Browsing: News

หากต้องการเตรียมความพร้อมสำหรับการเกษียณอายุ ควรเริ่มส่งเงินสมทบตั้งแต่ตอนยังทำงาน เพื่อสะสมเงินออมสำหรับการใช้จ่ายหลังเกษียณ และยังได้รับสิทธิประโยชน์จากการประกันสังคมในรูปแบบของเงินบำนาญ/บำเหน็จตามที่กำหนด มาดูกันว่าเงินออมชราภาพ สะสมจากส่งเงินสมทบทุกเดือนได้เท่าไหร่กันบ้าง? หลังได้รับอนุมัติ เงินเข้าวันไหน? เงินบำเหน็จชราภาพ ได้รับภายใน 7-10 วันทำการ เงินบำนาญชราภาพ ได้รับภายในวันที่ 25 ของเดือนถัดไป ม.ค. 68 เงินเดือนบำนาญชราภาพ “ประกันสังคม” ได้รับวันที่ 25 ม.ค. 68 เงื่อนไขของผู้ที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพ? ผู้ประกันตนมีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ ความเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 หรือ 39 สิ้นสุดลงตามเงื่อนไข ต้องดำเนินการขอคืนเงินชราภาพ ประกันสังคม ภายในระยะเวลา 1 ปี หลังสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 หากเข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไข เลือกรับ “เงินบำเหน็จ-บำนาญ” ดังนี้ ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน จะได้รับ “เงินบำเหน็จ” ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือน (15ปี ) ขึ้นไป จะได้รับ “เงินบำนาญ” ที่ประกันสังคมจ่ายให้เป็นรายเดือนตลอดชีวิต วิธีคำนวณเงินบำนาญชราภาพ ได้เท่าไหร่? ระยะเวลาที่ส่งเงินสบทบ 15-20 ปี เงินบำนาญที่จะได้รับ คำนวณจากร้อยละของค่าจ้าง เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 20.00-27.50% หรือเท่ากับ 3,000-4,125 บาท/เดือน ระยะเวลาที่ส่งเงินสบทบ 21-25 ปี เงินบำนาญที่จะได้รับ คำนวณจากร้อยละของค่าจ้าง เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 29.00-35.00% หรือเท่ากับ 4,350-5,250 บาท/เดือน ระยะเวลาที่ส่งเงินสบทบ 26-30 ปี เงินบำนาญที่จะได้รับ คำนวณจากร้อยละของค่าจ้าง เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย 36.50-42.50% หรือเท่ากับ 5,475-6,375…

สุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติ โพสต์ข้อความบน X ระบุว่า “ลี รัตนรัศมี” หรือชื่อไทย “สมหวัง บำรุงกิจ” ที่ถูกออหมายจับฐานจ้างให้จ่าเอ็ม ยิง ลิม กิมยา อดีตสส.ฝ่ายค้านกัมพูชา จนเสียชีวิตในประเทศไทย มีอีกสถานะคือเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา สำหรับ “สมหวัง” ถูกออกหมายจับในสามข้อหา คือ เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไม่ว่าด้วยการใช้บังคับ ขู่เข็ญ จ้าง วาน หรือยุยง ส่งเสริมหรือด้วยวิธีอื่นใด, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง การเสียชีวิตของ “ลิม กิมยา” ย่านบางลำพู เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 แม้ตร.จะจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว มีคำตอบในทางคดีให้สาธารณะได้รับทราบ แต่ประเด็นที่ยังเป็นข้อกังขาคือ การจบชีวิตของนักการเมืองอาวุโสกัมพูชา มีผู้มีอำนาจในกัมพูชาพัวพันด้วยหรือไม่ ซึ่งตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา มีนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของกัมพูชามากกว่า 100 คน ถูกดำเนินคดีฐานต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งช่วงปลายปี 67 ทางการไทยส่ง 6 นักเคลื่อนไหวกลับกัมพูชา จนถูกวิจารณ์อย่างหนักจาก สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSCR และนานาชาติ ขณะที่คดี “ลิม กิมยา” ก็ถูกจับตาถึงสายสัมพันธ์ระหว่างฮุนเซนกับทักษิณ ชินวัตร ที่มีความพยายามจะเจรจาผลประโยชน์ทางทะเลไทย-กัมพูชา โดย “ลิม กิมยา” เป็นบุคคลที่มีบทบาทในการต่อต้านเรื่อง MOU 44 และเกาะกูด ในกัมพูชาด้วย

สำนักข่าวซินหัว รายงานถึงวินาทีที่ ยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถูกจับกุมตัวที่บ้านพักประธานาธิบดี และกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศนี้ที่ถูกควบคุมตัวระหว่างดำรงตำแหน่ง เนื่องจากกรณีประกาศกฎอัยการศึกทำให้เกิดวิกฤตการเมืองในเกาหลีใต้ก่อนหน้านี้ โดยหน่วยสอบสวนร่วม จากสำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง สำนักงานสอบสวนแห่งชาติ และสำนักงานใหญ่การสอบสวนของกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ยุนถูกจับกุมตอน 10.33 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ มีภาพขบวนรถที่ยุนนั่งโดยสารเคลื่อนออกจากบ้านพักประธานาธิบดีในใจกลางกรุงโซล เพื่อนำตัวไปสอบปากคำ ที่สำนักงานของสำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงในเมืองกวาชอน ก่อนคุมขังที่ศูนย์กักกันกรุงโซลในเมืองอึยวัง สำนักงานสอบสวนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงจะต้องตัดสินใจภายใน 48 ชั่วโมงว่าจะยื่นขอหมายจับอีกฉบับเพื่อควบคุมตัวยุนไว้นานสูงสุด 20 วัน สำหรับการสอบปากคำเพิ่มเติม หรือจะปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ แฟ้มภาพซินหัว :จนท.ตำรวจเกาหลีใต้ บริเวณใกล้บ้านพัก ปธน.ในกรุงโซล (15 ม.ค. 2568) ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ยุนซอกยอล #ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/

กัปตันเนิร์ดเตือนภัย อีเมลหลอกลวงแอบอ้างชื่อ Law Firm และทนายความปลอมแปลงไฟล์ PDF เป็นลิงก์หวังหลอก ขโมยข้อมูลผู้ใช้งาน ย้ำ คนทำคอนเทนต์ต้องระวัง (15 ม.ค. 68) กัปตันเนิร์ด อินฟลูเอนเซอร์ และ YouTuber ชื่อดัง ออกมาทวีตข้อความผ่าน X เตือนภัย อีเมลหลอกลวงที่แอบอ้างว่าตนเองละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของค่าย LOVEiS โดยอีเมลดังกล่าว ใช้ชื่อ Law Firm และ ทนายความ ที่มีตัวตนอยู่จริง ทำให้ดูน่าเชื่อถือ แต่กลับใช้ อีเมลแอดเดรสส่วนตัวในการส่ง (horskabelmotz1983@gmail.com) นอกจากนี้ ยังมีการแนบไฟล์ PDF ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นลิงก์ปลอมที่อาจแฝงมัลแวร์เพื่อขโมยข้อมูล กัปตันเนิร์ดซึ่งเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ และมีความรู้ด้านกฎหมาย ระบุว่า ตนเองไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่อีเมลลักษณะนี้ อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์หลายคนตกใจและหลงเชื่อได้ง่าย จึงอยากเตือนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเปิดอ่านอีเมล และ ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ “คนทำคอนเทนต์จะกลัวเรื่องลิขสิทธิ์อยู่แล้ว แต่เผอิญผมรู้กฎหมายนิดหน่อย เลยรู้ว่าผมไม่ได้ไปละเมิดอะไรใคร ถ้าเจออีเมลแปลก ๆ ไม่เขียนรายละเอียด ล่อให้กด PDF ก็ระวังนะครับ อาจจะเป็น PDF ปลอมแบบอีเมลนี้ก็ได้” กัปตันเนิร์ด ระบุ

ป.ป.ช. จัดประชุม พิจารณากลั่นกรองโครงการ และ งบประมาณ ประจำปี 2569 ภายใต้แผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมกับ 49 หน่วยงาน หวัง ป้องกัน-ปราบปราม การทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลักแผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ได้จัดการประชุมพิจารณากลั่นกรองโครงการ/กิจกรรม และงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ณ ห้องนนทบุรี 1 สำนักงาน ป.ป.ช. จ.นนทบุรี และผ่านระบบ Webex Meeting โดยมีผู้แทนจาก 49 หน่วยงาน เข้าร่วม นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นางสาวลลิตา โภชนพันธ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นางวาธินี สุริยวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ และ สํานักงาน ก.พ.ร. ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา หลักเกณฑ์การกลั่นกรองโครงการ และ งบประมาณ รวมถึง ข้อเสนอโครงการ ที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณ จากหน่วยงานต่างๆ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 จำนวน 12 หน่วยงาน และ กลุ่มที่ 2 จำนวน 37 หน่วยงาน โครงการที่ผ่านการพิจารณา จะถูกนำเสนอต่อ คณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 23 มกราคม 2568 ก่อนส่งสำนักงบประมาณต่อไป

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมผู้บริหารกระทรวงแรงงานบินด่วนไป ประเทศอิสราเอล เพื่อหารือกับนาย อาวิ ดิคเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร โดยได้เข้าเยี่ยมชมฟาร์ม Leafresh ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และพบตัวแทนแรงงานไทย 15 คน ที่ได้เรียนรู้การเกษตรอัจฉริยะ เป็นการผลิตและจำหน่ายผักสดสุขภาพ และเยี่ยมชมฟาร์ม Agrivoltaics เกษตรพลังงานสีเขียวในทุ่งหญ้าโดรัล ที่ทำนวัตกรรมเกษตรขั้นสูง และพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งนี้ ระหว่างหารือทางอิสราเอล แจ้งว่าโควตาการจ้างแรงงานไทยในภาคเกษตรเข้ามาทำงานในรัฐอิสราเอลในปี 2568 เพิ่มอีก 13,000 อัตรา ขณะที่ฝ่ายไทยก็บอกมีความพร้อมจัดส่งแรงงานไทยมาทำงานในภาคเกษตรในรัฐอิสราเอลเช่นกัน และขอให้แยกความต้องการแรงงานเป็นกลุ่มนายจ้างภาคเกษตร และภาคปศุสัตว์ เพื่อจัดส่งคนงานได้ตรงความต้องการของนายจ้าง และแรงงานไทยได้ทำงานตรงกับความสามารถ และทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งฝ่ายอิสราเอลเห็นด้วยและพร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ PIBA ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักช่วยดำเนินการ สำหรับตัวประกันคนไทยที่ถูกจับกุมไปเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 และยังไม่ได้รับการปล่อยตัว 6 คน นายพิพัฒน์ ขอให้ฝ่ายอิสราเอลทราบว่ารัฐบาลไทยมีความห่วงใย และขอให้ทางการอิสราเอลติดตาม ดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย รวมถึงกรณีแรงงานไทยที่เสียชีวิตขณะทำงานอยู่ในเขตเมตุลา ทางภาคเหนือของอิสราเอล เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ขอให้ติดตามสิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับแรงงานที่เสียชีวิตจากภัยสงคราม

อดีต ส.ว. สมชาย แสวงการ ชี้ 4 ชาติอาเซียน “เมียนมา-ลาว-กัมพูชา-ฟิลิปปินส์” ติดกับดักความยากจน แม้มี กาสิโน หรูหรา แต่ เม็ดเงิน กลับตกอยู่กับ กลุ่มทุน-นักการเมือง เตือน รัฐบาลไทย อย่าเดินซ้ำรอย หวั่น “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ฉุดประเทศ ตกหล่มยากจน (15 ม.ค. 68) นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความกังวลต่อนโยบายการเปิด “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ของรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศไทย โดยยกตัวอย่าง 4 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ ซึ่งมี อัตราความยากจนสูง แม้จะมี กาสิโนขนาดใหญ่ และ เม็ดเงินลงทุน จำนวนมาก นายสมชาย ระบุว่า “นโยบายกาสิโน” ใน 4 ประเทศข้างต้น ล้มเหลว ในการแก้ปัญหาความยากจน เนื่องจาก ผลประโยชน์ตกอยู่กับ กลุ่มทุน มาเฟีย และนักการเมือง ขณะที่ประชาชนกลับยากจนลง บางประเทศถึงขั้น ใกล้ล้มละลาย “รัฐบาลแต่ละประเทศล้วนอ้างว่า จะได้ประโยชน์จากการลงทุน มีเม็ดเงินเข้าประเทศ เก็บภาษีดูแลประชาชน แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นความจริง” นายสมชาย กล่าว อดีต ส.ว. ยังระบุอีกว่า ในปี 2567 ประเทศไทยมี สถิติคนยากจนต่ำที่สุด อันดับต้นๆ ในอาเซียน เพียง 0.5% แต่หากรัฐบาลยังคงเดินหน้า นโยบายบ่อนกาสิโน ซ่อนรูปภายใต้ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ในอนาคต ประเทศไทยอาจ ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน กับ 4 ประเทศเพื่อนบ้านนายสมชาย ทิ้งท้ายด้วยการเรียกร้องให้ประชาชน ร่วมคัดค้านนโยบาย ดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทย ตกเป็นเหยื่อของ “นักโกงเมือง”

สืบนครบาล บู๊ร่วม ปส.-ทางหลวง-สภ.องครักษ์ สกัดจับ เอเย่นต์ยาเสพติด ตัวการคดียาบ้าล้านเม็ด มี 4 หมายจับ หนีคดีไปเพื่อนบ้าน เพิ่งกลับไทย ขับรถพุ่งชนตำรวจ-ประชาชน สุดท้ายจนมุมนครนายก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวการจับกุม นายธวรรณชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมาย ในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแยกองครักษ์ ต.องครักษ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ บช.ปส. ตำรวจทางหลวงปราจีนบุรี และ สภ.องครักษ์ ได้สืบสวนขยายผลจากคดียาบ้าล้านเม็ด ที่จับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด ที่ซอยสุขสวัสดิ์ 47 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จนทราบว่า นายธวรรณชัย เป็นเจ้าของยาเสพติด และเป็นผู้สั่งการ หลังเกิดเหตุ นายธวรรณชัย ได้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งช่วงหลังปีใหม่ 2568 ได้แอบลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามจับกุมตัว ขณะขับรถอยู่ที่ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่ นายธวรรณชัย ได้ขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่ และประชาชนเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงสกัดที่ยางรถยนต์ อย่างไรก็ตาม นายธวรรณชัย ยังคงพยายามหลบหนี โดยขึ้นรถแท็กซี่ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครนายก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไล่ติดตาม จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “ผู้ต้องหารายนี้เป็นตัวการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ขอเตือนว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะจะทำให้ชีวิตต้องหลบหนี และส่งผลกระทบต่อครอบครัว”

(15 ม.ค. 68) Krungthai COMPASS เปิดเผยรายงาน “Upcycling Foods : ทางรอด Food Loss สู่โอกาสธุรกิจ” โดยระบุว่า ปัญหา Food Loss and Food Waste หรือ อาหารสูญเสีย เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก โดยในแต่ละปีมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั้งหมด ซึ่งก่อให้เกิด ก๊าซเรือนกระจก ในปริมาณมหาศาล คิดเป็น 6-10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน “Upcycling Foods” หรือ การนำอาหารสูญเสียมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะ Mycoprotein โปรตีนทางเลือกจากเชื้อรา ซึ่งมี ศักยภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจKrungthai COMPASS ประเมินว่า การนำ Food Loss and Food Waste มาผลิต Mycoprotein จะช่วยให้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร มี อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 26% จากเดิมที่อยู่ที่ราว 7% นอกจากนี้ หากไทยสามารถนำ Food Loss and Food Waste มาใช้ในการผลิต Mycoprotein ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จะช่วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 5.2% ทั้งนี้ Krungthai COMPASS แนะนำว่า ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาด Mycoprotein ควร สร้างการรับรู้ เกี่ยวกับประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ และ สร้างความเชื่อมั่น ให้แก่ผู้บริโภค รวมถึง พัฒนาระบบการจัดการ Food Loss and Food Wasteให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ภาครัฐควร สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา…

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์จวกรัฐบาลเดือด หลังมีประเด็นที่ ครม. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ซึ่งจะมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย โดย ผศ.ดร.อานนท์ ระบุข้อความว่า “ผู้ปกครองที่ชั่วแสนชั่วที่สุดเท่านั้นจึงสนับสนุนให้ประชาชนหลงใหลในอบายมุขคือการพนัน พระปิยมหาราชและพระมหาธีรราชเจ้า ทรงเลิกบ่อนเบี้ยและหวย กข. แม้จะทำให้สูญเสียรายได้มากแค่ไหนก็ตาม พวกนักการเมือง XXX ๆ มันไม่ได้คิดอะไรเลย นอกจากมอมเมาประชาชน หาเงินเข้ากระเป๋า” ซึ่งจากการที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าผลักดันพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) อันมีกาสิโนเป็นส่วนประกอบหลักเข้าสู่รัฐสภา กฎหมายนี้จะเปิดช่องให้เปิดกาสิโนได้อย่างเสรี และก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมทั้งปัญหาอาชญากรรม การฟอกเงิน การทุจริตคอร์รัปชัน การประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ฯลฯ และหากคุณไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย สามารถลงชื่อแสดงจุดยืนว่า “เราไม่เอากาสิโน” ได้ที่ https://forms.gle/PBBBYki6Lbcb4HZh9. ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่https://thepublisherth.com/