Browsing: News

“ประชาชนก็เป็นเหยื่อ” คือหัวข้อที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กเดือดถึง กรณีคลิปสนทนาระหว่าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กับ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่เคลื่อนไหวรวบรวมรายชื่อประชาชน 20,000 คน เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบ ป.ป.ช. แต่สุดท้าย กลับถูกมองว่าเป็น เกมต่อรองทางอำนาจ เกมพลิก! จากปมร้องเรียน ป.ป.ช. สู่การต่อรองเบื้องหลัง นายนิพิฏฐ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้แอบอัดคลิปสนทนา และคลิปถูกนำออกมาเผยแพร่ในเวลาต่อมา โดยเนื้อหาในคลิปมีประเด็นที่น่าตั้งคำถามคือ วันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า บิ๊กโจ๊กกับสุชาติตกลงกันได้แล้ว และไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายต่อกัน พร้อมกับ ยืนยันว่าทำหน้าที่ไปตามกระบวนการ และเมื่อ ไม่มีมูล ก็ไม่ส่งเรื่องต่อศาลฎีกา “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ย้ำว่าใหญ่มาก!” นายนิพิฏฐ์ชี้ว่า ทั้ง ป.ป.ช. และฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งควรเป็นองค์กรที่โปร่งใส กลับสามารถวิ่งเต้นกันได้ หากบุคคลทั้งสามไม่ออกมาชี้แจงให้ชัดเจน คลิปนี้มีอีก? หรือเคลียร์กันแล้ว? นายนิพิฏฐ์ ตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจไม่ใช่คลิปเดียวที่มีอยู่ เพราะผู้ที่ปล่อยคลิป อาจ ยังไม่เปิดเผยทั้งหมด แต่หาก “เคลียร์กันได้” ก็อาจไม่มีคลิปอื่นออกมาอีก แต่ถ้าเคลียร์กันไม่ได้…เตรียมรอดูคลิปใหม่ได้เลย ประชาชน 20,000 คน ถูกใช้เป็นเครื่องมือ? ประเด็นที่ทำให้ประชาชนสะเทือนใจคือ 20,000 รายชื่อที่ลงชื่อสนับสนุนการตรวจสอบ ป.ป.ช. อาจกลายเป็นแค่เครื่องมือในการต่อรอง “ที่น่าเห็นใจคือ ประชาชนที่หลงเชื่อและลงชื่อ ก็ถูกใช้เป็นหมากในเกมนี้ แม้แต่คนสงขลา คนพัทลุงที่ผมรู้จัก ก็ถูกนำไปเป็นเครื่องมือ” ประชาชนต้องทำอย่างไร เมื่อเกมอำนาจล้ำลึกกว่าที่คิด? ท้ายที่สุด นายนิพิฏฐ์ฝากคำเตือนว่า ประชาชนคนเดินดิน คงต้องพยายามเอาตัวรอดในระบบที่ถูกกำหนดโดยผู้มีอำนาจ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูเหมือนว่า กติกาและข้อตกลงสำคัญของประเทศ ถูกตัดสินกันหลังฉาก คลิปหลุด #เกมการเมือง #ปปช #รัฐสภา #20,000รายชื่อ #บิ๊กโจ๊ก

Read More

บรรยากาศที่ รัฐสภา วันนี้ (13 ก.พ.) ร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อ พรรคภูมิใจไทย ออกแถลงยืนยันจุดยืนชัดเจนว่า เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของ ความถูกต้อง ชอบธรรม และไม่สร้างปัญหาในอนาคต พร้อมประกาศไม่เข้าร่วมพิจารณาการแก้ไข มาตรา 256 ในการประชุมรัฐสภา เพราะมองว่า สุ่มเสี่ยงต่อการขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีการยกขบวนแถลงหลังวอล์กเอาต์ “แก้รัฐธรรมนูญต้องถูกต้อง – ไม่สร้างปัญหาใหม่”น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่าพรรคสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอด โดยในสมัยที่แล้ว พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคแรกที่เสนอให้แก้ไข มาตรา 256 ซึ่งนำไปสู่การพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุชัดว่า หากต้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน “เรามองว่าการแก้ไข รายมาตรา สามารถทำได้ทันที แต่การแก้ มาตรา 256 เพื่อเปิดทางตั้ง สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาล เราจึงไม่ขอมีส่วนร่วมในการพิจารณา” “ไร้ปัญหาพรรคร่วม – เป็นจุดยืนของแต่ละพรรค”เมื่อถูกถามว่าการไม่ร่วมพิจารณาครั้งนี้ จะกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่? น.ส.บุณย์ธิดาย้ำว่า นี่เป็นจุดยืนของแต่ละพรรค ไม่เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันในรัฐบาล “วันนี้มีเพียง สองพรรค ที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นมติของรัฐบาลหรือฝ่ายค้านโดยรวม ทุกพรรคมีจุดยืนของตัวเอง ส่วนงานบริหารของพรรคร่วมรัฐบาลยังเดินหน้าต่อไป” การประกาศไม่เข้าร่วมพิจารณาของพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้ อาจเป็น อีกจุดเปลี่ยนสำคัญ ในสมรภูมิแก้ไขรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางแรงกดดันจากภาคประชาชนและพรรคการเมืองบางส่วนที่ต้องการเห็น สภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือ พรรคร่วมรัฐบาลจะมีเอกภาพหรือไม่? และเส้นทางแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไปถึงจุดไหน ในช่วงเวลาที่ถูกมองว่า เป็นโอกาสสุดท้ายของรัฐบาลแพทองธาร #แก้รัฐธรรมนูญ #มาตรา256 #ภูมิใจไทย #สสร #สภาร่างรัฐธรรมนูญ

Read More

เป็นกรณีที่ สภ.เชียงใหม่ ขอศาลอนุมัติหมายจับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า หลังถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศหญิงชาวไต้หวัน เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ส่งหนังสือถึงสภาผู้แทนราษฎร ขอจับกุมตัวนายไชยามพวาน เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า ผบ.ตร.ส่งหนังสือมาถึง เมื่อคืนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และสำนักงานลงรับเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และรายงานให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทราบแล้ว โดยหนังสือรระบุถึงพฤติการณ์ความผิด และมีระบุชื่อของผู้ถูกออกหมายจับและผู้เสียหายชัดเจน หลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าสู่วาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 20 กุมภาพันธ์ แต่จะพิจารณาหรือไม่ขึ้นอยู่กับวาระการประชุม ส่วนต้องแจ้งเจ้าตัวหรือไม่ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร บอกหากบรรจุในวาระการประชุมก็จะทราบ และหากนายไชยามพวาน เข้ามอบตัวก่อน ประธานสามารถนำเรื่องออกจากวาระการประชุมได้ สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้ ทีมงานของนายไชยามพวาน แจ้งผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ว่า นายไชยาพวาน ขอลาการประชุมเนื่องจากติดภารกิจในพื้นที่

Read More

บรรยากาศบริเวณ หน้ารัฐสภา คึกคักกว่าทุกวัน เมื่อกลุ่มภาคประชาชนเดินทางมารวมตัวกัน เพื่อ แสดงจุดยืนและเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่กำหนดกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของไทย หลายคนถือป้ายข้อความที่แสดงเจตนารมณ์ เช่น “แก้ 256 = ทางออกประเทศไทย” หรือ “ประชาชนต้องมีเสียง” สะท้อนถึงข้อเรียกร้องที่ต้องการให้มีการ แก้กติกาเพื่อเปิดทางสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พวกเขาสนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตรา 256 และตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 200 คน เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์คือการแบกกล้วยไปสภาฯ เพื่อขอให้ได้ ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง และต้องการกดดันให้สว.สนับสนุนแนวทางนี้ เนื่องจากเห็นว่าแทบจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้การแก้ไขรธน.สำเร็จได้ภายใต้รัฐบาลแพทองธาร และขอให้พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันให้เป็นเอกภาพ แก้รัฐธรรมนูญ #มาตรา256 #ประชาชนต้องมีเสียง #รัฐธรรมนูญประชาชน

Read More

ธนากร คมกฤส เลขาฯ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน โพสต์เฟซบุ๊ก กระตุ้นประชาชนให้สนใจการเข้าไปแดสงความเห็นต่อร่างกฎหมายสำคัญสองฉบับ ที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายและกาสิโน โดยระบุว่า พรุ่งนี้ (14 ก.พ.68)เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมาย 2 ฉบับสำคัญ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร (รวมกาสิโน) และร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. การพนัน (พนันออนไลน์) บนเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายฯ พ.ศ. 2562 เขาให้ข้อมูลว่าระบบกลางทางกฎหมายนี้จัดทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อกฎหมายต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่น่าสนใจจากระบบนี้กลับชวนให้ตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพในการรับฟังความเห็นจริง ซึ่งจากการสำรวจกฎหมาย 500 ฉบับที่นำเข้าระบบรับฟังความคิดเห็น พบว่ามี 340 ฉบับในปี 2567 และ 160 ฉบับในช่วง 1 เดือนแรกของปี 2568 แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ ร่างกฎหมาย (10%), กฎหมายรอง (60%) และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย (30%) “สิ่งที่น่าสังเกตคือ กฎหมายส่วนใหญ่เปิดรับฟังความคิดเห็นเพียง 15 วัน และมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นน้อยมาก โดยกว่า 60% ของกฎหมายมีผู้ร่วมแสดงความเห็นไม่ถึง 100 ราย” ธนากร ให้รายละเอียดเพิ่มเติมโดยยกตัวอย่างการแสดงความเห็นต่อร่างกฎหมาย อาทิ พ.ร.บ. จัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขนส่งมวลชน (1 ความเห็น) พ.ร.บ. ธรรมนูญศาลทหาร (3 ความเห็น) พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (4 ความเห็น) พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารราชการ (4 ความเห็น) และ พ.ร.บ. การศึกษาเท่าเทียม (5 ความเห็น) อย่างไรก็ตาม มีกฎหมาย 2 ฉบับที่ได้รับการแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม ได้แก่ พ.ร.บ. การพนัน (4,192 ความเห็น) พ.ร.บ.…

Read More

ตำรวจสอบสวนกลางบุกจับร้านค้าของเก่าก่อมลพิษกลางหมู่บ้านจัดสรร สองผู้ต้องหาโดนข้อหาค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบกิจการอันตรายต่อสุขภาพ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปทส. ได้เข้าตรวจสอบร้านค้าของเก่าในพื้นที่ ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าร้านค้าดังกล่าวปล่อยมลพิษและส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การเข้าตรวจสอบครั้งนี้มี พ.ต.ท.อภิชาติ อินยอด สว.กก.6 บก.ปทส. เป็นหัวหน้าชุด โดยได้เข้าตรวจสอบร้านค้าของเก่าจำนวน 3 แห่ง พบว่ามี 2 แห่งที่กระทำความผิด ร้านแรกตั้งอยู่ที่ ม.3 ถ.สงขลา-นาทวี (วัวเดิน) ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา พบว่าเปิดรับซื้อของเก่าอยู่ภายในบ้านพักกลางหมู่บ้านจัดสรร โดยไม่ได้รับอนุญาตค้าของเก่า และไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสุรพล เจ้าของกิจการ อีกร้านหนึ่งตั้งอยู่ที่ ม.3 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา พบว่าเปิดรับซื้อของเก่าประเภทพลาสติก และนำมาล้างทำความสะอาดเพื่อส่งขายต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตค้าของเก่า และไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ น.ส.จิตติมา เจ้าของกิจการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการทั้ง 2 ราย ในข้อหา กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ.2474 และ พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 โดยส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับร้านค้าของเก่าอีก 1 แห่งที่ตั้งอยู่ที่ ม.3 ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา พบว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบร้านค้าของเก่าดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ตำรวจสอบสวนกลาง #CIB #บกปทส #ร้านค้าของเก่า #มลพิษ #ฝุ่นPM25

Read More

กรณีที่เป็นประเด็นในเรื่อง ส.ส. ปูอัดโดนนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันแจ้งความในคดีล่วงละเมิดทางเพศ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการตามกม.ได้ ซึ่งในกรณีนี้จะถูกบรรจุในวาระอภิปรายส่งตัว ส.ส.ปูอัด ในวันที่ 20 ก.พ. นี้ ซึ่งทางส.ส.ปูอัดเองได้ชี้แจงผ่านเพื่อนสนิทว่าจะเดินทางเข้าไปมอบตัว และชี้แจงต่อหน้าสื่อ ที่เชียงใหม่ ก่อนวันดังกล่าว กรณีส.ส. ที่มีคดีติดตัวอยู่จะสามารถใช้เอกสิทธิคุ้มครองในฐานะผู้แทนของประชาชนหรือไม่ คดีนี้จะมีทางออกอย่างไร พูดคุยกับ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมาย ในรายการเที่ยงเปรี้ยงปร้าง ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร The Publisher The Publisher: คิดอย่างไรกับกรณีของ ส.ส.ปูอัด? นิพิฏฐ์: เอาหลักๆ ก่อนในระหว่างสมัยประชุมจะมีจับกุมหรือหมายเรียก ส.ส. ส.ว. ไปทำการสอบสวน ไปดำเนินคดีใดๆ ไม่ได้เพราะว่าจะมีการขัดขวางการประชุม เว้นแต่จะระงับอนุญาตจากสภาที่สังกัดอยู่หมายถึงว่าในระหว่างสมัยประชุมถ้าจะจับกุมหรือหมายเรียกจะทำไม่ได้ ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาก่อน เป็นบทคุ้มครอง The Publisher: ทำไมต้องมีบทคุ้มครองส.ส. ในเรื่องนี้? นิพิฏฐ์: ผมมีประสบการณ์กับเรื่องนี้ ผมโดนฟ้องมา 13 คดี คดีล่าสุดคือที่โดนลูกชายของนายกทักษิณฟ้อง คือเจตนาของกฎหมายเค้าต้องการให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ความสำคัญมาก ใช้คำว่าไม่ให้เป็นการขัดขวางการประชุม ห้ามขัดขวาง เพราะการไปประชุมการไปแสดงมติลงมติในสภาเป็นเรื่องของผู้แทนราษฎรที่ต้องกระทำในฐานะผู้แทนราษฎรจะขัดขวางไม่ได้ ถ้าสังเกตว่าในอดีตถ้ารัฐบาลต้องการจะเล่นงานฝ่ายค้านรัฐบาลมีเครื่องมือเยอะ มีทั้งตำรวจ มีทั้งอัยการ หน่วยงานพิเศษที่จะเล่นงานฝ่ายค้านได้เยอะก็เลยคุ้มครอง จึงมีประวัติว่าเวลาจะประชุมสักครั้งหนึ่งคนนี้อภิปรายเก่ง มีหลักฐานก็จับซะก่อน เพราะฉะนั้นก็ห้ามเลย The Publisher: เป็นกลไกคุ้มครองไม่ให้มีการกลั่นแกล้งในระหว่างสมัยประชุม?นิพิฏฐ์: ใช่ๆ แต่ว่าโดยหลักจริงๆแล้วเค้ามีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลไปกลั่นแกล้งฝ่ายค้าน The Publisher: มองอย่างไรที่ว่า เรื่องของคดีเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ควรมีเอกสิทธิ์แบบนี้มาตั้งนานแล้ว? นิพิฏฐ์: มันต้องดูคดีด้วยว่า เหตุที่ส.ส. ถูกแจ้งความ มันเป็นเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับการปฎิบัติหน้าที่ของส.ส. หรือเปล่าเป็นเรื่องส่วนตัวไหม ของผมทั้ง 13 คดี มีทั้งส.ส. บ้าง ทหารบ้าง มาแจ้งความผมทั้งนั้น ตอนนั้นผมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน เวลามีคนมาแจ้งความในอดีตเป็นเรื่องของฝ่ายรัฐบาลทั้งสิ้น ก็ต้องการคุ้มครองแต่ในกรณีที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวเช่น ราษฎรฟ้องส.ส. บุกรุกทำร้ายร่างกายล่วงละเมิด อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวซึ่งต้องแยกว่าถ้าส.ส. ขอเอกสิทธิ์ในคดีที่มีการพิพาทกันส่วนตัวกับประชาชน ผมคิดว่าถ้าเป็นเรื่องของส่วนตัวโดยแท้ไม่เกี่ยวกับการทำหน้าที่อย่าไปขอเอกสิทธิ์เลย แต่จริงๆแล้วเราไม่สามารถสละเอกสิทธิ์ได้ต้องเป็นการอนุมัติจากสภาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะพิจารณา ก็จะอภิปรายกันนาน เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อส.ส.ที่ขอเอกสิทธิ์เลย ผมก็เลยไม่ขอออกสิทธิ์เลย The Publisher:…

Read More

รัฐบาลไทยได้กำหนดเป้าหมายสำคัญใน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) โดยมีแผนจะ ยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ให้ถึง 50 คะแนนภายในปี 2564 แต่ในปี 2567 ที่ผ่านมา คะแนนของไทยกลับอยู่ที่ 34 คะแนน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี จากสถิตินี้เห็นได้ชัดว่าไทยไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ยังมีแนวโน้มคะแนนลดลงเรื่อย ๆ ทำไมไทยถึงไปไม่ถึงเป้าหมาย 50 คะแนน? แม้ว่าภาครัฐจะประกาศมาตรการต่อต้านคอร์รัปชันหลายอย่าง แต่ปัญหาหลักที่ทำให้คะแนน CPI ของไทยไม่ดีขึ้น ได้แก่ การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มแข็ง – คดีคอร์รัปชันจำนวนมากจบลงโดยไม่มีการดำเนินคดีอย่างจริงจัง หรือมีบทลงโทษที่ไม่รุนแรงพอจะยับยั้งการกระทำผิด การทุจริตเชิงโครงสร้าง – รวมถึงการฮั้วประมูลในโครงการภาครัฐ การใช้ตำแหน่งแสวงหาผลประโยชน์ และการขาดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง อิทธิพลของกลุ่มการเมืองและธุรกิจ – นโยบายหลายอย่างถูกชี้นำโดยกลุ่มอำนาจและนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งทำให้การปฏิรูปเพื่อเพิ่มความโปร่งใสเป็นไปได้ยาก การควบคุมเสรีภาพในการตรวจสอบ – นักเคลื่อนไหวและนักข่าวที่พยายามเปิดโปงคดีทุจริตถูกคุกคาม และเสรีภาพสื่อในไทยยังคงมีข้อจำกัด ผลกระทบของปัญหาคอร์รัปชันที่สะสม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง – นักลงทุนต่างชาติลังเลที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเนื่องจากความเสี่ยงด้านคอร์รัปชันและการใช้เส้นสาย งบประมาณที่รั่วไหลกระทบประชาชนโดยตรง – งบที่ควรใช้พัฒนาสาธารณสุข การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ถูกนำไปใช้โดยไม่คุ้มค่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายขึ้น – คอร์รัปชันในโครงการพัฒนาและการบุกรุกป่าทำให้ระบบนิเวศถูกทำลายอย่างหนัก ถึงเวลาปรับแผนใหม่ ก่อนคะแนน CPI จะลดลงอีก เป้าหมาย 50 คะแนนของไทยอาจไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่หากยังใช้แนวทางเดิม ไทยอาจต้องเผชิญกับแนวโน้มคะแนนที่ลดลงอีก ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า จึงต้องมีการปฏิรูปกระบวนการบังคับใช้กฎหมายให้โปร่งใสและเป็นธรรม ภาครัฐต้องเปิดเผยข้อมูลโครงการและงบประมาณให้ประชาชนตรวจสอบได้ และต้องปกป้องนักข่าวและนักเคลื่อนไหวที่เปิดโปงคดีคอร์รัปชัน ดัชนี CPI ที่ลดลงเป็นสัญญาณเตือนว่า ยุทธศาสตร์ชาติในการต่อต้านคอร์รัปชันต้องได้รับการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน เพราะหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป เป้าหมาย 50 คะแนนอาจเป็นเพียงฝันลม ๆ แล้ง ๆ 📍 #CPI2024 #คอร์รัปชันไทย #ต่อต้านทุจริต #ยุทธศาสตร์ชาติ #โปร่งใส #ประเทศไทย

Read More

เพจ สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องในวันมาฆบูชา 12 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม ความว่า “ดิถีมาฆบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ดิถีเช่นนี้ชวนให้พุทธบริษัท น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ประทานแก่พระอรหันตสาวก ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งล้วนอุปสมบทโดยวิธีเอหิภิกขุ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ณ ดิถีเพ็ญเดือน ๓ ที่เรียกอีกอย่างว่า วันจาตุรงคสันนิบาต วันจาตุรงคสันนิบาต อาจเตือนใจพุทธศาสนิกชน ให้น้อมรำลึกถึงโอวาทปาติโมกข์ ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประทานวิธีการประกาศพระศาสนา อันนักเผยแผ่ และผู้สดับธรรมะ พึงน้อมนำมาเป็นวิถีทางประพฤติแห่งตน กล่าวคือ อนูปวาโท การไม่พูดร้าย ๑ อนูปฆาโต การไม่ทำร้าย ๑ ซึ่งทั้งสองวิธีการนี้ ล้วนประมวลอยู่ในกุศลกรรมบถทั้งสิ้น ทั้งนี้ สังคมไทยและสังคมโลกในปัจจุบัน ถูกขับเคลื่อนไปบนกระแสชี้นำ ตามกลไกการสื่อสารอันรวดเร็วฉับไว ผู้คนจำนวนมากมักพอใจในความสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย จนอาจมักง่าย ละเลยกระบวนการอันสุขุม รอบคอบ และชอบธรรม นำไปสู่การทำร้ายกันโดยกายทุจริต และการกล่าวร้ายกันโดยวจีทุจริต ย้อมจิตให้เสพคุ้นกับเนื้อความและรูปแบบอันก่อโทษ ประทุษร้าย หยาบกระด้าง เป็นเท็จ ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ จนรู้สึกด้านชา หลงว่าอกุศลเป็นความดี หลงว่าความทุจริตเป็นเรื่องปรกติ ซึ่งนับเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการพัฒนาตนตามหลักพระพุทธศาสนา ณ โอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนให้สาธุชน จงหมั่นเตือนตนด้วยตนเอง อย่าได้ย่อหย่อนในการขัดเกลากาย วาจา และใจ ให้คุ้นชินกับความประณีต อ่อนโยน สุภาพ และสุขุม เพื่อช่วยกันเหนี่ยวรั้งสังคม ให้หนักแน่นอยู่บนหลักการไม่ทำร้าย และไม่พูดร้าย อันเป็นวิธีการรักษาและเผยแผ่พระศาสนาตามพระธรรมวินัย เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที และได้พลีอุทิศตนเป็นปฏิบัติบูชา ต่อพระบรมครูผู้ประเสริฐอย่างแท้จริง ขอพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดำรงคงมั่นอยู่ในโลกนี้ตลอดกาลนาน และขอสาธุชนทั้งหลาย จงถึงพร้อมด้วยความอดทนและหมั่นเพียร ในอันที่จะศึกษาและเผยแผ่พระสัทธรรมนั้น เพื่อบรรลุถึงความรุ่งเรืองสถาพรสืบไป เทอญ.”

Read More

11 ก.พ. 68 วัน อยู่บำรุง กบห.พรรคพลังประชารัฐ ไลฟ์สด ชี้แจงประเด็นถูกพาดพิงว่าไลน์ไปขอภาพเปลือยนักแสดงสาว แตงโม นิดา จากประเด็นที่มีดรามาก่อนหน้าที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทราบแล้วว่าใครลบข้อมูลมือถือนักแสดงสาว และระบุว่ามีนักการเมืองเจ้าของ วลีเด็ด “มึงรู้ไหม กูลูกใคร” ส่งข้อความขอดูภาพเปลือยของนักแสดงสาว ซึ่งปรากฎว่ารูปเงาที่ได้มีการโพสต์ไปนั้น เป็นรูปเงาของ “วัน อยู่บำรุง” ตนจึงต้องการออกมาพิสูจน์ความจริง และขอความเป็นธรรมจากสื่อ และพี่น้องประชาชนว่า ตนยืนยัน ไม่เคยพูด คนในตระกูลอยู่บำรุงไม่เคยพูด หากมีให้เปิดเผยได้เลย นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยภาพถ่ายหน้าจอที่มีการคุยกับ แตงโม นิดา เพื่อยืนยันความบริสุทธ์ พร้อมท้า สนธิ ให้ออกรายการโหนกระแสที่เป็นเหตุทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นตน เพื่อชี้แจงในกรณีนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ตนยังกล่าวว่ารูปภาพที่ส่งระหว่างแตงโม นิดา กับตนนั้น ยังหมดอายุ พร้อมถามกลับไปยัง สนธิ ว่า “รูปเครื่องผมยังหมดอายุ แล้วคุณไปนำรูปแบบนั้นมาจากไหน”

Read More