.
กลายเป็นอีกหนึ่งไวรัลที่น่าจับตามอง หลังหนูน้อยชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า รีด แฮร์ริงตัน (Reed Harrington) ได้โพสต์วิดีโอของตัวเองในอิสตาแกรมส่วนตัว พร้อมกับบอกว่า “ถ้ามีคนติดตามเขามากถึง 2 แสนคน เขาจะยอมปฏิบัติตามคอมเมนต์ที่ได้รับการกดไลก์มากที่สุด”
.
ซึ่งหลังคลิปดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัลที่มียอดเข้าชมมากถึง 30.2 ล้านวิว พร้อมกับยอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมของน้องรีดที่พุ่งพรวดไปกว่า 3 แสนคน แถมใต้คอมเมนต์ก็มีคอมเมนต์หนึ่งที่ยอดกดไลก์มากถึง 2 ล้าน 7 แสนคน นั่นก็คือชายคนนั้นได้บอกให้น้องรีดมาประเทศไทย เรียนรู้ภาษาไทย เรียนรู้การต่อสู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย และเอาความรู้เหล่านั้นกลับอเมริกาเพื่อไปเป็นนักสู้ UFC ที่สหรัฐอเมริกา
.
.
โดยเจ้าของแอคเคาท์ fiven9nekid ระบุข้อความเอาไว้ว่า “บินมายังเมืองเล็กๆ ในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากคนไทย เรียนภาษาไทย เรียนมวยไทยอีกประมาณ 1 ปีครึ่ง ลงแข่งสักหน่อยและเอาชนะให้ได้ จากนั้นค่อยกลับไปยัง สหรัฐอเมริกา และเข้าร่วมต่อสู้ในรายการ UFC รักษารูปร่างเอาไว้และห้ามพ่ายแพ้ในรุ่นน้ำหนักของคุณ จากนั้นให้ออกจากวงการ แล้วให้สัมภาษณ์ว่า เพราะคอมเมนต์นี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณต่อสู้อย่างหนัก”
.
.
ซึ่งนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ใช้ไอจีส่วนตัวไปคอมเมนต์เพิ่มเติมในไอจีของรีด โดยระบุว่า “เชื่อเหลือเกินว่าคุณต้องคิดไม่ถึงว่า คลิปของคุณจะดึงดูดความสนใจผู้คนได้ถึงขนาดนี้ แต่เพื่อไม่เป็นการกดดัน คนไทยยินดีเสนอให้คุณมาเยี่ยมเราแล้วเรียนรู้คำว่า ‘สวัสดี’ และ ‘ขอบคุณ’ ”
.
พร้อมกันนี้ นายกรณ์ ยังได้แท็กบัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยขวัญใจคนไทย และ จา พนม ยีรัมย์ หรือที่ฝรั่งรู้จักกันในชื่อ โทนี่ จา นักแสดงนักบู๊ที่โชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยจนทั่วโลกชื่นชอบ พร้อมทั้งบอกอีกว่า “ส่วนมวยไทย มั่นใจว่าสุภาพบุรุษสองท่านนี้ยินดีให้ความช่วยเหลือ”
.
.
ล่าสุด บัวขาว บัญชาเมฆ รับทราบแล้ว พร้อมกับบอกผ่านเพจ Banchamek Gym (Buakaw Banchamek, บัวขาว บัญชาเมฆ) ว่า “มวยไทย” Soft Power อีกแล้ว บัวขาวและผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะต้อนรับและดูแลทั้งหมดเมื่อน้องรีดมาประเทศไทย พร้อมกับเข้าไปคอมเมนต์ใต้คลิปวิดีโอของน้องรีดด้วยว่า “สวัสดีครับ ผมบัวขาว พี่และผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยินดีต้อนรับน้องและพวกเราพร้อมที่จะดูแลคุณในประเทศไทย เดี๋ยวพี่จะทักหาในข้อความและพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ”
.
อ้างอิง : https://www.tnews.co.th/