นับเป็นอีกหนึ่งข่าวดีล่าสุด เมื่อบริษัทสตาร์ทอัพรักษ์โลก “Flash Forest” ณ เมืองโตรอนโต แคนาดา ได้ริเริ่มนำร่องการปลูกป่าแบบใหม่ ด้วยการใช้โดรนเพื่อปลูกต้น ซึ่งสามารถปลูกได้เร็วกว่าการใช้พลั่วของคน ถึง 10 เท่า โดยมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ให้ครบ 1 พันล้านต้นภายในปี 2028 นี้
.
ด้วยต้นทุนทางเทคโนโลยีที่ถูกกว่าวิธีการปลูกต้นไม้แบบดั้งเดิมถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ทาง “Flash Forest” ได้ว่าผสมผสานเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และ วิทยาศาสตร์ทางนิเวศวิทยาเข้าด้วยกัน ด้วยการดัดแปลงและควบคุมโดรน เพื่อยิงเมล็ดต้นไม้ลงไปในดิน โดยการปลูกต้นไม้แบบนี้ มีประสิทธิภาพกว่าแบบทั่วไปอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับการปลูกป่า ซึ่งเหมาะสมกับช่วงสถานการณ์ที่จำเป็นต้องมีการปลูกป่าทั่วโลกอย่างรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
.
โดรนเหล่านี้จะมีการติดตั้งระบบการยิงแบบใช้ลม ซึ่งช่วยควบคุมระดับความลึกในการปล่อยฝักเมล็ดพันธุ์ และ ยังสามารถช่วยให้มีการเข้าถึงพื้นที่ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้อีกด้วย
.
สำหรับขั้นตอนในการปลูกนั้น จะเริ่มต้นจากฝักต้นไม้ ที่จะถูกทำด้วยมือ ซึ่งประกอบด้วยเมล็ดที่งอกแล้วอย่างน้อย 3 เมล็ด ไมคอร์ไรซา (เชื้อราชีวภาพประเภทหนึ่ง) ปุ๋ย และส่วนผสมอื่นๆ ที่พืชชื่นชอบ
.
โดรนจะใช้ซอฟต์แวร์เข้าช่วย เพื่อค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมในการปลูก และ เริ่มคาดคะเนพื้นที่ในการปลูก โดยจะทำการหย่อนฝักเมล็ดด้วยความแม่นยำสูงลงไปยังพื้นที่เหล่านั้น
.
หลังจากการปลูกนั้นเสร็จสิ้นแล้ว ทีมงานยังสามารถติดตามกระบวนการ โดยใช้โดรนฉีดพ่นเพื่อให้สารอาหารแก่ต้นกล้า และ ใช้โดรนอีกตัวหนึ่งเพื่อคอยจับตาดูกระบวนการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งทางบริษัทเอง ก็ได้เริ่มปลูกต้นไม้ทั่วเมืองออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา (Ontario, Canada) แล้ว
.
.
#Update
#ThePublisher #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม