.
กลายเป็นมหากาพย์ดราม่าที่ทำเอาหน้าชาหลายภาคส่วน หลังผู้กำกับชื่อดัง “ต้องเต ธิติ ศรีนวล” จากภาพยนตร์เรื่อง“สัปเหร่อ” ได้ไปเป็นแขกรับเชิญพิเศษในรายการ “อยู่ดีมีเฮง” ของช่องโทรทัศน์ Thai PBS ซึ่งทางพิธีกรได้ยิงคำถามว่า “หนังเราบอกเป็น Soft Power ระหว่างทางจากนี้ไปพูดให้ฟังหน่อย ว่าจะเดินต่อไปยังไง ให้หนังของคนอื่นเป็นอย่างเราถึงจะรอด ?”
.

.
ด้านของ “ต้องเต” ผู้กำกับสัปเหร่อ จึงได้ตอบกลับไปด้วยความมั่นใจว่า “จริง ๆ หนังของผมน่าจะเดินทางสุดได้ประมาณนี้ครับ แต่ผมคาดหวังว่าเรื่องต่อ ๆ ไป ไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ เรื่องต่อ ๆ ไปในวงการอุตสาหกรรม เพราะว่าเหมือนเราอาจจะปรากฏการณ์กระแส จากกระแสที่ไม่มีคนพูดถึง”
.
“กลายเป็นกระแสหลัก และทำให้วงการภาพยนตร์ และวงการอื่น รู้สึกว่า อย่างรัฐบาลมองเห็น ถ้ามันมีเรื่องอื่นดีแล้วพาเขาไป คือให้มาซับพรอตจริง ๆ หน่อย ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูป คุณอาจไม่ได้เข้าใจหนังสัปเหร่อจริง ๆ เลยก็ได้ แค่มาถ่ายรูปแล้วบอกว่าหนังสัปเหร่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์” ก่อนจะเสริมไปอีกว่า “อย่างตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าซอฟต์พาวเวอร์มันคืออะไรตอนทำนะครับ หนังผมเป็นซอฟต์พาวเวอร์เหรอ ผมยังไม่รู้เลย ถ้าผมได้รู้หรือทำความเข้าใจ ซอฟต์พาวเวอร์มันคืออะไร หนังมันไปไกลกว่านี้ หนังมันมีซอฟต์พาวเวอร์จริง ๆ แน่นอน
.
“ดังนั้นถ้ามีการพูดคุยหรือเสวนาในวงการที่คุณต้องการจะเอาซอฟต์พาวเวอร์ไปเผยแพร่ต่อต่างประเทศ หรือจะพาเขาไป ให้พาไปจริงๆ ไม่ใช่แค่หนังเรื่องนี้โกอินเตอร์ อย่างเช่นไป 9 ประเทศ ไม่ใช่เขาพาไปนะครับ คือหนังมันไปเอง และเราก็ไปขายเอง ใช่ครับ มันไม่ใช่รัฐบาลพาไป อันนี้พูดตรง ๆ” (ยกมือไหว้พร้อมกับเผยรอยยิ้ม)
ส่งผลให้หลังจากที่บทสัมภาษณ์ดังกล่าวของ “ต้องเต” ได้ถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียล ทางด้านของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ได้โพสต์บน X (ทวิตเตอร์) อธิบายถึงประเด็นดังกล่าวว่า “การสนับสนุนอุตสาหกรรมโดยภาครัฐ ไม่ได้มีเพียงกลไกเอาเงินทุนไปให้ หรือไปช่วยประชาสัมพันธ์ แต่สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ คือการดึงภาคเอกชนมาร่วมกันให้ข้อมูล ว่าการทำงานที่เป็นอยู่ ติดขัดปัญหาหรือข้อกฎหมายอย่างไร แล้วรัฐในฐานะผู้สนับสนุน จึงจะช่วยปลดล็อคข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้เอกชนได้ขยายศักยภาพของตนเองได้เต็มที่มากขึ้นครับ #SoftPower #รัฐบาลเศรษฐา”
.

.
“รัฐบาลเพิ่งได้เข้ามาเริ่มผลักดันนโยบาย #SoftPower และไม่ได้คิดจากเคลมผลงานใด ๆ จากความสำเร็จของภาพยนตร์ #สัปเหร่อ ครับ แต่มีเจตนาที่จะสนับสนุน และชี้ให้เห็นตัวอย่างหนึ่งของผลงานที่มีคุณภาพ ในฐานะคอหนัง ผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความตั้งใจ และประทับใจผลงานด้วยใจจริง”
“หวังอย่างยิ่งว่าในเร็ว ๆ นี้ ความสนใจและตั้งใจจริงของรัฐบาลชุดนี้ ที่จะสนับสนุนธุรกิจสร้างสรรค์แขนงต่างๆให้เติบโตและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างขึ้น จะเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วครับ”
.

.
ก่อนจะโพสต์ย้ำอีกครั้งว่า “รัฐบาลพร้อมสนับสนุนวงการ #ภาพยนตร์ไทย ด้วยการผลักดันการแก้ไขกฎระเบียบ และส่งเสริมให้เกิดการผลิตหรือส่งออก ที่กว้างขวางขึ้นครับ”
.
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมด้วย “อุ๊งอิ๊ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน สวมชุดไทยไปรับชมภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” และได้มีการถ่ายภาพหมู่ร่วมกับ “ต้องเต” ผู้กำกับ
.
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมเป็นอย่างมาก และมองว่าสิ่งที่รัฐบาลควรทำอย่างจริงจังคือการสนับสนุนและผลักดันอุตสาหกรรมหนังไทยให้เติบโตไปสู่ระดับโลกอย่างแท้จริง ไม่ใช่เกาะกระแสของหนังแล้วเคลมว่าสิ่งนี้คือ Soft Power ของคนไทย
.