.
จากรายงานขององค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ปี 2565 พบว่า ประชากรในหลายประเทศทั่วโลกกำลังมีอายุสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างประชากรในประเทศ ดังนั้นแนวคิดการใช้ชีวิตวัยเกษียณในต่างประเทศจึงได้รับความสนใจมากขึ้น
.
โดยจากการจัดอันดับประเทศที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับวัยเกษียณ (Best Countries for a Comfortable Retirement 2023) ที่จัดทำและเผยแพร่ทุกปีโดย U.S. News and World Report สื่อสัญชาติสหรัฐอเมริกา พบว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดในทวีปเอเชีย โดยอยู่อันดับที่ 18 จาก 87 ประเทศ
.
ทั้งนี้ ผลการจัดอันดับคะแนนด้านค่าครองชีพตั้งแต่ปี 2562 – 2566 ของไทย มีคะแนนอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการจัดอันดับฯ ดังกล่าว พิจารณาจากปัจจัย 7 ด้าน ได้แก่ ระดับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต นโยบายภาษี ความเป็นมิตร สภาพภูมิอากาศ การเคารพกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน ระบบสาธารณสุข และความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับประเทศที่ตนเห็นว่าน่าอยู่อาศัย
.
.
นอกจากภูมิทัศน์ของประเทศที่สวยงาม วัฒนธรรมที่สืบสานกันมายาวนาน ความเป็นมิตร และความมีน้ำใจของคนไทยแล้ว ระดับค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก ยังเป็นจุดขายที่ชาวต่างชาติสนใจมาวางแผนเกษียณที่ประเทศไทยมากขึ้น ตลอดจนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจ ทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อปีนี้ชะลอตัวอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนและดึงดูดการเป็นหมุดหมายของกลุ่มผู้สูงวัยต่างชาติให้เข้ามาพำนักในประเทศระยะยาว
.
จึงเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้ให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิธุรกิจสุขภาพ การแพทย์การท่องเที่ยว อาหาร และอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคบริการให้สูงขึ้น เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในเวทีโลกในระยะต่อไป
.