- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Author: Writer Publisher
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชน ไปที่ ป.ป.ช. หลังถูกแจ้งข้อหาจาก ป.ป.ช.เป็น 1 ใน 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเจ้าตัวบอกได้มาตามนัด และทำหนังสือแจ้งล่วงหน้าว่าขอตรวจพยานหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาด้วย จึงหวังได้รับอนุญาตให้ตรวจพยานหลักฐานอย่างครบถ้วน ที่ควรให้ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิในการเข้าถึงพยานหลักฐานต่างๆ ที่ใช้ในการกล่าวหานายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญความเป็นธรรมพื้นฐานที่สุดคือเรื่องของระยะเวลา ป.ป.ช. เองก็ยังใช้เวลาในการไต่สวนข้อมูลต่างๆ เป็นปี การมาเร่งรัดให้ผู้ถูกกล่าวหาดำเนินการภายใน 15 วัน ก็อาจถูกตั้งข้อสังเกตในเรื่องความเป็นธรรมได้ นายวิโรจน์ยืนยันไม่มีความกังวล โดยจะขอดูพยานหลักฐานที่ใช้กล่าวหาก่อน เพราะยังไม่ทราบว่าพยานหลักฐานมาจากเหตุการณ์อะไร แต่ถ้า ป.ป.ช. ไม่ยอมให้ดูพยานหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหา ทุกคนก็สามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วผู้ถูกกล่าวหาจะชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างไร ทั้งที่ทั้ง 44 อดีต สส.ก้าวไกลทำอะไรโปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรม ตามสโลแกน ป.ป.ช.ไม่มีคลิปลับตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
โดยคณะ สว.สำรอง และกลุ่มผู้สมัคร สว.67 ที่เรียกตัวเองว่าคณะ สว.เพื่อประชาชน รวมตัวกันเรียกร้องให้ กกต.ชี้แจงเรื่องการสืบสวนสอบสวนคดีการบล็อกโหวตในการเลือก สว.67 ที่ผ่านมา หลังจากวันที่ 10 กุมภาพันธ์ คณะ สว.เพื่อประชาชนไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ดำเนินคดีขบวนการฮั้ว และบล็อกโหวตการเลือก สว.67 รวมถึงดำเนินการในข้อหาสัญญาว่าจะให้เงินหรือผลประโยชน์อื่นใด อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว. และกฎหมายอาญาอื่นๆ ปรากฎว่าทาง DSI ระบุได้ดำเนินการสอบสวนจนมีหลักฐานเชื่อว่ามีการกระทำผิดจริง และได้แจ้ง กกต.ไปตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ กกต.ยังไม่ตอบไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป ดังนั้นคณะ สว.เพื่อประชาชน เห็นว่า กกต.ดำเนินการสอบสวนกว่า 300 เรื่องค่อนข้างล่าช้า เป็นเหตุไม่มั่นใจว่า กกต.สามารถดำเนินการได้ทันกรอบระยะเวลาหรือไม่ จึงขอให้ กกต.เร่งปรับระบบการทำงาน และแจ้งผลการสอบสวนไปยัง DSI เพื่อดำเนินการต่อไป ขณะที่ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง พร้อมคณะสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.จะแถลงข่าวกรณีกลุ่ม สว.สำรอง ยื่นเรื่องขอให้ DSI รับคดีฮั้วเลือก สว.ปี 67 เป็นคดีพิเศษ ที่โรงแรมสวนสนปฏิพัทธ์ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างที่นำคณะ สว.ไปสัมมนากันแบบวงปิด #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ข่าววันนี้ #สวสำรอง #กกต
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปัญหาระบบไบโอเมตริก (Biometrics) ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยระบุว่า ตลอดปี 2567 และจนถึงปัจจุบัน ไม่มีการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกจริง แต่เป็นเพียงการถ่ายภาพใบหน้าและพิมพ์ลายนิ้วมือแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่สามารถใช้ตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบไบโอเมตริกหยุดทำงาน คนเข้าออกไทย 17 ล้านคน ไม่มีการเก็บอัตลักษณ์ นายรังสิมันต์ เผยว่า นับตั้งแต่ระบบไบโอเมตริกหมดอายุ มีผู้เดินทางเข้าออกประเทศไทยแล้ว กว่า 17 ล้านคน โดยไม่มีการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์ทางชีวภาพที่แท้จริง ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยของประเทศมีช่องโหว่อย่างร้ายแรง นอกจากนี้ ระบบใหม่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำลังจะได้รับ อาจต้องรอนานถึง 29 เดือน หรือมากกว่านั้น เนื่องจากยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นทางการ ปัญหาช่องโหว่ด้านความมั่นคง เสี่ยงอาชญากรข้ามชาติใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการ รังสิมันต์ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าวว่า หากอาชญากรต่างชาติ เช่น นาย A สัญชาติจีน ก่ออาชญากรรมในไทยแล้วหลบหนีไป แต่ภายหลังได้เปลี่ยนสัญชาติและถือพาสปอร์ตใหม่ เมื่อเดินทางกลับเข้าไทยอีกครั้ง ระบบของ ตม. จะไม่สามารถตรวจจับได้ เพราะไม่เคยมีการเก็บอัตลักษณ์ของบุคคลนั้นมาก่อน “นี่คือความล้มเหลวขององค์กรตำรวจอย่างถึงที่สุด ที่ปล่อยให้คนเดินทางเข้าออกโดยไม่มีระบบตรวจสอบอัตลักษณ์ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แก๊งอาชญากรข้ามชาติสามารถแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว และใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการได้อย่างง่ายดาย” รังสิมันต์กล่าว ตรวจคนเข้าเมืองรู้ปัญหา แต่ไม่มีการแก้ไข นายรังสิมันต์ ยังเปิดเผยว่า ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทราบถึงปัญหานี้มานาน และมีการหารือเพื่อแก้ไขแล้วถึง 7 ครั้ง แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ดำเนินการใด ๆ ทำให้ช่องโหว่นี้ยังคงอยู่ “ผมขอเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เร่งตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน เพราะนี่คือช่องโหว่ด้านความมั่นคงที่ใหญ่มาก และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ แก๊งอาชญากรข้ามชาติและกลุ่มสีเทาดำ เต็มบ้านเต็มเมือง หากยังไม่มีมาตรการแก้ไข พวกเขาอาจกลับมาได้อีกในอนาคต” ไทยจะกลายเป็นแดนสวรรค์ของอาชญากรหรือไม่? นายรังสิมันต์ ทิ้งท้ายด้วยคำเตือนว่า หากรัฐบาลยังปล่อยให้ปัญหานี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง ประเทศไทยอาจกลายเป็นแดนสวรรค์ของพวกสีเทา และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระยะยาว Biometrics #ตรวจคนเข้าเมือง #ความมั่นคงของชาติ #รังสิมันต์โรม #อาชญากรข้ามชาติ #แก๊งสีเทา #ไทยต้องไม่เป็นแดนสวรรค์ของอาชญากร
วันที่ 29 สิงหาคม 2567 – เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่ความคืบหน้าคดีสำคัญ กรณีนายเต็ม พลรัตน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าแฝก อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ และพวก ถูกกล่าวหาทำสัญญาจ้างพนักงานจ้างตามภารกิจตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ แต่ให้บุคคลอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 91, 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2561 ซึ่งคดีนี้ถูกส่งต่อให้ศาลพิจารณา ศาลพิพากษา จำคุกสูงสุด 50 ปี ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาดังนี้นายสฤษดิ์ สุพร (จำเลยที่ 1) มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 23 กระทง เป็นโทษจำคุก 115 ปีนายทองดำ หรือทองคำ บุญญาพิทักษ์ (จำเลยที่ 2) มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 59 กระทง แต่เนื่องจากมีการลดโทษหนึ่งในสาม คงเหลือจำคุกกระทงละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน รวมเป็น 118 ปี 157 เดือน 10 วัน อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกจำเลยทั้งสองสูงสุดตามกฎหมาย คนละ 50 ปี ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายไทย คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยยังสามารถอุทธรณ์ได้ แม้ว่าศาลจะมีคำพิพากษาดังกล่าว แต่คดียังไม่ถึงที่สุด จำเลยทั้งสองยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลที่สูงขึ้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน ก่อนหน้านี้…
กระแสในโลกออนไลน์ร้อนแรงอีกครั้ง หลังมีการเผยแพร่ ไทม์ไลน์เส้นทางสู่เก้าอี้ประธาน ป.ป.ช. ของ “สุชาติ ตระกูลเกษมสุข” ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า “ขาดคุณสมบัติ” แต่สามารถใช้เส้นสายและการเมืองเบื้องหลัง ดันตัวเองขึ้นสู่ตำแหน่งสำคัญขององค์กรตรวจสอบการทุจริต เบื้องหลังการแต่งตั้งที่ถูกตั้งคำถาม ข้อมูลที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ ชี้ให้เห็นว่า เส้นทางสู่ตำแหน่งของสุชาติ ตระกูลเกษมสุข อาจไม่ได้มาจากคุณสมบัติที่เหมาะสม แต่เกิดจาก กระบวนการวิ่งเต้นอย่างเป็นระบบ• ปี 2562: มีการวิ่งเต้นผ่านนักการเมืองระดับบิ๊ก เพื่อผลักดันให้ สุชาติ ได้เป็นกรรมการ ป.ป.ช. แม้ถูกครหาว่าขาดคุณสมบัติ ตามรัฐธรรมนูญ• ปี 2563: กระแสวิพากษ์วิจารณ์ยังคงดำเนินต่อไป แต่สุดท้าย สุชาติ สามารถฝ่าด่านขึ้นเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ได้สำเร็จ• ปี 2567: กระบวนการตรวจสอบเริ่มต้นขึ้น เมื่อ• 17 มิ.ย.: บิ๊กโจ๊ก (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล) นำประชาชนกว่า 25,000 รายชื่อ ยื่นเรื่องร้องเรียนตรวจสอบสุชาติ ใน 3 ประเด็นหลัก• ประพฤติมิชอบต่อหน้าที่• ร่ำรวยผิดปกติ• ผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง• มิ.ย. – ธ.ค.: มีกระแสข่าวว่า สุชาติวิ่งเต้นล็อบบี้อดีตนายกฯ ซึ่งปัจจุบันยังมีอำนาจ เพื่อให้กดดัน “บิ๊กโจ๊ก” ถอนเรื่อง• 7 ธ.ค.: บิ๊กโจ๊กไม่ยอมถอนเรื่อง จึงเข้าเจรจากับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เพื่อหาทางออก และสุดท้าย บิ๊กโจ๊กถูกบีบให้ถอนเรื่องร้องเรียนสุชาติ• 23 ธ.ค.: นายวันมูหะมัดนอร์ ตีตกคำร้องของบิ๊กโจ๊ก ปี 2568 – สุชาติขึ้นเป็นประธาน ป.ป.ช. ท่ามกลางข้อครหา• 5 ก.พ.: สุชาติได้รับเลือกเป็นประธาน ป.ป.ช.• 11 ก.พ.: มีการ แฉคลิปเสียง ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น ดีลการเมืองระหว่างสุชาติและนายวันนอร์ ทำให้เกิดข้อกังขาอย่างหนักว่า กระบวนการคัดเลือกสุชาติอาจไม่โปร่งใส เก้าอี้ร้อน ประธาน ป.ป.ช. การขึ้นสู่ตำแหน่งของ…
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อ 44 ส.ส. พรรคประชาชน (อดีตพรรคก้าวไกล) กรณีร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยระบุว่าอาจเข้าข่าย “ความผิดจริยธรรมร้ายแรง” ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ป.ป.ช. ชี้แจงกระบวนการไต่สวนศาสตราจารย์ ดร.เมธี ครองแก้ว อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ได้วิเคราะห์สถานการณ์นี้ในบทความ “ป.ป.ช. กับอนาคตของ 44 ส.ส. พรรคประชาชน” ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปยัง ส.ส. ทั้ง 44 คน และให้แต่ละคนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งให้โอกาสในการชี้แจงและแก้ต่างภายใน 15 วัน ก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาว่าจะชี้มูลความผิดหรือไม่ “สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับกระบวนการของ ป.ป.ช. การพิจารณาในชั้นนี้ไม่ใช่ขั้นสุดท้าย หาก ป.ป.ช. เห็นว่ามีมูล จะส่งสำนวนไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งอาจนำไปสู่บทลงโทษที่รุนแรง เช่น การเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต” ศ.ดร.เมธี อธิบาย ข้อกังวลเรื่องความเป็นอิสระของ ป.ป.ช.ในบทความดังกล่าว ศ.ดร.เมธี ย้ำว่า การที่ ป.ป.ช. ตั้งข้อกล่าวหาในช่วงเวลานี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจมีแรงกดดันทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากพรรคประชาชนกำลังเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือนมีนาคม “นักวิเคราะห์การเมือง รวมถึงผู้นำพรรคฝ่ายค้าน หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การเร่งรัดตั้งข้อกล่าวหาอาจเป็นความพยายามสกัดกั้นพรรคประชาชน ไม่ให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขัดขวางการขยายตัวของพรรคในอนาคต” อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.เมธี ยืนยันว่า ป.ป.ช. มีอิสระและต้องดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย โดยไม่ได้รับอิทธิพลจากฝ่ายใด คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรมป.ป.ช. อ้างอิงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ของอดีตพรรคก้าวไกล เป็นการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และอาจเข้าข่ายการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สิ้นสุดและผูกพันทุกองค์กรของรัฐ รวมถึง ป.ป.ช. ซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดำเนินการกับ ส.ส. ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังใช้ “มาตรฐานจริยธรรมของนักการเมือง” พ.ศ. 2561 เป็นเกณฑ์พิจารณาคดี โดยมาตรฐานดังกล่าวระบุว่านักการเมืองต้องรักษาระบอบประชาธิปไตยและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่มีผลบังคับใช้มาแล้วในหลายคดีที่ผ่านมา คดีนี้กระทบภาพลักษณ์ไทยในระดับสากลศ.ดร.เมธี ยังกล่าวถึงผลกระทบที่กว้างขวางของคดีนี้ โดยเฉพาะในระดับนานาชาติ…
ผู้ใช้เฟซบุ๊ค Wasunan Phaochuad ได้โพสต์รูปภาพและข้อความเล่าเหตุการณ์ที่หลานสาวของตนที่อยู่ชั้น อนุบาล 3 ถูกเพื่อนชายและหญิงในโรงเรียนกลั่นแกล้ง โดยการช่วยกันดึงให้ไปอยู่ตรงพัดลม แล้วตั้งใจปล่อยมือให้ล้ม จนทำให้นิ้วน้องขาด และเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนได้มีการเจรจากับ ผปค. เด็กทั้งสอง แต่ปัดความรับผิดชอบอ้างว่าเด็กแค่เล่นกันเท่านั้น ให้ไปฟ้องเอา ในส่วนทางรร. อ้างว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ แต่เมื่อตนส่งหลักฐานค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลให้ ทางรร. กลับขอให้เป็นการผ่อนจ่าย ซึ่งยังไม่ได้มีการรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้นจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้โชคดีที่นิ้วของน้องสามารถต่อกลับมาได้ แต่ไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม นี่ไม่ใช่เพียงครั้งปแรกที่หลานสาวของตนถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง แต่ยังมีอีกหลายครั้งก่อนหน้า และตนได้มีการแจ้งครูประจำชั้นแล้ว แต่ก็ไม่มีการแก้ไขปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น แผลทางกายอาจรักษาให้หายได้ แต่แผลทางใจอาจทิ้งบาดแผลไว้ยาวนานยิ่งกว่า #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ข่าววันนี้#กลั่นแกล้ง#ทำร้ายร่างกาย#กลั่นแกล้งในโรงเรียน#บูลลี่
เป็นปฏิบัติการของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่บุกเข้าตรวจค้น 7 จุดทั้งโกดัง บ้านพัก ร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกในจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรสาคร พร้อมจับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นคนไทย 1 คนกับชาวกัมพูชาอีก 8 คน พร้อมด้วยของกลางกาแฟปลอมยี่ห้อดัง พร้อมครีมเทียม น้ำตาล และอุปกรณ์บรรจุกาแฟ สารปรุงแต่งชูรส พร้อมอุปกรณ์เพื่อทำผงชูรสปลอมยี่ห้อดังจำนวนมาก รวมของกลางทั้งสิ้น 563,598 ชิ้น ในความผิดฐาน “ปลอมเครื่องหมายการค้ามีไว้เพื่อจำหน่ายสินค้า แสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง ผลิตอาหารปลอม และ“เสนอจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ทั้งนี้สืบเนื่องจากการขยายผลถึงแหล่งที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าปลอม หลังผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ได้เคยสั่งซื้อสินค้าจากผู้ที่ลักลอบผลิตจำหน่ายสินค้าปลอมประเภทกาแฟและผงชูรส ก่อนสืบสวนหาแหล่งผลิตเพิ่มเติม กระทั่งทราบสถานที่เก็บสินค้าเพื่อจำหน่ายให้ร้านค้าส่ง และขายประชาชนทั่วไป จึงนำหมายค้นศาลเข้าทำการตรวจค้น 7 จุด พบของกลางผงปรุงรส และกาแฟยี่ห้อดัง และกระบวนการผลิตไม่ได้มาตรฐาน ไม่สะอาดถูกสุขลักษณะอนามัย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ทั้งนี้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากถึงประชาชนและร้านอาหารประกอบอาหารทั่วไป ให้เพิ่มความระมัดระวังในเลือกซื้อสินค้าที่ใช้ในการบริโภค ควรเลือกซื้อสินค้าจากแหล่งและยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย
ไซเบอร์บุกจับนักข่าวสถาบันทิศทางไทย: คุกคามสื่อ? หรือเด้งรับแรงเอาใจทักษิณ? วงการสื่อสะเทือน! ตำรวจไซเบอร์บุกจับนักข่าวจากสำนักข่าว The Critics ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันทิศทางไทย หลัง ทนายความของทักษิณ ชินวัตร เข้าแจ้งความว่าเธอเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท นี่คือการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็น การส่งสัญญาณเตือนนักข่าวที่กล้าท้าชนอำนาจ? ตำรวจไซเบอร์เด้งรับไว บุกถึงบ้านนักข่าวหลังทักษิณร้องเรียน เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์นับสิบรายบุกเข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.ไญยิกา ผู้ประกาศข่าวของ The Critics ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อที่มักวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและเครือข่ายอำนาจของนายทักษิณ การบุกจับครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก ทนายความของทักษิณเข้าแจ้งความ โดยอ้างว่าสำนักข่าวดังกล่าวเผยแพร่ข้อมูลที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ตำรวจไม่รอช้า รีบดำเนินคดีทันที น.ส.ไญยิกา เปิดเผยว่า “ตำรวจบุกมาตอนเช้า ไม่มีหมายจับ แต่มีหมายค้น เอาโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ทุกอย่างไปหมด” และตั้งคำถามว่า “นี่คือการบังคับใช้กฎหมายปกติ หรือเป็นการปิดปากนักข่าว?” ทำไมคดีนี้ตำรวจทำงานเร็ว? แต่กับคดีอื่น ๆ กลับเงียบกริบ? ย้อนรอย “ไซเบอร์บุกจับ” แอดมินเพจล้อเลียนทักษิณ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตำรวจไซเบอร์ “เอาจริงเอาจัง” กับคดีที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ เพียงเดือนที่แล้ว ตำรวจไซเบอร์เพิ่งจับกุม แอดมินเพจ “ลมเปลี่ยนทิศ” ในข้อหาตัดต่อภาพล้อเลียนทักษิณและบุคคลทางการเมืองอื่น ๆ โดยกล่าวหาว่า ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเสื่อมเสียชื่อเสียง นี่ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า ตำรวจไซเบอร์กำลังทำงานเพื่อรักษากฎหมาย หรือกำลังปกป้องบุคคลบางกลุ่ม? เมื่อไซเบอร์กลายเป็นเครื่องมืออำนาจรัฐ? ตำรวจไซเบอร์ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี การหลอกลวงออนไลน์ และภัยไซเบอร์ที่ส่งผลต่อประชาชน แต่ในช่วงหลัง กลายเป็นเครื่องมือปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง? ทำไมตำรวจไม่เร่งจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกเงินออนไลน์ หรือเว็บพนัน? แต่กลับให้ความสำคัญกับ การจับกุมคนที่ตัดต่อภาพ-เผยแพร่ข้อมูลวิจารณ์ทักษิณ ย้อนรอย “ทักษิณ” กับคดีแทรกแซงสื่อ: ซื้อง่าย-คุมสบาย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทักษิณถูกกล่าวหาว่า พยายามควบคุมสื่อ ย้อนกลับไปช่วงที่เขาเป็นนายกฯ มีข่าวลือสะพัดเรื่องการแทรกแซงและเข้าซื้อกิจการสื่อ เพื่อควบคุมการรายงานข่าว ไม่ว่าจะเป็น• แทรกซื้อหุ้นสถานีโทรทัศน์ไอทีวี (ITV) เพื่อควบคุมเนื้อหา• แทรกซีมการเมืองเข้าไปกดดันบรรณาธิการให้เปลี่ยนแนวทางข่าว มีรายงานว่ามีการสั่งยกเลิกการวิเคราะห์ข่าวที่พาดพิงนายทักษิณ• แทรกแซงรายการดังที่วิจารณ์ตัวเองจนหลายรายการหายไปจากหน้าจอ เช่น มีการสั่งถอดรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองที่เปรียบเทียบฟอร์มระหว่างนายทักษิณกับนายชวน หลีกภัย และ ถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ของ สนธิ ลิ้มทองกุล…
การพนันออนไลน์กำลังจะ “ถูกกฎหมาย” แล้ว! เล่นได้สบาย ๆ แทงได้ทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องหลบซ่อน รัฐบาลพร้อมเปิดไฟเขียวให้พนันบัญชี ข. เข้าสู่ระบบออนไลน์ภายใต้ข้ออ้าง “ควบคุมได้-สร้างรายได้เข้าประเทศ” โดยเตรียมที่จะชงเข้าครม. 25 ก.พ.นี้ แต่คำถามคือ ผลกระทบที่ตามมาใครรับผิดชอบ? “แทงได้ทุกที่ ทุกเวลา” ไม่ต้องรอเจ้ามือ เมื่อกฎหมายผ่าน “นักเสี่ยงโชค” สามารถเข้าเล่นพนันได้ ทุกที่ทุกเวลา 24 ชั่วโมง แบบไม่ต้องรอรอบ ไม่ต้องไปถึงบ่อน มือถือเครื่องเดียว แทงได้หมด ตั้งแต่ หวย ไพ่ สล็อต พนันไก่ แข่งม้า หรือแม้แต่ พนันฟุตบอลแบบเรียลไทม์ เปิดรายชื่อการพนันที่สามารถเล่นออนไลน์ได้ตามบัญชี ข. หวยออนไลน์• หวยไทย (สลากกินแบ่งรัฐบาล) แทงกันทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน• หวยใต้ดิน รัฐบาลจะคุมได้จริงไหม?• หวยปิงปอง (จับยี่กี) ออกผลทุก 15 นาที• หวยลาว เล่นกันทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์• หวยฮานอย แทงได้ ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด• หวยหุ้น แทงกันทั้งเช้า บ่าย เย็น ไพ่ทุกประเภท• ป๊อกเด้ง เสือมังกร แบล็คแจ็ค เปิดโต๊ะได้หมด• ปั่นแปะออนไลน์ เสี่ยงดวงง่าย ๆ แต่เสียเงินเร็ว พนันกีฬา & แข่งขันสัตว์• พนันบอล บาส สนุกเกอร์ แข่งรถ แข่งม้า• ไก่ชน โคชน กัดปลา ชกมวย เกมพนันออนไลน์• สล็อต รูเล็ต ไฮโล น้ำเต้าปูปลา เดิมพันได้ตลอดวัน แต่ปัญหาสังคมก็ไม่หยุดเช่นกัน พนันถูกกฎหมาย = คนติดพนันพุ่ง 1 ล้านคน? “เปิดให้ถูกกฎหมาย…
