.
เรื่องราวของหนุ่มส่งพิซซ่า วัย 25 ปี “Nicholas Bostic” (นิโคลัส บอสติก) กลับมาเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ (X) รายหนึ่งได้โพสต์วินาทีที่หน่วยดับเพลิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งดับไฟและให้ความช่วยเหลือชายส่งพิซซ่าคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ยอมเสี่ยงชีวิตของตัวเองเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ออกมาจากบ้านหลังหนึ่งที่เพลิงกำลังลุกไหม้ จนเรื่องราวความกล้าหาญของเขากลายเป็นที่ถูกพูดถึงและชื่นชม
.
.
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ฮีโร่ผู้กล้า “Nicholas Bostic” ทำงานเป็นพนักงานส่งพิซซ่า ในเมืองลาฟาแยต ประเทศสหรัฐอเมริกา กลางดึกคืนเกิดเหตุเขากำลังขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเติมน้ำมัน แล้วบังเอิญขับผ่านบ้านหลังหนึ่งที่เปลวไฟกำลังโหมกระหน่ำลุกไหม้ไปทั่วทั้งหลัง ตอนแรกเขาตั้งใจจะโทรแจ้ง 911 แต่เขาดันลืมโทรศัพท์เอาไว้ที่บ้าน วินาทีนั้นเขาจึงตัดสินใจฝ่าเพลิงเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ
.
เมื่อเขาเข้าไปในบ้านได้ มันเต็มไปด้วยควันมากมาย เขาพยายามตะโกนบอกคนในบ้านว่าเกิดไฟไห้ม เพราะคิดว่าคนในครอบครัวนี้อาจจะกำลังหลับอยู่ แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับนิโคลัสจึงคิดว่าคนในครอบครัวน่าจะหนีออกไปกันหมดแล้ว แต่ในขณะที่เขากำลังจะออกจากไปหลังนี้ไป สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นว่าบนชั้นสองของบ้านมีอีก 6 ชีวิตกำลังหาทางหนีออกไปจากกองเพลิงนี้อยู่ โดยมีพี่สาวคนโตสุดของบ้านวัย 18 ปี เป็นคนดูแลน้อง ๆ เนื่องจากพ่อและแม่ของเด็ก ๆ ไม่อยู่บ้าน
.
25 yr old pizza delivery man runs into burning house, saves four children who tell him another might be in the house. He goes back in, finds the girl, jumps out a window with her, and carries her to a cop who captures the moment on his bodycam. pic.twitter.com/naF5FKhmv3
— non aesthetic things (@PicturesFoIder) May 15, 2024
.
นิโคลัสรีบปรี่ขึ้นไปยังชั้นสองแล้วใช้ร่างกายของตัวเองเป็นโล่กำบัง โอบเด็ก ๆ ทั้ง 5 ออกมาจากตัวบ้านที่กำลังลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงได้อย่างปลอดภัย ซึ่งในตอนนั้นร่างกายของเขาก็โดนความร้อนของไฟเล่นงานจนแทบทนไม่ไหว ซึ่งขณะนั้นเอง พี่สาวคนโตวัย 18 ก็นึกขึ้นได้ว่าน้องสาววัย 6 ขวบของเธอหายไป และคาดว่าน่าจะยังติดอยู่ภายในบ้าน
.
นิโคลัสไม่รอช้า เขารีบวิ่งฝ่ากองเพลิงกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้งเพื่อตามหาหนูน้อยวัย 6 ขวบ แม้เปลวเพลิงมันจะทวีความรุนแรงมากแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่นิโคลัสต้องการคือเด็ก ๆ ทุกคนต้องปลอดภัย นิโคลัสพยายามตามหาหนูน้อยทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะใต้เตียง ในตู้เสื้อผ้า ก็ไม่เจอว่าหนูน้อยวัย 6 ขวบนั้นหนีความร้อนไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน สิ่งที่ดวงตาเขาสามารถมองเห็นได้ มันมีแต่ควันไฟสีดำเต็มไปหมด เมื่อไม่พบเขาจึงตัดสินใจไปหาบริเวณอื่น จังหวะนั้นเองจู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของหนูน้อยดังมาจากชั้นล่างของบ้าน
.
.
วินาทีนั้น แม้เขาจะกลัวความตายมากแค่ไหน แต่จิตใต้สำนึกของเขาก็ยังคงตะโกนร้องบอกให้เขาตามไปช่วยหนูน้อยคนนี้ให้ปลอดภัย นิโลคัสฝ่าควันไฟและความร้อนลงไปชั้นล่างของบ้าน คลานไปตามทางแล้วใช้มือคลำหา กระทั่งเจอหนูน้อยเขาก็โอบกอดเธอเอาไว้แล้วรีบวิ่งกลับขึ้นมาชั้นสองของบ้าน ใช้แขนกระแทกกระจกจนแตกแล้วกระโดดหนีเปลวเพลิงไปทางหน้าต่างของบ้าน โดยใช้ร่างของตัวเองรับแรงกระแทกเอาไว้
.
.
หลังจากออกมาจากบ้านได้ หน่วยดับเพลงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็เข้ามาดูแลนิโคลัสและหนูน้อย แม้ตัวเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องทนสูดดมควันไฟเข้าไปในร่างกาย แต่เขาก็ยังเอ่ยปากถามเจ้าหน้าที่ไม่หยุดว่า “หนูน้อยปลอดภัยไหม เธอปลอดภัยดีใช่ไหม” และนั่นก็คือเรื่องราวความกล้าหาญของนิโลคัส บอสติกที่ใคร ๆ ต่างก็ชื่นชม
.
.
และหลังจากเรื่องราวของนิโคลัสถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างก็ยกย่องและสรรเสริญความกล้าหาญของเขา พร้อมกับเปิดรับบริจาคในชื่อ “Our Hero Nick” ผ่าน Facebook เพื่อค่ารักษาพยาบาลให้กับนิโคลัส และเปิดแคมเปญรับบริจาคบนเว็บ GoFundme เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ก็มียอดบริจาคเข้ามามากกว่า 350,000 เหรียญ ประมาณ 11 ล้านบาท
.
อ้างอิงข้อมูล : แบไต๋