภทนั้น ๆ ด้วย หากมีความถี่สูง ก็จะทำให้เสพติดได้ง่าย เพราะพนันออนไลน์ไร้พรหมแดนเข้าถึงง่ายอยู่ เล่นง่าย รู้ผลเร็ว หากให้แก้มือได้ทันทีด้วย ก็ยิ่งอันตราย ยิ่งถ้าเปิดโอกาสให้เล่น 24 ชม. ก็จะทำให้เกิดการยิ่งเล่น ยิ่งหัวร้อน คุมตัวเองไม่อยู่ ตนอยากเห็นความชัดเจนว่าเงื่อนไขแบบไหนที่จะให้ถูกกฎหมาย ท่านจินตนาการถึงการพนันตัวไหน เงื่อนไขการเล่นเป็นอย่างไร จะคัดกรองคนเข้าเล่นอย่างไร ที่อ้างว่าห้ามคนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าเล่น เหมือนที่คนอยู่เหนือรัฐบาลบอก ก็ต้องถามว่าคุมได้ 100 % จริงหรือ เพราะมีวิธีซิกแซกไม่แสดงตัวตนจริง เอาบัตรประชาชนคนอื่นมาเล่น หากไม่ออกแบบเทคโนโลยีตรวจสอบให้รัดกุมพอก็ไม่สามารถควบคุมได้ การขยายตัวของพนันออนไลน์ในรอบปีสองปีที่ผ่านมาเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ขยายตัวสูงมาก เรามีนักพนันออนไลน์หน้าใหม่ประมาณปีละ 7 แสนคน ถ้าถูกกฎหมายจำนวนน่าจะเพิ่มถึงล้านหรือมากกว่า 7…

Read More

ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อผู้คน ทั้งในเรื่องของสภาพภูมิอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นพิษหนาทึบจนแทบมองไม่เห็นทาง ไหนจะเรื่องของสุขภาพระบบทางเดินหายใจ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ไม่เว้นแม้แต่ดาราสาวเบอร์ต้นของเมืองไทยอย่าง “เบลล่า ราณี แคมเปน” ที่โพสต์ภาพฝุ่นพิษหนาราวกับหมอกลงผ่าน IG Story พร้อมระบุข้อความจี้ถามถึงหน่วยงานรัฐบาล ระบุว่า “อากาศแบบนี้ต้องใช้ชีวิตยังไง แล้วเมื่อไหร่จะมีหน่วยงานออกมาแก้ไขอย่างจริงจังคะ” ด้านวิล ชวิณ เจียรวนนท์ หวานใจของสาวเบลล่าก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นนี้เช่นเดียวกัน โดยได้รีโพสต์ IG Story ของสาวเบลล่า และเขียนข้อความว่า “สงสารแฟนและทุกๆคนในเมืองไทยมากๆ ที่ต้องทุกข์ทรมานกับมลพิษทางอากาศแบบนี้ ขอให้รัฐบาลและคนไทยทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้นนะครับ เสียดายประเทศที่น่าอยู่มากๆ”

Read More

“อี้” แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ได้ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งหนังสือไปยัง พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ทำการขยายผลคดีของนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม และพวก สาเหตุเนื่องจากชมรมสันติประชาธรรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายเกี่ยวกับการกระทำของนายรัฐภูมิ ในคดีพยายามกรรโชกทรัพย์ คลิปเสียง 20 ล้าน คดีดิไอคอน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายภูริทัต โตคงทรัพย์ พี่ชายของนายรัฐภูมิ โดยในกรณีคดีดิไอคอน ที่มีการทยอยสั่งฟ้องผู้เกี่ยวข้องไปแล้วนั้น มีผู้เสียหายร้องเรียนมายังนายแทนคุณ เพื่อให้เร่งรัดติดตามคดี เนื่องจากพบว่านายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความของนายฟิล์ม ได้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่อาจชี้นำให้ประชาชนเข้าใจผิด และเป็นการแก้ต่างนอกศาล ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดมรรยาททนายความ จึงร้องเรียนเพื่อให้มีการประสานงานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ติดตามพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้อง และเร่งรัดส่งฟ้องผู้ที่ยังลอยนวลอยู่ นอกจากนี้ ยังต้องการป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหรือบุคคลใดมาชี้นำ หรือลดทอนน้ำหนักของคดีที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นสภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ ให้ติดตามการกระทำของทนายความบางคนในคดีนี้ เพื่อไม่ให้เข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

Read More

การเสียชีวิตของนักแสดงชื่อดัง ต้าเอส หรือ สวีซีหยวน จากภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ที่ลุกลามเป็นปอดบวม ได้สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของโรคนี้ที่หลายคนอาจมองข้าม ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งมีอาการรุนแรงและยาวนานกว่าไข้หวัดธรรมดา แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต ใครคือกลุ่มเสี่ยง? ผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปี) เด็กเล็ก (อายุน้อยกว่า 5 ปี โดยเฉพาะอายุน้อยกว่า 2 ปี) หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว (โรคปอดเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ เบาหวาน) การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบุคคลในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน ภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ไข้หวัดใหญ่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนหลายประการ เช่น ภาวะขาดน้ำ หลอดลมอักเสบ หูติดเชื้อ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ (จากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย) ไซนัสอักเสบ การกำเริบของโรคประจำตัว ปอดอักเสบ: ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายปอดอักเสบ เป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงที่สุดจากไข้หวัดใหญ่ โดยอาจเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เอง หรือจากการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำเติม ปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส: ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบาก หนาวสั่น มีไข้ เจ็บหน้าอก ไอมีเสมหะ (อาจมีเลือดปน) ชีพจรเร็ว และริมฝีปาก/เล็บเขียวคล้ำ กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ (อายุครรภ์ 6-9 เดือน) ผู้สูงอายุ (โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในบ้านพักผู้ป่วย) และผู้ที่มีโรคปอดเรื้อรังหรือโรคหัวใจ ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย: มักเกิดขึ้นหลังจากอาการไข้หวัดใหญ่ดีขึ้นแล้ว ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ไอมีเสมหะเขียว หายใจลำบาก และเจ็บหน้าอก หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ บทเรียนจากต้าเอสการเสียชีวิตของต้าเอสเป็นเครื่องเตือนใจว่า ไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่แค่โรคหวัดธรรมดา แต่เป็นโรคที่อันตรายและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง การป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญหากคุณมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

Read More

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “เครดิตทักษิณ ต่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม ลดลง?” มีเนื้อหาระบุว่าหลังจากผลการเลือกตั้งนายกอบจ. 47 จังหวัดเสร็จสิ้นลง และพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งจำนวน 10 จังหวัด จากจำนวนที่ส่งสมัครทั้งหมด 16 จังหวัด และพลาดเป้าในจังหวัดสำคัญที่ถูกจับตามอง เช่นจังหวัดเชียงราย จังหวัดลำพูน และจังหวัดศรีสะเกษ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่า บารมีของนายทักษิณที่ขึ้นเวทีปราศรัย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จพ่ายแพ้ไป อาจจะเป็นเพราะบารมีลดน้อยลง เสื่อมถอยและขาดมนตร์ขลังไป จนทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคนออกมาประสานเสียงว่า นายทักษิณยังมีมนต์ขลังอยู่ ถ้าไม่ได้นายทักษิณเป็นผู้ช่วยหาเสียง ผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย คงจะไม่ได้รับเลือกตั้งมากเท่านี้ ซึ่งเป็นการพูดเพื่อเอาใจนายใหญ่ ไม่ให้เสียกำลังใจ แต่สังคมรับรู้ว่าถ้านายทักษิณยังมีบารมีหรือกระแสฟีเวอร์จริง เป้าหมายจังหวัดสำคัญของพรรคเพื่อไทย น่าจะชนะทั้งหมด อย่างจังหวัดเชียงรายและจังหวัดศรีสะเกษ ที่แพ้ให้แก่ผู้สมัครกลุ่มสีน้ำเงินอย่างหลุดลุ่ย ซึ่งตอนปราศรัยหาเสียง นายทักษิณได้คุยโม้โอ้อวด เยาะเย้ยคู่แข่งด้วยวาทะกรรมไล่หนูตีงูเง่าภาค2 และหวังจะยึดที่นั่งส.ส.ศรีสะเกษทั้งจังหวัด แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูป จนนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องเดินทางไปแสดงความยินดีกับชัยชนะของนายวิชิต ไตรสรณกุล ทันที เพื่อแสดงความสะใจ และเป็นการเยาะเย้ย หวังตบหน้านายทักษิณทางอ้อมไปในตัว เมื่อผลการเลือกตั้งนายกอบจ. ออกมาเช่นนี้ ทำให้เครดิตของนายทักษิณที่มีต่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ต้องการให้นายทักษิณเป็นตัวแทนสู้กับพรรคประชาชน และนายทักษิณเองก็ต้องการจะได้ใบอนุญาตเพื่อไปต่อทางการเมือง หวังกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ย่อมถดถอยลง ซึ่งรับรู้ได้จากผลการเลือกตั้งนายกอบจ.ครั้งนี้ นายทักษิณไม่ได้มีบารมีจริง และหมดยุคทักษิณไปแล้ว ขอให้จับตาดูว่า หลังจากนี้นายทักษิณจะพลิกเกม เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม ให้ตัวเองได้ใบอนุญาตเข้าสู่อำนาจทางการเมืองได้อย่างไร

Read More