Browsing: News

หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ซึ่งรัฐบาลรับลูกเตรียมดำเนินการให้สำเร็จภายในปี 2568 ล่าสุด ส.อ.ท. ชู 4 แนวทางลดค่าไฟฟ้า มั่นใจกดราคาได้ต่ำกว่า 3.70 บาทต่อหน่วยทันทีในปีนี้ นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เสนอมุมมองการบริหารทางเศรษฐกิจ โดยชี้ว่าโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (ประเภทไม่มีเชื้อเพลิง) แม้หมดสัญญาก็ยังผลิตไฟฟ้าได้ จึงควรเจรจาปรับลดค่าไฟฟ้า ดังนี้ โรงไฟฟ้าคืนทุนแล้ว: ทบทวนราคาใหม่ คิดตามต้นทุนจริง (ค่าซ่อมแซม ค่าบำรุงรักษา) แต่ไม่เกินราคาโรงไฟฟ้าพลังงานผันแปรใหม่โรงไฟฟ้ายังไม่หมดสัญญา: ทบทวนราคาค่าไฟฟ้าที่ไม่มี adder ให้เป็นไปตามราคาโรงไฟฟ้าใหม่ รัฐบาลอาจยืดระยะเวลาสัญญาเป็นการชดเชยโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP): เจรจาปรับลดค่าพร้อมจ่าย (AP) โดยรัฐบาลอาจขยายระยะเวลาสัญญาให้ค่าผ่านท่อแก๊ส NG: คืนทุนแล้วควรปรับลดราคาลงมาให้เหมาะสม นายอิศเรศ มั่นใจว่า หากภาครัฐดำเนินการตามแนวทางนี้ ค่าไฟฟ้าจะลดลงต่ำกว่า 3.70 บาทต่อหน่วยได้ทันทีในปีนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กกพ. เสนอแนวทางลดค่าไฟฟ้าทันที 17 สตางค์ต่อหน่วย โดยให้ทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขการสนับสนุน Adder และ Feed in Tariff (FiT) เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

กรมที่ดิน เผยขั้นตอนดำเนินการภายหลังกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งเพิกถอนการโอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ โดยระบุว่า หากรองปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเพิกถอนคำสั่งปลัดกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 13 มีนาคม 2545 จะมีผลให้คำสั่งอธิบดีกรมที่ดินกลับมามีผลบังคับใช้ โดยมีขั้นตอนดังนี้ แจ้งผล : กรมที่ดินแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ของรองปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมแจ้งสิทธิการฟ้องคดีให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบ เพิกถอนรายการจดทะเบียน : แจ้งจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้สำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาคลองหลวง ดำเนินการหมายเหตุการเพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนมรดกที่ดิน และขายรวมสองโฉนด (โฉนดเลขที่ 20 และ 1446) รวมถึงรายการจดทะเบียนลำดับต่อมา และเพิกถอนโฉนดที่ดินแปลงแยกที่ออกสืบเนื่องจากโฉนดทั้งสองแปลง ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 โอนกรรมสิทธิ์คืน : เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่ 2 แล้ว โฉนดที่ดินเลขที่ 20 และ 1446 จะกลับมาเป็นทรัพย์มรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ ในฐานะผู้จัดการมรดก สามารถจดทะเบียนโอนมรดกตามพินัยกรรมให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหารได้ วัดบริหารจัดการ: วัดธรรมิการามวรวิหาร สามารถนำที่ดินดังกล่าวให้ผู้ครอบครองคนปัจจุบันเช่า หรือออกหนังสือรับรองทรัพย์อิงสิทธิ หรือโอนที่ดินโดยการตราเป็นพระราชบัญญัติ ตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนรายการจดทะเบียนที่ดินและโฉนดที่ดิน สามารถใช้สิทธิยื่นคำฟ้องพร้อมขอทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองต่อศาล หรือยื่นคำขอให้กระทรวงมหาดไทย/กรมที่ดิน ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ สำหรับการดำเนินการให้อัลไพน์กลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจของนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่รับผิดชอบเรื่องนี้

กรุงเทพฯ – นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง 2 องคมนตรี พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ และ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา ให้ตรวจสอบการแต่งตั้ง พ.ต.อ.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ขึ้นเป็นผู้การกาฬสินธุ์ โดยระบุว่า พ.ต.อ.ศิรสัณห์ มีประวัติพัวพันคดียิงวัดพระแก้ว สมัยกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมปี 2553 นายวัชระ อ้างว่า พ.ต.อ.ศิรสัณห์ ชื่อเดิมคือ พ.ต.ท.ศุภชัย ผุยแก้วคำ เคยถูก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง (ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.) จับกุมในคดียิงวัดพระแก้ว พร้อมนำตัวส่งให้ DSI คุมขัง แต่ต่อมา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี DSI ในขณะนั้น กลับปล่อยตัวไป “ผมขอให้ท่านองคมนตรี ตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมในการเสนอชื่อ พ.ต.อ.ศิรสัณห์ ขึ้นเป็นผู้การกาฬสินธุ์ ว่าเหมาะสมหรือไม่” นายวัชระ กล่าว นอกจากนี้ นายวัชระ ยังยื่นหนังสือถึง นายชัยชนะ เดชเดโช ประธาน กมธ.ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบการแต่งตั้งดังกล่าวของ สตช. และการปล่อยตัวผู้ต้องหาของ DSI ด้วย ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ชี้แจงว่า การแต่งตั้ง พ.ต.อ.ศิรสัณห์ เป็นไปตามระเบียบ โดยมีการตรวจสอบคุณสมบัติครบถ้วน และ พ.ต.อ.ศิรสัณห์ มีความรู้ความสามารถ ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ จึงได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น

จากกรณีที่ น.ส.ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ เจ้หนิง เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ขอให้ดำเนินคดีกับ นางศิรินัดดา หักพาล หรือ เมียบิ๊กโจ๊ก และพวก ร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน และร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานเป็นทองคำและเงินสด รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 โดยกล่าวอ้างว่า เมียบิ๊กโจ๊กได้นำกระเป๋าสายรุ้งจำนวนหนึ่ง ไปฝากไว้ที่คอนโด ที่ห้องเกิดเหตุ เลขที่ 8/125ชั้น 7 กรีนคอนโด ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของสามี ที่เป็นอาจารย์สอนโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และหลังจากนั้นได้ให้ลูกน้อง ไปขนของกลับ โดยอ้างว่าระหว่างที่มีการขนของกลับ ทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินสดและพระเครื่อง รวมถึงสร้อยคอทองคำ ที่เก็บไว้ในห้องเดียวกันได้ มูลค่ารวม 5 ล้านบาท ได้หายไป กระทั่งวันที่ 23 และ 24 ตุลาคม 2567 พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ได้สอบสวนปากคำผู้เกี่ยวข้อง และออกหมายจับเมียบิ๊กโจ๊ก โดยเจ้าตัว ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.พระโขนง ทันที หลังถูกออกหมายจับ ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่า ตามวันเวลาที่ เจ้หนิง กล่าวหา เมียบิ๊กโจ๊ก เรื่องการลักทรัพย์นั้น เมียบิ๊กโจ๊ก ไม่ได้ไปปรากฏตัวตามวันและเวลา รวมถึงสถานที่เกิดเหตุตามที่เจ้หนิง กล่าวอ้าง แต่อย่างใด และพนักงานสอบสวน ยังมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันได้ว่า หลานเจ้หนิง ซึ่งเป็นพยานที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์นั้น แท้จริงแล้วไม่ได้อยู่ที่เกิดเหตุตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ดังนั้น วันนี้ 16 มกราคม 2568 พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง จึงได้สั่งไม่ฟ้อง เมียบิ๊กโจ๊ก ขณะที่นางศิรินัดดา หักพาล เมียบิ๊กโจ๊ก ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ที่คืนความยุติธรรมหลังจากมีคำสั่งไม่ฟ้อง พร้อมบอกด้วยว่าขั้นตอนหลังจากนี้ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่เมียบิ๊กโจ๊กแจ้งความดำเนินคดีกับหนิงสามีและหลานชาย ตำรวจได้มีการออกหมายจับและเข้าจับกุม หลานชายหนิง สามี…

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ให้สัมภาษณ์ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ถึงความคืบหน้าในการติดตามผลการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของแพทยสภาว่า ทางอนุกรรมการฯ ที่ตรวจสอบเรื่องนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนจากโรงพยาบาลตำรวจตามที่ขอไปและขีดเส้นให้ส่งข้อมูลภายในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าการป่วยที่ชั้น 14 ยิ่งมีพิรุธมากขึ้น แต่มีคำยืนยันจากศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภาแล้วว่า จะเดินหน้าอย่างตรงไปตรงมา หลังคณะกรรมการชุดแรกเห็นว่ามีมูลความผิดเรื่องจริยธรรม ซึ่งจะพยายามให้จบภายในเดือนมีนาคมนี้ “ผมยังมั่นใจว่าการเมืองจะเข้าไปแทรกแซงแพทยสภาไม่ได้ เพราะเป็นองค์กรที่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์สูง ท่านอาจารย์อมรก็ยืนยันจะยึดมั่นในจรรยาบรรณเพื่อไต่สวนเรื่องนี้ โดยคปท.จะติดตามต่อเนื่อง และในวันที่ 21 ม.ค.68 จะร่วมกับอดีตแกนนำพันธมิตรฯ กปปส. และนปช. พร้อมคณะชุดใหญ่ เดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อทวงถามทั้งเรื่องชั้น 14 เพื่อให้นายกฯ มีท่าทีชัดเจนกับเรื่องเหล่านี้ในฐานะผู้นำประเทศที่ต้องดำรงไว้ซึ่งระบบนิติรัฐ นิติธรรม ต้องแยกระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพ่อ ยึดหลักการบริหารประเทศมาปกครอง ต้องสั่งให้รพ.ตำรวจส่งเอกสารให้แพทยสภาและป.ป.ช.” นายพิชิตกล่าว ทั้งนี้ นอกจากเคลื่อนไหวเรื่องชั้น 14 แล้ว ในวันที่ 21 ม.ค.68 จะมีการแสดงพลังคัดค้านกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายด้วย ซึ่งขณะนี้เสียงคัดค้านดังขึ้นเรื่อย ๆ โดยในวันที่ 25 ม.ค. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาสี่แยกคอกวัว คปท.ก็จะจัดกิจกรรมต่อเนื่องชุมนุมย่อยเที่ยงวันยันเที่ยงคืนในวันดังกล่าว มีทั้งการปราศรัย ดนตรี และการแจกสติกเกอร์คัดค้าน ส่วนกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาลกล่าวหาว่ากลุ่มที่ออกมาคัดค้านรับผลประโยชน์จากกลุ่มทุนสีเทาเพื่อล้มเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น นายพิชิต เห็นว่า เป็นการกล่าวหาที่จะทำมาโดยตลอดหากประชาชนไม่เห็นด้วย ก็จะบอกมีคนอยู่เบื้องหลังทั้ง ๆ ที่รัฐบาลเองนั่นแหละที่มีคนอยู่เบื้องหลัง หรืออาจจะอยู่เบื้องหน้าด้วย คือนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชี้นำชักใยรัฐบาลอยู่ อย่าโทษประชาชน เพราะเรื่องนี้เป็นสามัญสำนึกของประเทศ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ทุกคนอยากแสดงพลังว่า ห่วงใยต่อทิศทางพัฒนาประเทศด้วยกาสิโนและพนันออนไลน์ เพราะท้ายที่สุดไม่รู้ว่าเมื่อเงินออกจากกระเป๋าประชาชนแล้วเงินไปเข้ากระเป๋าใคร อีกทั้งยังแก้ปัญหาพนันใต้ดินไม่ได้ด้วย

นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์กับ The Publisher ผ่านรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ถึงปัญหาโครงสร้างค่าไฟที่ยังมีไขมันอยู่หลายจุดส่งผลให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟแพง โดยเห็นว่ามติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. จะเสนอยกเลิกจ่ายค่า Adder-Fit ซึ่งจะทำให้ลดค่าไฟฟ้าไปได้ 17 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย จะลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วยนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะสามารถที่จะรีดไขมันส่วนอื่นได้อีก เช่น ค่าความพร้อมจ่าย ซึ่งในรอบสี่เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาทบวกกับโรงไฟฟ้าที่ซื้อจากลาวอยู่ที่ 5,300 ล้านบาท ถ้าลดลงมาได้ครึ่งหนึ่งจะทำให้ลดค่าไฟฟ้าได้ 17-20 สตางค์ต่อหน่วย “การปรับโครงสร้างราคาใหม่ ยกเลิก Adder และค่าความพร้อมจ่ายจะลดค่าไฟฟ้าได้ สภาองค์กรของผู้บริโภคเคยเสนอรัฐบาลไปแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการ เมื่อนายกฯ มีนโยบายลดค่าไฟฟ้าก็ควรประกาศนโยบายเลยว่าต้องการคุมราคาค่าไฟฟ้าอยู่ที่เท่าไหร่ เช่น 3.70 บาทต่อหน่วยตามที่พ่อนายกฯ พูด เมื่อกำหนดแล้วรัฐบาลจะสามารถใช้หลักนำนโยบายนี้ไปต่อรองเพื่อขอลดค่าความพร้อมจ่ายหรือยกเลิกกับเอกชน เนื่องจากตามสัญญามีการระบุถึงเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถนำไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียได้ หนึ่งในนั้นมีเรื่องนโยบายรัฐรวมอยู่ด้วย หากต้องการลดค่าไฟจริงก็ประกาศเป็นนโยบายออกมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปดำเนินการ ไม่ต้องกลัวเรื่องค่าโง่ สามารถเปิดฉากเจรจาจัดการเรื่องค่าพร้อมจ่าย หรือแม้แต่ค่าพลังงานไฟฟ้าหรือซีพีที่มีค่าใช้จ่ายหมื่นกว่าล้านบาทด้วย จะทำให้กลัดกระดุมเม็ดแรกได้ถูกต้อง แต่ถ้านายกฯ ไม่ประกาศนโยบายที่ชัดเจนก็จะเป็นการหลอกประชาชนไป เพราะไม่สามารถดำเนินการได้” สำหรับองค์ประกอบค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.68 มีการประมาณยอดการใช้ 7 หมื่นล้านหน่วย มีค่าซื้อไฟฟ้าในประเทศกว่า 1.2 แสนล้านบาท ค่าเชื้อเพลิงกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐบาลอีก 1 หมื่นล้านบาท และกองทุนพัฒนาพลังงานอีกกว่า 300 ล้านบาท รวมเป็นค่าใช้จ่ายราว 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะถูกคำนวณอยู่ในค่า FT หากรีดไขมันออกได้ ทั้ง Adder-Fit ที่ต้องจ่ายให้โรงไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดเล็กมาก รวมถึงค่าความพร้อมจ่ายกับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ จะทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงไปอยู่ที่ 3.70 บาทต่อหน่วยได้อย่างแน่นอน “เรามีไขมันพอกอยู่รอบเอวเลย เมื่อก่อนเรามองว่า กฟผ.เป็นเสือนอนกิน แต่ตอนนี้เห็นภาพชัดว่าค่าพร้อมจ่ายทำให้โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่กลายเป็นเสือนอนกิน เอ่ยชื่อมาก็รู้จักกันทั้งประเทศ กองอยู่ในระบบกับการได้ผลประโยชน์ในระบบ เชื่อว่านายทักษิณ ชินวัตร คงได้ข้อมูลตรงส่วนนี้ว่าจัดการได้ แต่อาจมีคนไปเสนอว่าให้ไปรีดไขมันกับกฟน.และกฟภ. แสดงว่าคนเสนอต้องอยู่กับโรงไฟฟ้าใดโรงไฟฟ้าหนึ่ง ไม่อยากให้ไปแตะผลประโยชน์ส่วนนี้…

เป็นประเด็นร้อนที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ในชื่อ “โครงการประชุมชี้แจงสถานการณ์ และการแก้ไขปัญหาช้างป่า และรับฟังความคิดเห็นการควบคุม กำเนิดช้างป่า” เพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบกับประชาชน โดยมีตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ จากช้างป่า ตัวแทนกลุ่มคนรักษ์ช้าง นักวิชาการ และคณะกรรมาธิการฯ และสื่อมวลชนร่วมงานอย่างคับคั่ง เริ่มจากนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ ชี้แจงสถานการณ์ช้างป่าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัญหาช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภาคตะวันออก จึง กำหนด 6 มาตรการแก้ไขปัญหา คือ จัดพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อเป็นแหล่งอาศัยของช้างป่า จัดทำแนวป้องกัน จัดชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ จัดพื้นที่รองรับช้างป่า อย่างยั่งยืน ควบคุมประชากรช้างป่าด้วยวัคซีนคุมกำเนิด โดยเฉพาะเรื่องฉีดวัคซีนคุมกำหนดช้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น เป็นประเด็นหลักที่ต้องเปิดเวทีรับฟังความเห็น ด้าน รศ.นสพ.ดร.ฉัตรโชติ หัวหน้าศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งรับหน้าที่พัฒนาโครงการศึกษาวิจัยการใช้วีคซีนคุมกำเนิด Spayvac ให้ข้อมูลว่ามีการใช้จริงมาแล้วในช้างแอฟริกา ปรากฎ วัคซีนมีความปลอดภัย ไม่ส่งผลเสียหรือเป็นอันตรายต่อช้าง ไม่กระทบต่อช้างที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ ไม่เกิดปัญหาเป็นหนองในมดลูกของช้าง เช่นเดียวกับหมาแมว เพราะเป็นคนละชนิด และมีการวิจัยกันมา 20-30 ปีแล้ว ซึ่งหากใช้วัคซีนนี้จริงจะเป็นประเทศแรกนำร่องของเอเชีย พร้อมระบุวัคซีนนี้ เป็นการชะลอการเกิด หรือลดจำนวนช้างป่าให้เท่ากับเขตป่าอื่นๆ หลังจากช้างป่าส่วนหนึ่งในเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ออกมานอกพื้นที่ป่า หากินพืชผลทางการเกษตรหมุนวนทั้งข้าว มันสำปะหลัง สัปปะรด มีความสมบูรณ์ตลอดเวลา ทำให้สืบพันธุ์มากขึ้น ประชากรช้างจึงเพิ่มขึ้นรวดเร็ว ต่างจากช้างในป่า ที่มีวิธีคุมกำเนิดตามธรรมชาติด้วยอาหารในป่า ที่เป็นฤดูกาลของป่า สอดคล้องกับความเห็นของทางอุทยานฯ ที่ระบุ เป้าหมายช้างที่ต้องควบคุม คือนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เป็นประชากรช้างที่ไม่กลับเข้าสู่ป่า ไม่ใช่ลดประชากรช้างในป่า ในเวทีดังกล่าวปรากฏมีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย หนึ่งคือที่เห็นด้วย เพราะได้รับผลกระทบจากช้างป่าในพื้นที่ เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วย เห็นว่า การฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้าง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาช้างออกนอกพื้นที่ได้ เป็นห่วงถึงสวัสดิภาพของช้างว่าจะมีการติดตามอาการ และประเมินผลอย่างไร…

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางการจีนพร้อมทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อปราบปรามการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมข้ามพรมแดน หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้พบปะหารือกับคณะนักการทูตจาก 10 ประเทศอาเซียนในกรุงปักกิ่ง โดยกล่าวว่ากรณีการพนันออนไลน์และการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ได้เป็นภัยคุกคามและอันตรายต่อผลประโยชน์ของพลเมืองจีนและประเทศอื่น ๆ ถือเป็นสถานการณ์ที่ต้องใส่ใจอย่างมาก พร้อมแสดงความหวังว่าประเทศที่เกี่ยวข้อง จะรับผิดชอบและดำเนินมาตรการอันเข้มงวดเพื่อปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชน และไม่ปล่อยให้อาชญากรลอยนวล โดยจีนยินดีจะเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคีด้านการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยต่อการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและความร่วมมือที่เป็นระเบียบอันดีในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ขอบคุณภาพ สนข.ซินหัว : รมว.ตปท.จีนพบคณะนักการทูตอาเซียน ในกรุงปักกิ่งของจีน ( 16 ม.ค. 2568)

นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว และมาตรการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างคับคั่ง หลังพบนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกเดินทางมาประเทศไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีน จากข่าวที่แพร่หลายกรณีดาราหนุ่มซิงซิง เป็นต้นมา เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ นายกฯ ระบุที่ผ่านมามีข่าวที่สร้างผลกระทบในทางลบ ต่อประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขายอวัยวะเถื่อน แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกหลวง ทัวร์ศูนย์เหรียญ ปัญหาทุนจีนสีเทา ถึงไม่ได้เกิดจากการหลอกลวงของคนไทย แต่เมื่อเกิดขึ้นในประเทศไทย ก็สร้างความวิตกกังวลให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ถึงมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการทุกหน่วยงานยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงาน บูรณาการร่วมกันปราบอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเด็ดขาด นายกฯ บอกด้วยว่าได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคง ยกระดับการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประชาสัมพันธ์ สร้างแรงจูงใจให้มาเที่ยวเมืองไทย พร้อมยืนยันนักท่องเที่ยวชาวจีนไม่ได้ลดลงอย่างที่เป็นข่าว มีนักท่องเที่ยวชาวจีน 1.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว พร้อมยืนยันว่าประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีน และเชิญชวนเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน และโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี ไทย-จีนด้วย

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร ได้แสดงวิสัยทัศน์ นำธุรกิจใต้ดิน การพนันออนไลน์ มาทำให้ถูกกฎหมาย ประกาศผลักดันให้มีการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร (entertainment complex ) ในหลายเวที จนกระทั่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร ทำไม่มีเสียงคัดค้านขยายผลออกไปอย่างกว้างขวางจึงก่อให้เกิดความเห็นที่แตกต่างในสังคมทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน ซึ่งจะไม่มีข้อยุติที่ชัดเจน ถ้าหากไม่มีการทำประชามติ สอบถามความเห็นของประชาชนทั้งประเทศ แต่กลับส่งนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล ออกมากล่าวหาว่า มีขบวนการกลุ่มทุนที่จ้องจะล้มล้างไม่ให้เอาของใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน น่าจะเป็นเรื่องการสร้างข่าวแบบตีปลาหน้าไซ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้โครงการเปิดบ่อนคาสิโนของรัฐบาล ดิสเครดิตกลุ่มที่คัดค้านว่า เป็นเครื่องมือของกลุ่มทุนธุรกิจใต้ดิน หรือกลุ่มทุนสีเทา ซึ่งเป็นลูกไม้เดิม ๆ อดีต สส.นครศรีธรรมราช เชื่อว่า รัฐบาลจะพยายามผลักดันให้สำเร็จ แม้ว่าในเบื้องต้นจะมีความขัดแย้งและเห็นต่างอยู่บ้างในบางส่วน เพราะพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะประสานประโยชน์กันได้ลงตัว ใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.สถานที่ตั้งของ สถานบันเทิงครบวงจร หรือบ่อนคาสิโน จะมีการกำหนดสถานที่ ตามที่กลุ่มทุนของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลต้องการ 2.ใบอนุญาตการตั้งบ่อนคาสิโน จะต้องมีการแบ่งประโยชน์กันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างลงตัว ถ้าหาก 2 ส่วนนี้ มีการประสานประโยชน์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างลงตัวแล้ว โครงการนี้ก็จะผ่านฉลุย และพรรคร่วมรัฐบาลจะมีความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง สามารถสร้างหลักประกันได้ว่า ในการเลือกตั้งปี 2570 จะมีกระสุนดินดำพร้อม เพียงพอ ที่จะไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง “โครงการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจรและบ่อนคาสิโน จะเป็นเค้กก้อนโตอีกก้อนหนึ่ง ที่พรรคร่วมรัฐบาลหมายมั่นปั่นมือ จะนำไปใช้เป็นทุนเลือกตั้งครั้งต่อไป” นายเทพไท กล่าว