ภาพคุ้นตาระหว่าง ‘คน’ กับ ‘ลิง’ ที่อาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน แต่หากหลายปีที่ผ่านมาการเพิ่มจำนวนของประชากรลิงในเมืองลพบุรี กลับกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับผู้อยู่อาศัยและห้างร้านย่านเมืองเก่า จนกลายเป็นการตั้งคำถามว่า ‘คน’ กับ ‘ลิง’ จะอาศัยอยู่ร่วมกันยังไงในเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้
‘หมอเตย’ หรือ ‘สัตวแพทย์หญิงจุฑามาศ สุพะนาม’ – ผู้เป็นสัตว์แพทย์หญิงซึ่งเปิด ‘คลินิกหมอเตย’ เพื่อรักษาสัตว์ในเมืองลพบุรี ซึ่งกว่า 20 ปีที่ผจญภัยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับลิง จนได้มีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการแก้ไขปัญหาเรื่องลิงในระยะยาวในโครงการ ‘สวนลิง’ มาแล้ว กล่าวกับทีมข่าวถึงปัญหาระหว่างลิงกับคนว่า
“แต่ก่อนมันก็สงบมาตลอดนะ สิ่งที่ออกมาในช่วงหลังคือปริมาณลิงมากขึ้น บางครั้งด้วยนิสัยของสัตว์มันก็หิวแต่คนก็จะไม่เข้าใจ มีข้อรังเกียจพฤติกรรมตามธรรมชาติของลิง”
ในขณะที่เหตุการณ์จากแฮชแท็ก #โรงเรียนชื่อดังในลพบุรี ที่พบพฤติกรรมว่ามีนักเรียนได้ทำร้ายลิงนั้นคุณหมอได้เล่าว่าการทำความเข้าใจพฤติกรรมของลิงและการถ้อยทีถ้อยอาศัยเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากคนกับลิงในจังหวัดลพบุรีก็อยู่อาศัยร่วมกันมานานจนเรียกได้ว่าย้อนประวัติศาสตร์เมืองลพบุรีกลับไป ลิงกับคนก็ยังเป็นสองสิ่งที่ยังคงอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้แม้กาลเวลาจะผ่านไปนาน
“คือคนกับสัตว์ ลิงกับคนลพบุรีมันใช้พื้นที่ร่วมกัน อย่างลิงมันก็อยู่มา 100 ปี ตามตำนานอะไร คนลพบุรีเองก็รู้ วันนึงคนมีการจับจองพื้นที่ของลิง พอลิงที่มันอยู่ก่อนมันเพิ่มจำนวนขึ้นเราก็ต้องเข้าใจในบริบทนี้ก่อน”
”คือเราต้องเข้าใจเค้าว่าธรรมชาติของเขาคือสัตว์ เขาก็หิว เราก็ยังหิว แต่เขาสื่อสารไม่ได้ บวกกับความซุกซน ชอบปีนป่ายของความเป็นลิง บางคนอาจไม่เข้าใจนะเวลามีโครงการไปให้อาหารลิง หรืออะไรแบบนี้ จะมองว่าคนให้อาหารคือตัวปัญหา ทำให้ลิงออกลูกออกหลาน แต่จริง ๆ ถ้าเราพยายามเข้าใจลิงว่าเขาจะโกยอาหารใส่ปาก เขาได้ เขาอิ่มเขาก็ไป เขาก็จะไม่มาบุกรุกบ้านเรา”
ด้านการอาศัยอยู่ร่วมกันคุณหมอกล่าวว่ามีหลายร้านในตัวเมืองเก่าของลพบุรี อย่างร้านชโยวานิชที่มองลิงไม่ใช่ปัญหาและอาศัยอยู่ร่วมกันได้ หรือจะเป็นร้านมาลัยรามาที่เปิดลานหน้าบ้านให้ลิงมาอาศัย มากินน้ำ ผ่อนคลาย ซึ่งเหล่านี้เป็นแนวทางที่เห็นว่าลิงกับคนสามารถอาศัยอยู่ร่วมกันได้ แต่ในระยะยาวก็มีโครงการที่น่าสนใจที่คุณหมอได้กล่าวว่ามีการพยายามที่จะนำลิงในตัวเมืองออกมาควบคุมดูแลเช่น โครงการสวนลิง ที่ปัจจุบันผ่านมานานหลายปีกลับไม่ได้ใช้ ร่วมทั้งพื้นที่มีความคับแคบไม่สามารถนำลิงจำนวนมากมาอาศัยอยู่รวมกันได้
“ปกติลิงเองเขาจะมีพื้นที่รอบตัวของเขาประมาณ 1.5- 2 เมตร แต่พื้นที่สวนลิงมีประมาณ 5-7 ไร่ ซึ่งจุลิงได้ 150 ตัวก็แน่นแล้ว จริง ๆ คุณหมอเคยร่วมกับกรมอุทยานฯ ราวปี 2560-2561 สำรวจพื้นที่ใหม่ที่จะย้ายลิงไปตรงบริเวณเขาพระยาเดินธง ซึ่งเราจะสร้างเป็นนิคมลิง มีพื้นที่ประมาณ 1000 ไร่ มีการทำประชามติจากชาวบ้านแถวนั้น มีการกำหนดแนวป้องกันลิง ถึงขนาดที่ว่าพี่เองยังไปช่วยเลือกต้นไม้ที่ลิงหากินตามธรรมชาติได้อย่างต้นมะเดือ มะขาม แต่พอผ่านไปโครงการก็พับเก็บไปจากโควิดระบาด”
คุณหมอยังกล่าวว่าปัจจุบันการแก้ปัญหาลิงลพบุรียังเป็นปลายเหตุ เช่น โครงการให้อาหารลิง หรือแม้แต่การพยายามนำลิงมาทำหมัน
“พี่ก็พยายามนะ เอาเขามารักษา ป่วยก็ดู ตายก็ฝัง พิการก็เลี้ยงแต่ทุกอย่างมันเป็นปลายเหตุ มันเหนื่อยนะ พี่ก็อยู่ไม่นาน ก่อนตายก็อยากช่วยให้ได้ อยากฝากไปให้ภาครัฐแก้ไข พี่ก็รออัศวินขี่ม้าขาว ที่จะเอาโครงการพวกนี้มาปัดฝุ่นใหม่”
ในส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคุณหมอเองได้ฝากถึงน้องนักเรียนว่าตอนนี้เองคงได้เรียนรู้และเชื่อว่าน้องคิดได้แล้ว ที่เหลือก็เป็นเวลาที่ปรับปรุงตนเอง “ตอนนี้ก็อยู่ที่เขาว่าประสบการณ์วันนี้จะทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่แบบไหน”
โดยข้อมูลจากคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาลิงและคณะทำงานสนับสนุนการแก้ไขปัญหาลิงลพบุรี เรื่องสถานการณ์จำนวนประชากรลิงลพบุรี มีการสำรวจและรวบรวมข้อมูลโดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สระบุรี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช ณ เดือนกันยายน 2561 พบว่ามีประชากรลิงเพิ่มขึ้นเป็น 7,582 ตัว โดยเป็นเขตเมืองลพบุรี จำนวน 3,260 ตัว และเป็นลิงในพื้นที่รอบนอก จำนวน 4,322 ตัว
#ThePublisher#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่Website https://www.thepublisherth.com