มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่วมกับสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชวนนักศึกษารุ่นใหม่รู้เท่าทันและไม่ทำร้ายตัวเองด้วยนิโคติน หลังแนวโน้มการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นในมหาวิทยาลัย
.
นายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า “เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดให้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ด้านการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาเพื่อรู้เท่าทันปัญหาปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนำร่อง 5 สถาบัน ประกอบไปด้วย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต
.
.
ซึ่งทั้ง 5 มหาวิทยาลัยได้ขับเคลื่อนกิจกรรมพร้อมสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับสุขภาพในเนื้อหาสาระการเรียนรู้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2566 ทั้ง 5 มหาวิทยาลัย มีมติขับเคลื่อนการสร้างความรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบันพบนักศึกษามีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 การสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย ในกลุ่มเยาวชน 61,688 คน พบว่าภาพรวมของเยาวชนทั่วประเทศร้อยละ 9.1 สูบบุหรี่ไฟฟ้า และหากพิจารณาข้อมูลเชิงลึกในรายเขตสุขภาพ พบ 6 เขตที่เยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงกว่าระดับประเทศ ได้แก่ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 14.6, เขต 3 ร้อยละ 13.6, เขต 9 ร้อยละ 13.6, เขต 4 ร้อยละ 13.2, เขต 8 ร้อยละ 12 และเขต 5 ร้อยละ 11.2 ทั้งนี้สำหรับ 5 มหาวิทยาลัยดังกล่าวอยู่ในเขตสุขภาพที่ 13 ซึ่งพบการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสูงสุดร้อยละ 14.6
.
“ในปี 2566 นี้ มหาวิทยาลัยทุกแห่งร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่มีวันงดสูบบุหรี่โลก จนถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งนอกเหนือจากกิจกรรมสร้างกระแสรณรงค์ต่าง ๆ ยังร่วมกันนำเสนอนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนอีกด้วย เช่น มหาวิทยาลัยรังสิต พัฒนาระบบบริการการช่วยเลิกบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า มหาวิทยาลัยสยาม จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาการเลิกสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้าภายในร้านขายยาประจำมหาวิทยาลัย เป็นต้น”
.
.
ด้านนายชนกันต์ ดีโนนอด หรือน้องมอด ประธานฝ่ายกีฬาและบริการสังคม สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ กล่าวว่า “ในฐานะแกนนำนักศึกษารู้สึกดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “เราไม่มีวันทำร้ายตัวเองด้วยนิโคติน” ที่จัดขึ้นในทุกมหาวิทยาลัยมาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นการรณรงค์ที่มีประสิทธิภาพซึ่งที่ผ่านมาอาจเห็นการรณรงค์ที่มหาวิทยาลัยต่างฝ่ายต่างทำ ขาดการสนับสนุนและขาดพลัง แต่วันนี้ทุกแห่งพร้อมเพรียงขับเคลื่อนด้วยความคิดที่มีเป้าหมายเดียวกัน แม้จะไม่ทำให้เด็กและเยาวชนเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าทันที แต่นับเป็นการกระตุ้นความคิดให้นักศึกษาตัดสินใจเลือกทางเดินของตนเองได้และในท้ายที่สุดก็จะเลิกสูบบุหรี่ เพราะได้รับความรู้ผลกระทบจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าเรียนจนจบการศึกษา และอยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ด้วยกันว่า แม้การสูบบุหรี่จะเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล แต่การทำร้ายตัวเองด้วยนิโคตินไม่ว่าจะจากบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า ล้วนสร้างความเสียหายในอนาคต ไม่ใช่แต่เรื่องสุขภาพ แต่เป็นทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจของตนเองและอาจทำร้ายคนที่เรารักได้อีกด้วย”
.