.
หากพูดถึงขนมในตำนาน “จอลลี่แบร์” (Jolly Bears) เยลลี่หมีหลากสีหลากรส ก็ถือเป็นเยลลี่อีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
.
โดย “จอลลี่แบร์” โลดแล่นอยู่ในตลาดขนมขบเคี้ยวหนุบหนับมากว่า 50 ปี เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สัญชาติไทย ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย ‘บริษัท พงษ์จิตต์ จำกัด’ โดยมีเจ้าของ ‘คุณสมพงษ์ และ คุณสมจิตต์ เชาวน์ประดิษฐ์’ เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2516 เป็นแบรนด์ไทยแท้ที่เชื่อว่าคนไทยหลาย ๆ คนต่างก็ต้องเคยลิ้มรสกันมาก่อน
.
.
ซึ่งต้องยอมรับว่าในสภาพของตลาดขนมขบเคี้ยวที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง แบรนด์จากต่างประเทศเริ่มเข้ามามีบทบาทและแย่งพื้นที่ในตลาดมากขึ้น ทาง “จอลลี่แบร์” เองแม้จะขายสินค้าได้ด้วยตัวของแบรนด์เอง อีกทั้งยังได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้ามาโดยตลอด แต่ทางแบรนด์ก็ต้องการมุ่งเน้นเจาะตลาด Gen ใหม่ ๆ จึงเริ่มทำการตลาดรูปแบบใหม่ เพราะอยากให้ผู้คนเข้าถึงตัวแบรนด์กันมากขึ้น ซึ่งมีปัจจัยหลัก 3 ข้อ ที่ทางแบรนด์ยึดมั่น คือ
- ต้องหาจุดแข็งของสินค้าให้เจอ สำหรับจอลลี่แบร์ก็คือ ความคุ้มค่า มีประโยชน์ มุ่งเน้นความปลอดภัย
- สร้างมาตรฐานให้กับสินค้า สินค้าต้องได้มาตรฐานสากลในทุกด้าน
- ดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน อย่างในช่วงหนึ่ง จอลลี่แบร์ได้จับมือแบรนด์รองเท้ากีโต้ เพื่อทำรองเท้าของจอลลี่แบร์ออกมาช่วงหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี
.
และแน่นอนว่า ด้วยแนวทางที่ชัดเจนนี้ทำให้จอลลี่แบร์ยังคงโลดแล่นอยู่ในตลาด ควบคู่ไปกับมีอัตราการเติบโตด้านยอดขายอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ในปี 2566 บริษัทมียอดขายสูงถึง 300 ล้านบาทเลยทีเดียว!
.
อ้างอิงข้อมูลข่าว : Forbes Thailand Magazine