Browsing: News

 เปิดตัวโครงการใหม่ของกรุงเทพมหานคร โครงการพัฒนา “สวนสาธารณะคลองช่องนนทรี” เพื่อเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์คลองช่องนนทรีท้ังสองฝั่ง.“กทม.ได้เปิดตัวโครงการพัฒนาสวนสาธารณะคลองช่องนนทรีอย่างเป็นทางการ เพื่อเดินหน้าปรับปรุงภูมิทัศน์คลองช่องนนทรีท้ังสองฝั่ง ความยาวประมาณ 9,000 เมตรและบริเวณโดยรอบให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง.ภายใต้แนวคิด 4 ประการ คือ 1.เขียว 2.คลอง 3.คน และ 4 .ความรู้ ในรูปแบบของ “สวนเลียบคลอง” ที่มีพื้นที่สีเขียว ร่มรื่น มีสายน้ำไหลผ่านและยังพัฒนาให้เป็นแหล่งพักผ่อน รวมถึงพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ ออกกำลังกาย.สามารถเดินเท้าเชื่อมโยงและเข้าถึงย่านธุรกิจใน 3 พื้นที่เขต ได้แก่ เขตบางรัก สาทร และยานนาวา จากถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม ถนนสาทร ถนนจันทน์ ถนนรัชดาภิเษก ไปจรดถนนพระรามที่ 3 ทำให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนในเมืองด้วย.แม้ว่าสวนสาธารณะช่องนนทรีจะเป็นสวนสาธารณะที่แคบที่สุด มีความกว้างเพียง 6-7 เมตร แต่กทม.จะปรับปรุงให้สวยงาม ร่มรื่น ให้เป็นคลองที่มีชีวิต เป็นคลองที่มีอัตลักษณ์พิเศษ ไม่เหมือนใคร และใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเป็นคลองระบายน้ำ นอกจากนี้จะปลูกต้นนนทรีเสริมจากไม้ยืนต้นชนิดอื่น ๆ เพื่อสร้างอัตลักษณ์และสอดคล้องชื่อคลองช่องนนทรี โดยจะแบ่งดำเนินการเป็น 3 เฟสครับ โดยเฟสแรก ฝั่งละ 1,200 เมตร สองฝั่งก็ 2,400 เมตร จะพยายามให้แล้วเสร็จในเดือนปี 2564 ครับ”.ในส่วนของรายละเอียดโครงการ.“สวนสาธารณะคลองช่องนนทรี” พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ให้ข้อมูลผ่านแฟนเพจ (เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง – Earth Pongsakorn Kwanmuang) ว่า.“คลองช่องนนทรีอยู่ในย่านธุรกิจ (CBD)ในสมัยก่อนนั้น หน้าที่ของคลอง หลัก ๆ คือเพื่อใช้สัญจรและระบายน้ำ เมื่อกาลเวลาที่ผ่านไป วิถีชีวิตของพวกเราทุกคนได้มีการปรับเปลี่ยน สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวจึงไม่ใช่แค่การสัญจรและระบายน้ำ.กทม.จึงมีโครงการดี ๆ พัฒนาคลองช่องนนทรีให้เป็น สวนสาธารณะคลองที่ยาวที่สุดแห่งแรกของไทย มีความยาวถึง 4.5 กม. ต้นไม้สร้าง พื้นที่สีเขียว ลดฝุ่นควัน เพิ่มพื้นที่การเรียนรู้และแหล่งพักผ่อนให้กับชุมชนและคนทำงาน.เพิ่มทางวิ่ง/จักรยาน ระยะทางไป-กลับ มากถึง 9 กม. ใช้คลองบำบัดน้ำตามธรรมชาติได้มากกว่าเดิม เพิ่มทางเชื่อมต่อผู้คนในย่าน.ฟื้นฟูคลองเพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับเมืองResilience…

Read More

 เมื่อวันที่ (1 ก.ย.) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ครั้งที่ 2/2564 ร่วมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.ผ่านระบบวิดีโอทางไกล โดยมี นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม.ดร.สาธิต กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ 5 เรื่อง ได้แก่.1. แนวทางและมาตรการในการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, พัทยา, หัวหิน และพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่องเพิ่มเติม ได้แก่ เชียงคาน จ.เลย และ จ.หนองคาย รวมถึงพื้นที่เกาะกูด เกาะช้าง จ.ตราด และเกาะเสม็ด จ.ระยอง ในรูปแบบ bubble and seal route และมอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยบรรจุในแผนเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยว เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป.2. ผลักดันให้มีการผลิตวัคซีนทั้ง 4 ชนิด เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนของประเทศไทย ได้แก่ วัคซีน ChulaCov19 โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,วัคซีนใบยา โดยบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด, วัคซีนโควิด 19 HXP-GPO Vac โดยองค์การเภสัชกรรม และวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) แบบพ่นจมูก โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โดยเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาสนับสนุนงบประมาณ และให้ อย.ลดระยะเวลาการขึ้นทะเบียนอนุญาต.3. เห็นชอบแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการประชาสัมพันธ์ ในงาน World Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนเมษายน-ตุลาคม 2568 ในการเข้าร่วมการจัดศาลาไทยในธีม การส่งเสริมสุขภาพทุกช่วงวัย.รวมทั้งเป็นการเฉลิมฉลองเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และญี่ปุ่น ตลอดจนให้ประเทศไทยเข้าร่วมประมูลสิทธิ์ในการจัดนิทรรศการนานาชาติเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialized Expo 2028 เดือนสิงหาคม-ตุลาคม ปี 2571 ที่จังหวัดภูเก็ต…

Read More

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุม ส.ส.พปชร.เสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร เดินทางออกจากรัฐสภา ไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ โดยเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงมูลนิธิฯ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมด้วยส.ส.พปชร. ประมาณ 60 คน รออยู่ มีการเก็บโทรศัพท์มือถือของส.ส.ทุกคนที่มา.โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้ยกมือไหว้ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมระบุว่า “ถ้าทำอะไรให้ท่านไม่สบายใจผมขอโทษ” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ยกมือรับไหว้ตามมารยาท และ ร.อ.ธรรมนัส ยังได้ชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวลือทั้งหมด.นักข่าวไปเขียนกันเอง ผมไม่รู้เรื่องเป็นเฟคนิวส์ ก่อนจะระบายความในใจด้วยว่า ที่เชิญท่านมา อยากขอความมั่นใจว่านายกฯ จะดูและจะทำงานร่วมกับพวกเรา ส.ส.และ พรรค พปชร.อย่างไร ผมมาขอความมั่นใจ.พล.อ.ประยุทธ์ เลยตอบไปว่า มีอะไรที่เราต้องดูแลบ้าง ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า มีหลายเรื่อง ส.ส.ไม่สบายใจ ในฐานะเราเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล พรรคอื่นขออะไรก็ได้ แต่พวกเราไม่ได้อะไรเลย พล.อ.ประยุทธ์ เลยตอบกลับว่า ถ้าโครงการต่างๆ มันถูกกฎหมายก็เขียนมาสิ.นอกจากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ยังได้พูดกับ พล.อ.ประยุทธ์ อีกว่า ท่านไม่เคยมาดูแล ไม่ได้เจอ ส.ส.ในพรรคเลย ส.ส.หลายคนก็ไม่เคยได้รู้จักกับท่านเลย.พล.อ.ประยุทธ์ เลยตอบกลับไปว่า “ถ้าเป็นปัญหาแบบนี้ เราก็จะไปปรับตัวดู”.ร.อ.ธรรมนัส จึงได้กล่าวว่า “อะไรที่ผิดพลาดไปผมก็ต้องขออภัย แต่สิ่งที่ผมพูดไป พูดไปในฐานะเลขาธิการพรรค ที่ต้องดูแลพรรค ดูแล ส.ส.”.ที่สำคัญ ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่า ในการลงมติวันที่ 4 ก.ย. นี้ ท่านไม่ต้องห่วงหรอกครับ แต่รัฐมนตรีบางคนอาจจะได้ไม่เท่าท่าน.โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. และประธานวิปรัฐบาล ได้กล่าวเสริมว่า ของท่านอันดับหนึ่ง.พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบไปว่า ให้มันเท่าๆ กันดีกว่า โดยในช่วงหนึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ได้พูดกับ ส.ส.ว่า อะไรที่ทำได้ก็จะทำ อะไรที่ผ่านมาก็อย่าไปคิด.ซึ่งการพบปะกันครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.ประยุทธ์ ได้โชว์ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพี่น้อง…

Read More

 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทย เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณากำหนดให้วันเลือกตั้งท้องถิ่นระดับ อบต. กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยาว่า.ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่หากมีมติให้จัดเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็มีความพร้อม โดยในส่วนของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันแล้วว่าจะส่งผู้สมัคร และได้ตัวผู้สมัครแล้ว ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นนักบริหาร เป็นที่รู้จักของคนกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน.ขณะที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ก็มีความพร้อมแล้วเช่นกัน และได้ผู้สมัครมาแล้ว 40 เขต ส่วนที่เหลือต้องรอพิจารณาขั้นตอนสุดท้าย รวมถึงการเตรียมผู้สมัคร ส.ส. ก็มีความพร้อม..#Update#ThePublisher #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม

Read More

เมื่อวันที่ (9 ก.ย.) ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แถลงว่า ขอใช้เวทีสภาแถลงให้ทราบ เป็นเรื่องที่ตนไม่สบายใจและนอนคิดมาหลายเดือนแล้ว นั่นคือตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่นายกฯให้เกียรติตน.ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนขอลาออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ ยื่นใบลาออก ต่อนายกฯ ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ไม่จบ จึงไม่สบายใจ และใช้เวลาคิดมาหลายคืนก่อนที่จะตัดสินใจยื่นใบลาออกหลังจากนี้จะกลับไปทำงานที่จังหวัดพะเยา ในฐานะส.ส.และเรื่องนี้ได้แจ้งให้พล.อประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค รับทราบแล้ว..#Update#ThePublisher #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม

Read More

เมื่อวันที่ (12 ก.ย.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาภาครัฐสู่การเป็น “รัฐบาลดิจิทัล” มาโดยตลอด เพื่อพัฒนาระบบการบริการประชาชนให้ดีขึ้น การทำงานโปร่งใสตรวจสอบได้ ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากเกินความจำเป็น.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. และหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กรมการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด และสำนักงานประกันสังคม.ได้ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มกลาง ภายใต้ชื่อ “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน ที่รวบรวมงานบริการภาครัฐต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อขอรับบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐจากทุกที่ทุกเวลา ผ่านสมาร์ทโฟน สามารถดาวน์โหลดได้จากทั้งระบบ iOS และ Android.นางสาวรัชดา กล่าวว่า แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของประชาชนยุคดิจิทัล สามารถตรวจสอบสิทธิ จ่ายบิล หรือติดตามสถานะการขอใช้บริการจากภาครัฐได้อย่างสะดวก และหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการยกระดับการให้บริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถนำข้อมูลและบริการต่าง ๆ มาให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ด้วย.ปัจจุบันมีบริการที่พร้อมให้บริการประชาชนกว่า 30 บริการ เช่น การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม สถานะผู้ประกันตน สิทธิหลักประกันสุขภาพ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ข้อมูลเครดิตบูโร หนังสือรับรองผลการทดสอบ O-Net เช็คโฉนดที่ดิน.รวมถึงบริการค่าน้ำ ค่าไฟ ที่สามารถชำระค่าบริการผ่าน QR Code เป็นต้น โดยอนาคตจะมีบริการที่ครอบคลุมกว่า 100 บริการ ที่จะให้บริการประชาชนได้อย่างสะดวกรวดเร็วซึ่งจะเป็นศูนย์รวมบริการภาครัฐให้บริการ.“จึงขอเชิญชวนประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อการเข้าถึงบริการภาครัฐได้แบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว และตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้รัฐบาลจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์งานบริการให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล.กล่าวคือ อันดับรัฐบาลดิจิทัลของไทย อยู่ที่ 57 จาก 193 ประเทศ ในปี2563 ดีขึ้น จากอันดับที่ 73 ในปี…

Read More

 มหาวิทยาลัยนางาซากิร่วมกับมหาวิทยาลัยเสฉวน ทำการทดลองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่น-จีนครั้งแรกในการทดลองวัคซีนโควิด.กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า วัคซีนที่คิดค้นโดยมหาวิทยาลัยเสฉวนเป็นวัคซีนที่ผลิตจากการตัดต่อโปรตีน (recombinant protein vaccine) ซึ่งเป็นการตัดต่อส่วนหนึ่งของยีนไวรัส.ให้เข้ากับสิ่งมีชีวิตเช่นแบคทีเรีย ยีสต์เพื่อสร้างโปรตีนขึ้นมา เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย โปรตีนนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้น.มหาวิทยาลัยนางาซากิและศูนย์วิจัยเวชศาสตร์ปริวรรต (translational medicine) ที่ตั้งอยู่ที่เมืองโกเบ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเสฉวน ทำการทดลองทางคลินิกวัคซีนของประเทศจีน และได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเมื่อเดือนสิงหาคม.การทดลองจะฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัคร 240 คน เพื่อวิจัยประสิทธิผลและความปลอดภัยของวัคซีน.วัคซีนจากการตัดต่อโปรตีนเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะวัคซีนประเภทนี้มีผลข้างเคียงน้อย มีความปลอดภัยมาก เหมาะกับการใช้ในเด็ก.วัคซีนประเภทนี้กำลังทดลองในหลายประเทศ เช่น Novavax ของสหรัฐ, วัคซีนที่บริษัท Sanofi ของฝรั่งเศสพัฒนาร่วมกับ GlaxoSmithKline บริษัทยาสัญชาติอังกฤษ-อเมริกัน และ ซิโนฟาร์ม ของจีนก็กำลังทดลองวัคซีนประเภทนี้เป็นวัคซีนตัวที่ 2 เช่นกัน.นอกจากนี้ วัคซีนเกาตวน (Medigen) ของไต้หวันที่มีการใช้งานแล้ว ก็ผลิตด้วยเทคโนโลยีการตัดต่อโปรตีนอีกด้วย..#Update#ThePublisher #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม

Read More

 “หัวลำโพง” หรือสถานีรถไฟกรุงเทพ เป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กรุงเทพมหานคร มาอย่างยาวนานกว่า 105 ปี ตั้งแต่เริ่มมีการวางรากฐานการคมนาคมในสยามประเทศสมัยรัชกาลที่ 5 แต่นับจากนี้ หัวลำโพงต้องเปลี่ยนรางสู่บทบาทใหม่ เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) วางแผนย้ายการให้บริการเส้นทางรถไฟเกือบทั้งหมดไปที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญกับโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เฟื่องอรุณ ปรีดีดิลก ประธานสาขาวิชาพัฒนศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และผู้อำนวยการแผนงานการศึกษาเพื่อวางกรอบ “ โครงการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)” กล่าวว่าแผนการศึกษาโครงการนี้เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 แบ่งการศึกษาเป็น 2 ระยะ.เน้นวิจัยคุณค่าเชิงอนุรักษ์และนำเสนอแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ ทั้งนี้กระบวนการวิจัยเปิดให้หลายภาคส่วนของสังคมมาร่วมกันกำหนดทิศทางอนาคตของหัวลำโพงด้วย.“การวิจัยครั้งนี้ประชาชนเป็นทั้ง “ผู้ร่วมคิด” คือมีส่วนร่วมในการออกแบบในฐานะ “ผู้ใช้ประโยชน์” เพราะทุกคนสามารถมาใช้ประโยชน์ได้ และเป็น ”ผู้รับผิดชอบ” คือเมื่อใช้ประโยชน์แล้วต้องช่วยกันรักษสมบัติของคนไทยทุกคน.จากการวิจัยครั้งนี้ ชัดเจนว่าประชาชนเห็น “สถานีรถไฟหัวลำโพง” เป็นของคนไทย ทุกคน” ผศ.ดร.เฟื่องอรุณ กล่าว.ผศ.ดร.เฟื่องอรุณ เผยผลการวิจัยในระยะที่ 1 ซึ่งเน้นศึกษามิติคุณค่าเชิงอัตลักษณ์และความต้องการทางสังคมเบื้องต้นว่า “แนวทางการพัฒนาต้องทำให้หัวลำโพงเป็นพื้นที่ที่พึ่งพาตนเองได้ทางเศรษฐกิจและเป็นจุดเชื่อมโยงกับย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ เช่น เยาวราช วงเวียน 22 กรกฎาคม ตลาดน้อย ฯลฯ และย่านการค้าใหม่บนถนนพระราม 4” มี ผศ.ธิป ศรีสกุลไชยรัก สถาบันอาศรมศิลป์ เป็นหัวหน้าโครงการ.ผลการวิจัยจากโครงการสอดคล้องกับแนวคิดของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ได้วางแผนลงทุนพัฒนาพื้นที่หัวลำโพงจำนวน 121 ไร่ ให้เป็น “บ้านรถไฟ” โดยจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟและวางโครงการพื้นที่เชิงอนุรักษ์ในเส้นทางเลียบทางรถไฟ.ในลักษณะการสร้างพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมพื้นถิ่นและพื้นที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ตลอดจนบูรณาการร่วมกับพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเขตเมืองเก่า.จากแนวทางพัฒนาสถานีรถไฟหัวลำโพงที่ได้จากการวิจัยระยะที่ 1 ต่อยอดสู่การค้นหาลักษณะการใช้ประโยชน์ของอาคารและพื้นที่ภายนอกหัวลำโพงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์.รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้และพื้นที่สาธารณะที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนที่หลากหลาย ทั้งนี้ แผนการศึกษาในระยะที่ 2 ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย.1. การศึกษาเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อมทางกายภาพของพื้นที่สถานีรถไฟ หัวลำโพง ได้ข้อเสนอลักษณะการใช้งานและประโยชน์ของพื้นที่และอาคารต่าง ๆ 3 รูปแบบคือ.แบบที่ 1 สัดส่วนของพื้นที่ที่ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เชิงพาณิชย์มากที่สุด มีสัดส่วนเท่ากันคือร้อยละ 30.แบบที่ 2 สัดส่วนของพื้นที่ที่ใช้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 30 รองลงมาคือ ลานกิจกรรม พื้นที่สร้างสรรค์ และพื้นที่อนุรักษ์ ในสัดส่วนเท่า ๆ กันคือร้อยละ 18.แบบที่ 3 สัดส่วนของพื้นที่ที่ใช้เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ…

Read More

งาน “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ” (World Expo 2020 Dubai) หนึ่งในงานแสดงนิทรรศการที่ใหญ่ระดับต้น ๆ ของโลก ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 ที่ผ่านมา โดยงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้มีกำหนดจัด 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 65 ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์.เวิลด์ เอ็กซ์โป หรือ “งานนิทรรศการโลก” เป็น 1 ใน 3 ของงานยิ่งใหญ่ระดับโลก (เช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและฟุตบอลโลก) โดยมีกำหนดจัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยงานมหกรรมโลก (Bureau of International Exposition (BIE) ซึ่งในปีนี้เนื่องจากโลกเผชิญวิกฤติโควิด-19 การจัดงานจึงเลื่อนจากปี 2020 มาจัดในปี 2021 โดยมีสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมด 192 ประเทศ.สำหรับการจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดหลัก “เชื่อมความคิด สร้างอนาคต : CONNECTING MINDS, CREATING THE FUTURE” เพื่อแสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อน ให้เกิดความก้าวหน้า ด้วยการเชื่อมโยงผู้คน องค์กร และประเทศต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงมุ่งให้ความสำคัญกับ นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับความท้าทายของโลกในช่วงเวลานี้ เช่น น้ำ สิ่งแวดล้อม พลังงานทดแทน ชีวิตในเมือง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน.ในส่วนของประเทศไทยมีการนำเสนออาคารแสดงประเทศไทย หรือ “อาคารศาลาไทย” (Thailand Pavilion) ที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนสู่อนาคต” (Mobility for the Future) โดยมี “บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” เป็นผู้คว้าสิทธิ์บริหาร…

Read More

แม้สถานการณ์โลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มหาวิทยาลัยมหิดล โดย คณะทันตแพทยศาสตร์ ไม่เคยหยุดที่จะสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจของชาติ เมื่อเร็ว ๆ นี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิงจีรภัทร จันทรัตน์ หัวหน้าภาควิชาทันตกรรมหัตถการและวิทยาเอ็นโดดอนต์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.สามารถคว้ารางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ : ผลงานประดิษฐ์คิดค้นระดับดี สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปีงบประมาณ 2564 จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในฐานะผู้สร้างสรรค์และพัฒนา “กัตตาเคลียร์” สำหรับทันตแพทย์ใช้ในการรักษารากฟันซ้ำ ซึ่งได้มีการต่อยอดสู่ภาคธุรกิจ.”กัตตาเคลียร์” นับเป็นผลงาน “ปัญญาของแผ่นดิน” ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มากด้วย “คุณค่า” และ “มูลค่า” จากคุณสมบัติพิเศษที่เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทันตแพทย์ใช้ทำละลายวัสดุคลองรากฟันให้กับผู้เข้ารับบริการรักษารากฟันซ้ำ.ทำมาจากน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งทดสอบแล้วว่าเป็นอันตรายน้อยมากต่อทั้งผู้เข้ารับบริการ และต่อทันตแพทย์ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังสร้างความพึงพอใจต่อผู้เข้ารับบริการจากกลิ่นหอมพิเศษของซิทรัส หรือกลิ่นพืชตระกูลส้ม จากน้ำมันหอมระเหยที่ใช้เป็นส่วนผสม อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องด้วยเป็นทันตเวชภัณฑ์ที่เป็น Organic หรือสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ 100%.นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิงจีรภัทร จันทรัตน์ เป็น “อาจารย์ทันตแพทย์นักวิจัย” ที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ และมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงอีกมากมายหลายชิ้นซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารทันตกรรมระดับโลกอีกหลายฉบับ.รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในทีมวิจัยของผลงาน “Mahidol Study” ที่สามารถรักษาฟันตายรากเปิด ทำให้ฟันตายสามารถเจริญต่อไปได้อย่างน่าทึ่ง จากการเข้าร่วมแสดงผลงานในที่ประชุมวิชาการทันตแพทย์ระดับนานาชาติซึ่งต่อมา “Mahidol Study” ได้เป็นที่รู้จักในเรื่องการรักษาฟันปลายรากเปิดจากทันตแพทย์ทั่วโลก.โดยมี Mahidol Guideline ในการรักษาฟันตายปลายรากเปิดที่ทันตแพทย์หลายประเทศใช้เป็นแนวทางในการรักษาผู้ป่วยแบบ Regenerative Endodontics.ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ทันตแพทย์หญิงจีรภัทร จันทรัตน์ ในฐานะหนึ่งในคนไทยคุณภาพ สามารถคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมขึ้นได้เองนี้ สามารถช่วยเศรษฐกิจของประเทศไทย จากการลดการนำเข้าทันตเวชภัณฑ์จากต่างประเทศได้คิดเป็นมูลค่าปีละมหาศาล.นอกจากนี้ “กัตตาเคลียร์” ได้รับการจดความลับทางการค้า (Trade Secret) ดำเนินการโดย สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (iNT) มหาวิทยาลัยมหิดล และได้มีการจัดจำหน่ายในประเทศไทย และประเทศฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนกำลังอยู่ระหว่างการประสานเตรียมพร้อมบุกตลาดในประเทศแถบเอเชียต่อไป..#Social#ThePublisher #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม

Read More