.
สืบเนื่องจากพรรคก้าวไกลประชุม สส. ร่วมกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อสรุปบทลงโทษ สส.พรรคที่ถูกกล่าวหาว่าคุกคาม และล่วงละเมิดทางเพศ 2 กรณี ได้แก่ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส. ปราจีนบุรี และนายไชยามพวาน หมั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ฝั่งธนบุรี
.
หลังการประชุมเสร็จสิ้น ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและสส.พรรคก้าวไกล มีมติขับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือ สส.แจ้ ปราจีนบุรี ออกจากสมาชิกพรรคก้าวไกล เพราะถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรง ส่วนนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ให้ขับพ้นสมาชิกพรรค จึงให้มีการรอคาดโทษไว้ก่อน เพื่อให้มีการยอมรับผิดและขอโทษจากการกระทำ จากนั้นจะมีการพิจารณาต่อไป โดยใช้เวลาประชุมนาน 6 ชั่วโมง
.
โดยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า “ที่ประชุมกรรมการบริหารและสส.ของพรรคก้าวไกล มีความเห็นว่าทั้ง 2 กรณีมีพฤติการณ์คุกคามทางเพศจริง ถือเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง จึงมติให้นายวุฒิพงศ์ พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ขณะที่นายไชยามพวาน เสียงส่วนใหญ่ 106 จาก 128 เห็นควรให้ขับออกจากสมาชิกพรรค แต่เนื่องจากเสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของ กก.บห.และ ส.ส.ที่มีอยู่ จึงยังไม่สามารถขับนายไชยามพวานพ้นจากสมาชิกได้ แต่ที่ประชุมเห็นว่าควรติดสิทธิ์พึงมีทั้งหมด และให้คาดโทษไปตลอดสมัยประชุม หากมีพฤติกรรมเข้าข่ายคุกคามทางเพศอีก อาจจะต้องให้พ้นจากสมาชิกพรรค”
.
.
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ความต่างที่เกิดการถกเถียงกันของ 2 กรณีนี้คือ ในหนึ่งกรณีที่เห็นตรงกันมีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่บทบาท ตั้งแต่เป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคจนกระทั่งเป็น สส. และใช้อำนาจของตัวเองในการปกปิดความผิดจนถึงปัจจุบัน ทำให้ที่ประชุม สส.จำนวนหนึ่งเห็นว่ามาตรการลงโทษมีความรุนแรงแตกต่างกัน
.
นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างไรก็ตามแม้ว่าไม่ได้เกิดการบังคับขืนใจและไม่ได้ปฏิเสธ ดูเหมือนเป็นการยินยอมพร้อมใจกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่กรณีนี้จะชี้ให้เห็นว่าการยินยอมพร้อมใจกันทั้ง 2 ฝ่าย มันไม่เป็นการยินยอมพร้อมใจอย่างแท้จริงๆ หากอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน หากคนที่อยู่ในสถานะที่สามารถให้คุณให้โทษกับผู้ใต้บังคับบัญชาหรือทีมงาน ตรงนี้เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียม จะมาอ้างว่ายินยอมพร้อมใจไม่ได้
เมื่อถามว่าหากมีการตั้งคณะกรรมการจริยธรรมของสภาเพื่อตรวจเรื่องนี้พรรคก้าวไกลยินดีให้ตรวจสอบหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าจะมีการตรวจสอบพรรคก็ให้ความร่วมมืออยู่แล้ว และโดยพื้นฐานพรรคก็มีมติชัดเจนตั้งแต่กรรมการวินัยฯและคณะกรรมการบริหารว่ามีความผิดทางวินัยร้ายแรง
.
เมื่อถามว่าแม้ว่าโทษของที่ประชุมจะไม่เหมือนกัน แต่มติของกรรมการวินัยฯ และกก.บห.พรรคเห็นตรงกันว่าผิดวินัยร้ายแรงทั้งคู่จะมีการขอให้ทั้ง 2 ลาออกจาก สส.เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของทั้ง 2 คน บางครั้งการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นเรื่องที่พึงทำ และตนเชื่อมั่นว่าแม้คนที่ทำผิด หากแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง สังคมพร้อมจะให้โอกาส และการรับผิดชอบทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องให้ข้อเท็จจริงยุติ อย่าไปคิดว่าความรับผิดชอบทางการเมืองเป็นการยอมรับผิดและจำเป็นต้องรอกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นทางการสิ้นสุดก่อนเท่านั้น
.
ที่มาข่าว : https://www.naewna.com/politic/766657