สายช็อปปิ้งออนไลน์ต้องรู้ ก่อนจะกดโอนเงินซื้อของทุกครั้งอย่าลืมเอารายชื่อของผู้ที่ทำการซื้อ-ขายไปเช็กในเว็บไซต์เช็กบัญชีคนโกงออนไลน์ เพื่อที่จะช่วยตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยงจากการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่อาจจะแฝงตัวมาหลอกดูดเงิน ซึ่ง “ฉลาดโอน.com” ได้รวบรวม 4 เว็บไซต์สำหรับเช็กความเสี่ยงของบัญชีปลายทางที่เราจะทำธุรกรรมออนไลน์ด้วย โดยจะมีเว็บอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
.
เว็บไซต์ที่ 1 “ฉลาดโอน“
เว็บไซต์ที่ประชาชนทุกคนสามารถมาตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ซื้อก่อนการทำธุรกรรมออนไลน์ รวมทั้งยังมีระบบรับแจ้งรายชื่อผู้ที่ต้องสงสัยหรือไม่มีความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมออนไลน์อีกด้วย เพื่อสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยกันสร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ให้แก่กัน
.
โดย “ฉลาดโอน” มีข้อแตกต่างจากอีก 3 เว็บตรงที่สามารถเช็กตัวตนผู้ขายได้ด้วยการกรอก ชื่อ-นามสกุล เลขที่บัญชี ชื่อผู้ขาย พร้อมได้บัตรฉลาดโอน และสามารถช่วยรวบรวมหลักฐานผ่านช่องทาง FB หรือ Line Official อีกทั้งยังติดต่อง่าย สามารถติดต่อผ่านช่องทาง FB หรือ Line Official ของทางฉลาดโอนได้เลย
.
เว็บไซต์ที่ 2 “เช็กก่อน”
เว็บไซต์สำหรับเช็กบัญชีมิจฉาชีพและตรวจสอบบัญชีผู้ซื้อ/ผู้ขายเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และป้องกันการถูกโกงออนไลน์สำหรับประชาชน
.
โดย “เช็กก่อน” มีข้อแตกต่างจากอีก 3 เว็บตรงที่ในส่วนของการ Login ต้อง Login ผ่าน digital ID หรือเบอร์พร้อม OTP อีกทั้งยังต้องต้องใช้เลขเลเซอร์หลังบัตรประชาชน ควบคู่ไปกับการอัพโหลดรูปหน้าตรง ในส่วนของการเช็กคนโกง นอกจากเช็กเลขบัญชี หรือเบอร์โทรศัพท์ได้แล้ว ยังสามารถนำ URL เว็บไซต์มาเช็กให้ชัวร์ นอกจากนี้ ยังมีหน้าเพจชัดเจนพร้อมอัพเดตข้อมูลอยู่เสมอ และมีช่อง Chat สำหรับการคุยกันระหว่างผู้ซื้อผู้ขายอีกด้วย
.
เว็บไซต์ที่ 3 “Blacklistseller”
เว็บไซต์ที่รวบรวมรายชื่อคนโกง สำหรับตรวจสอบผู้ขายที่ทุจริต โดยผู้บริโภคที่เคยมีประสบการณ์กับผู้ขายที่ทุจริตสามารถเข้ารายงานข้อเท็จจริงและหลักฐานประกอบ โดยถือว่าผู้ใช้บริการได้ตกลงกับข้อกำหนดการใช้บริการ ว่าด้วยเรื่องของข้อมูลที่สุจริต (เช่น ใบแจ้งความ หลักฐานการโอนเงิน) เพื่อให้ผู้ใช้บริการผู้อื่น สามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูล ก่อนพิจารณาตัดสินใจทำการซื้อขายกับผู้ขายที่ไม่รู้จักหรือไม่คุ้นเคย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแม้แต่อย่างใด
.
โดย “Blacklistseller” มีข้อแตกต่างจากอีก 3 เว็บตรงที่ในส่วนของการ Login ตอนลงทะเบียนไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในบัตรประชาชน สามารถกรอกข้อมูล username และ password พร้อมยืนยันตัว ผ่าน Email จากนั้น Login ผ่าน Facebook และมีไลน์กลุ่มที่จะช่วยแชร์ข้อมูลคนโกงโดยมีสมาชิกอยู่ในกลุ่มกว่า 15,000 คน
.
เว็บไซต์ที่ 4 “Whoscall”
แอปพลิเคชันจากบริษัท Gogolook บริษัท Startup จากไต้หวันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 พัฒนาแอปพลิเคชันสัญชาติไต้หวันที่โดดเด่นทางด้านเทคโนโลยีในการป้องกันการทุจริต (Anti-Fraud Technology) และมีฐานข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มากกว่า 2.6 พันล้านหมายเลข โดย Whoscall สามารถช่วยเราระบุข้อมูลเบื้องต้นของเบอร์ที่ไม่รู้จักได้ทันที จากการดึงข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและฐานข้อมูลของแอปเอง
.
โดย “Whoscall” มีข้อแตกต่างจากอีก 3 เว็บตรงที่สามารถโหลด app ผ่าน app store หรือ Play store ได้เลย โดยทางแอปจะใช้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์กว่า 1,600 ล้านเบอร์อยู่ในฐานข้อมูล เป็นตัวคอยแจ้งเตือนเมื่อยามมีใครโทรเข้ามา จะแจ้งเตือนในทันที ว่านี่คือเบอร์ของมิจฉาชีพ หรือเป็นเบอร์ที่ปลอดภัย
.
หากต้องการความช่วยเหลือหรือคำปรึกษา สามารถติดต่อผ่านช่องทางเว็บไซต์ ฉลาดโอน.com Check ก่อนเชื่อ คิดก่อนโอน
โดยสามารถติดต่อฉลาดโอน ผ่านช่องทาง
website: www.chaladohn.com
Facebook: @chaladohn
Line ID: @Chaladohn