- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Browsing: News
โดยช่อง 7HD ออกประกาศหลังมีข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอ้างอิงถึง ผู้บริหาร/อดีตผู้บริหารช่อง 7HD ร่วมเป็นแม่ข่ายชักจูงผู้อื่นทำธุรกิจที่ตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น ขอเรียนแจ้งว่า บุคคลตามที่มีการอ้างอิงถึงดังกล่าว ได้ลาออกจากการเป็นพนักงานของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2565 ทั้งนี้ การดำเนินการใด ๆ ของบุคคลดังกล่าว เป็นการกระทำส่วนบุคคล ซึ่งช่อง 7HD ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส TDRI เปิดเผยกับ The Publisher ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25 % ต่อปี เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปีของ กนง. ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงจาก 2.50 % ต่อปี เหลือ 2.25 % ต่อปีทันที ว่า จะเป็นการเหยียบคันเร่งช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ดีขึ้น ส่งสัญญาญาณให้ธนาครลดดอกเบี้ยตาม เกิดประโยชน์กับภาคธุรกิจ ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงิน ขยายกิจการลดลง มีแนวโน้มการลงทุนมากขึ้น อีกขาเป็นเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยสัญญาใหม่ ในส่วนหนี้ครัวเรือนถ้าปรับโครงสร้างแก้ไขสัญญาหนี้จะได้อัตราลดลง ช่วยเติมเงิน ลดภาระดอกเบี้ยให้กับผู้บริโภค ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น แม้ไม่มากเท่าสหรัฐที่ลดเยอะ แต่ถามว่ามีประโยชน์หรือไม่ก็มีประโยชน์ เพราะระดับหนี้ครัวเรือนแม้สัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีจะลดลง แต่เป็นการลดทางเทคนิค คือประชาชนไม่ได้มีเงินมากขึ้นแต่แบงก์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ การลดดอกเบี้ยทำให้ภาระดอกเบี้ย ปชช.ลดลง จะช่วยทำให้เกิดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น “กนง.เห็นภาพระยะสั้น ยาว คุยกับภาครัฐเห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นระดับหนึ่ง เพราะเศรษฐกิจเปราะบางจนแบงก์ชาติเห็นด้วยต้องอัดฉีดสภาพคล่อง ซึ่งไม่ใช่ตามภาครัฐแต่เป็นการตามสถานการณ์ต่างประเทศที่ลดไปก่อนแล้ว ท่าทีที่มีลักษณะประนีประนอมระหว่างกันมากขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือแบงก์ชาติต่างก็อยากขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพทั้งการเงินและการคลัง ถ้าหาข้อตกลงได้ เดินนโยบายสอดประสานไม่ขัดแย้งกันก็จะทำให้การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเป็นไปได้ดีมากขึ้น”
หลังทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เคลื่อนไหวยื่นหนังสือถึง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้จับสมาชิกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ปทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกจับตาว่าเสียงคล้ายกับที่ปรากฏในบทสนทนา เจ้าตัวยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิด และยังไม่มีใครระบุว่าในคลิปเสียงดังกล่าวคือตนเอง แต่จนถึงขณะนี้เรื่องยังไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง จึงไม่ต้องชี้แจงอะไร โดยให้ทนายความพิจารณาว่าใครหมิ่นประมาทให้ดำเนินการตามกฎหมาย
หลังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ส่งหมายเรียกให้นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัดมาให้ปากคำ และชี้แจงเพิ่มเติมการทำธุรกิจของบริษัท แต่ปรากฎว่าถึงเวลา 10 นาฬิกาทนายความได้ประสานจะส่งผู้รับมอบอำนาจแทนในช่วงบ่าย หรือให้บอสพอลเลื่อนให้ปากคำ 15 วันแต่ทาง สคบ.ไม่อนุญาต และเมื่อเลยเวลานัดตามหมายเรียก สคบ.จึงทำเรื่องส่งดำเนินคดีฐานขัดหมายเรียก ซึ่งมีโทษถึงขั้นจำคุก 1 เดือน หรือปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่พรุ่งนี้เป็นคิวของ กันต์ กันตถาวร, มิน พีชญา, แซม ยุรนันท์ ทีมบอสดารา ดิไอคอนกรุ๊ปนั้น ทาง สคบ.บอกกรณีนี้เป็นเพียงแค่หนังสือเชิญมาให้ปากคำเท่านั้น ไม่ใช่หมายเรียกแบบบอสพอลแต่อย่างใด
ชื่อที่โผล่ขึ้นมาติดอันดับการค้นหาตั้งแต่เช้าวันนี้ เพราะคำว่า “ขยันถูกที่ปีเดียวรวย” เป็นชื่อหนังสือเกี่ยวกับตัวเขาถูกพูดถึงในโลกโซเชียล โดยในหนังสือโปรยไว้ว่า “อดีตยากจน…ปัจจุบันจนยาก” ซึ่งมี 9 เรื่องที่โรงเรียนไม่เคยสอน แต่ทำให้ผมรวย 500 ล้าน “ธเนตร” เป็นนักธุรกิจพันล้าน และเป็นอดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในปี 2565 อีกด้วย โดยตอนนั้นเขาตั้งใจเป็นทางเลือกใหม่ให้คนกรุงเทพฯ ลงสมัครในนามอิสระ อาสาแก้ปัญหารถติด ทำเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และอยากให้คนกรุงเทพมีรอยยิ้มแห่งความสุข และส่งต่อความสำเร็จให้กับคนกรุงเทพ ธเนตรเคยบอกว่าหวังให้หนังสือเล่มนี้ช่วยผู้คนให้พบกับความสำเร็จ มีความร่ำรวย มีชีวิตแบบที่อยากเป็นได้พบกับความสุขความต้องการที่แท้จริง โดยตัวเขาบอกว่าได้เปลี่ยนชีวิตของตัวเองแบบสุดขั้วจากอดีต ยากจน เป็น จนยาก จากเป็นลูกคนที่ 3 ในบรรดาพี่น้อง 8 คน มีฐานะยากจน พ่อแม่หย่าร้าง แม่ต้องเลี้ยงลูกหลายคน อาศัยที่ดินวัดคริสต์เป็นที่พักพิงหลับนอน สัมผัสได้เป็นประจำคือความหิว หลายครั้งมีเพียงข้าวเปล่า ๆ เป็นอาหารต้องเติมน้ำและน้ำตาลเพื่อให้มีรสชาติแล้วแบ่งกันกินประทังชีวิต ทำงานทุกอย่างที่เป็นรายได้ เช่นตัดอ้อย กรรมการก่อสร้าง ขายเรียงเบอร์ ฯลฯ อะไรไม่ผิดกฎหมายและได้เงินทำทั้งนั้นตอนนี้มีธุรกิจมีรายได้ 185 บาท/นาที มีบ้านหลังใหญ่ มีรถยุโรปหลายคัน เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก มีภรรยาเป็นดารา ประสบความสำเร็จมีความสุขมาก
ไม่มีผิดหวังและสมดั่งการรอคอยจริง ๆ สำหรับโชว์สุดแซ่บจากนักร้องสาวชื่อดังระดับโลกอย่าง “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล ซึ่งนับว่าเป็นศิลปินคนไทยคนแรกที่มีโอกาสได้ร่วมแสดงบนเวทีแฟชั่นโชว์กับทาง “Victoria’s Secret” แบรนด์ชุดชั้นในและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงในตำนาน จนเวทีนางฟ้าวิคตอเรียแทบลุกเป็นไฟ ซึ่งการแสดงของสาวลิซ่าในครั้งนี้นอกจากเธอจะเป็นศิลปินชาวเอเชียคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงแล้ว ยังถือว่าเป็นการกลับมาในรอบ 6 ปีของแบรนด์อีกด้วย และนอกจากจะได้เห็นชุดชั้นในดีไซน์สวย ๆ พร้อมกับโชว์สุดอลังการตาแล้ว เรายังจะได้เห็นนางแบบระดับตัวท็อปของวงการในดวงใจของหลาย ๆ คนได้กลับมาติดปีกนางฟ้าเฉิดฉายบนเวทีอีกครั้งอีกด้วย โดยเวที “Victoria’s Secret 2024” ครั้งนี้ เปิดการแสดงด้วยศิลปินหญิงชาวไทยที่มาแรงไม่แพ้ใครอย่าง “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ที่ปรากฏตัวบนบิ๊กไบค์คันใหญ่พร้อมลุคไบเกอร์สาวสุดเปรี้ยว มาในเพลง ROCKSTAR สาดความเซ็กซี่ขยี้ใจที่ใครเห็นเป็นต้องตกตะลึง เพอร์ฟอร์มการแสดงแบบจัดเต็มท่ามกลางแดนเซอร์มากฝีมือ เป็นซีนเปิดโชว์ที่ปลุกเวทีระดับตำนานจนแทบลุกเป็นไฟ ก่อนปล่อยจะลาเวทีไป แล้วปล่อยให้นางแบบได้เฉิดฉายท่ามกลางชุดชั้นในที่เต็มไปด้วยลาดลายสุดเซ็กซี่ ซึ่งนอกจากสาวลิซ่าแล้ว ก็ยังมี ‘Cher’ (แชร์) นักร้องหญิงระดับตำนาน แฟชั่นไอคอนคนสำคัญสร้างบรรทัดฐานด้านการแต่งตัวให้กับวงการเพลง จากนั้นต่อด้วยโชว์ของนักร้องสาวสุดเซ็กซี่แห่งยุคอย่าง ‘Tyla’ (ไทล่า) เจ้าของเพลงดังอย่าง “Water”ก่อนที่สาวลิซ่าของเราจะกลับมาขึ้นโชว์อีกครั้งในลุคลูกไม้สีดำสุดเซ็กซี่ พร้อมกับโชว์สกิลร้องเพลงเสียงหวาน ๆ อย่าง MOONLIT FLOOR ซึ่งบอกได้คำเดียวเลยว่า งานนี้สาวลิซ่าของเราชีกินเรียบ เป็นการเจิมโชว์บนรันเวย์ Victoria’s Secret ครั้งแรกของเธอได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว จนล่าสุด แฮชแท็ก #LISAxVictoriasSecret ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 บนโลกทวิตเตอร์ (X) เป็นที่เรียบร้อย.🎥 สามารถชม Victoria’s Secret Fashion Show 2024 : https://shorturl.asia/4pPLT
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เล็งสอบเพิ่มกรณีมีคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์จากบอสพอล ดิไอคอนกรุ๊ป หลังตำรวจ บก.ปปป.ได้คลิปเสียงและส่งคลิปเสียงให้พิสูจน์หลักฐานไปดำเนินการตรวจอย่างละเอียดว่าเป็นเสียงพูดคุยจริงๆ หรือเสียงสังเคราะห์ AI เลียนเสียงคนอื่น หรือเป็นเสียงตัดต่อ รวมถึงรวบรวมข้อมูลตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของคลิปเสียง ทั้งนี้ เตรียมเรียกบอสพอลมาให้ปากคำด้วย เนื่องจากอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย และหากสามารถรู้ตัวเจ้าของคลิปเสียง ก็อาจจะเชิญมาให้ปากคำ แต่ตอนนี้ขอไม่ยืนยันว่าใครเป็นเจ้าของคลิปเสียง ต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานว่าเสียงมนุษย์คุยจริง ๆ หรือเสียงสังเคราะห์ AI และตัดต่อเสียงหรือไม่ ส่วนกรณีที่บอสพอลยอมรับว่า คลิปเสียงที่หลุดออกมานั้นเป็นของจริง เป็นการยอมรับแล้วว่าคลิปเสียงเป็นของจริงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกเรื่องนี้จึงต้องเชิญมาพูดคุยกับ บก.ปปป.ว่า ประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ โดยเริ่มจากการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการก่อน พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกด้วยว่าในคลิปเสียงพูดถึงองค์กรเทวดา ที่สามารถช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจดังกล่าวได้ แต่ต้องบูชาเซ่นไหว้เทวดาว่าเป็นเพียงเปรียบเปรยของมนุษย์ที่ทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ และถ้าเจ้าหน้าที่เป็นเทวดาดังกล่าว ตำรวจก็ไม่กลัว จะไปบวงสรวงเพื่อจับกุมมาดำเนินคดี โดยไม่มีข้อยกเว้น
เป็นความคืบหน้ากรณีการติดตามตัว พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ผู้ต้องหาคดีสลายการชุมนุมตากใบ ที่ศาลนราธิวาสออกหมายจับ หลังเจ้าตัวยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย และมีผลให้ขาดสมาชิกภาพการเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยไปด้วย เรื่องนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกได้รับจดหมายลาออกแล้ว จากนี้ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วให้เป็นไปตามกระบวนการ นายกฯ แพทองธาร ยังให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อธิบายเพิ่มเติมว่าหลังสั่งการตำรวจแล้ว ได้ไปตรวจสอบที่บ้าน พล.อ.พิศาล และแจ้งอินเตอร์โพลเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่มีรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลเรื่องนี้ดำเนินการต่อตามที่นายกฯ สั่งการ แต่ตอนนี้อยู่ที่ไหนยังไม่ทราบ นางสาวแพทองธารกล่าวเสริมด้วยว่า ตอนนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ช่วยดูว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่ยืนยันรัฐบาลจะกดดันให้ พล.อ.พิศาลกลับมาสู้คดี ส่วนที่มีข่าวว่าอาจอยู่ที่ญี่ปุ่นนั้น นายกฯ บอกได้แจ้งอินเตอร์โพลเรียบร้อยแล้ว
โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับเพิ่งรู้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ที่ถูกออกหมายจับคดีตากใบ ลาออกจากสมาชิกพรรคแล้ว ส่วนพรรคจะดำเนินการอย่างไรนั้น นายกฯ บอกต้องขอรอการประชุมพรรคเย็นวันนี้ก่อน ทั้งนี้ การลาออกจากสมาชิกพรรคส่งผลให้ พลขาดสมาชิกภาพการเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยตามไปด้วย ก่อนหน้านี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่งถึงหัวหน้าพรรค สาระสำคัญคือหลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาอาการป่วย และพักฟื้น แต่เมื่อเรื่องถูกดำเนินคดีนำไปขยายความขัดแย้งในสังคม และผูกโยงเพื่อให้มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเห็นว่าเพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบ จึงขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย และขาดจากเป็น สส.เพื่อไม่ให้ภาระต่อสภาผู้แทนราษฎร
เพจเฟซบุ๊ก ‘ษิทรา เบี้ยบังเกิด’ หรือทนายตั้ม โพสต์ภาพเหล่าทนายความ และผู้เคลื่อนไหวช่วยเหลือผู้เสียหายมารวมตัวกันที่หน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นสถานที่รับแจ้งความของผู้เสียหายกรณี ดิไอคอนกรุ๊ป เพื่อรับหน้าที่ช่วยเหลือผู้เสียหาย พร้อมแจ้งความดำเนินคดีบอสทุกคนในความผิดตาม พรก.การกู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานฟอกเงิน ในภาพมีทั้งตัวทนายตั้มเอง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายแก้ว มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ,สายไหมต้องรอด,มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ,ทนายรัชพล ศิริสาคร โดยมีสายลับคนใกล้ตัวบอสพอลมาร่วมแฉ เรื่องเงินจำนวนมหาศาล และการติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วย ขอบคุณภาพจากเพจ Facebook : ษิทรา เบี้ยบังเกิด